อ.สุขุม นวลสกุล กูรูการเมืองไทย วิเคราะห์ พลังอำนาจ เกมการเมืองของ ทักษิณ ลุงป้อม และ เศรษฐา กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากวันที่ 18 มิ.ย.....
18 มิถุนายน ในปีหน้า (2568) จะครบรอบวันสำคัญทางการเมืองอย่างไร ก็คงต้องรอดูผลภายในไม่กี่ชั่วโมงนี้ กับ 4 เหตุการณ์สำคัญทางการเมือง
1. อัยการสูงสุด นัด “ทักษิณ ชินวัตร” ส่งฟ้องในคดี มาตรา 112 สิ่งที่ต้องจับตา คือ มาหรือไม่ ได้ประกันหรือไม่ได้ประกัน
2. คดียุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล กรณีล้มล้างการปกครอง
3. ศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งผู้ฟ้องคดีรวม 2 คำร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 107 หรือไม่
4. คดีถอดถอน นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ปมตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายเศรษฐา โดนเอง กับประเด็นการแต่งตั้งดังกล่าว นายกฯ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
นี่คือ 4 เรื่องที่ต้องจับตากันวันนี้ แต่สิ่งที่ “เรา” จะโฟกัส ในรายงานพิเศษชุดนี้ คือ พลังอำนาจของทักษิณ ชินวัตร หลังวันที่ 18 มิ.ย. และความใฝ่ฝันของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และการโอกาสรอดของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
...
อาจารย์สุขุม นวลสกุล นักวิเคราะห์ และกูรูการเมืองไทย วิเคราะห์ว่า วันนี้ (18 มิ.ย.) มันไม่มีอะไร แต่คนก็มักจะตั้งคำถามว่า มันจะมีเรื่อง... ที่จะมีเรื่องเพราะเราพยายามมองว่ามันจะมีเรื่อง ทุกอย่างก็คงต้องเป็นไป
“การที่คุณทักษิณ กลับมาได้แปลว่า ต้องมี “ดีลใหญ่” อยู่แล้ว ถ้าไม่มีดีลใหญ่ คงไม่กลับมา คนอย่างเขาก็คงเอาตัวรอดไปได้ ขณะที่ คุณเศรษฐา ก็เหมือนกัน...เพราะส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
ส่วนตัวเชื่อว่า 2 เหตุการณ์นี้ (ทักษิณ-เศรษฐา) จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่คนดู คนเชียร์การเมือง ชอบเรื่องความขัดแย้ง ก็เลยมานั่งสมมติกันแบบนี้ แล้วแบบนี้จะแก้ไขอย่างไร
สถานการณ์พรรคเพื่อไทย จะอยู่หรือไป อาจารย์สุขุม ตอบทันควันว่า “อยู่...เขาออกมาประกาศแล้ว เขาบอกแล้วว่าพรรคเขาจะเป็นพรรคที่สู้กับก้าวไกล ซึ่งวันที่นายทักษิณ ไปงานบวช ก็พูดชัดเจน ก็แสดงว่า พรรคอื่น ที่คิดว่าสู้พรรคก้าวไกล หรือกลัวพรรคก้าวไกล กลัวว่าจะสู้ไม่ได้ แต่ “ทักษิณ” อาสาที่จะต่อสู้
“ต้องยอมรับว่า กลุ่มอำนาจเก่า ไม่มีตัวผู้เล่น...การต่อสู้ทางการเมือง จำเป็นต้องอาศัย “ตัวนำ” และเวลานี้ไม่มีคนพร้อมที่จะสู้ และบางคนก็สู้ไม่ไหว อย่างกลุ่มบ้านป่ารอยต่อ”
เมื่อถามว่า กลุ่มบ้านป่าฯ เหมือนกำลังขยับ ทำอะไรบางอย่าง อาจารย์สุขุม ตอบว่า เวลานี้ขยับตัวเองยังลำบาก แล้วแบบนี้จะกลายเป็นคนที่น่าเกรงขามได้อย่างไร ที่สำคัญคือ เสียงภายในพรรค ก็ยังแตกกันอยู่ ดูแล้วไม่มีปัจจัยที่ส่งเสริมเลย นอกจากนี้ อำนาจทาง สว.ก็กำลังจะหมดด้วย”
เมื่อถามว่า ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ ทักษิณ ขัดแย้งกัน? กูรูการเมืองไทย บอกว่า ไม่ได้ขัดแย้ง เพียงแต่ลุงป้อม ก็ตั้งความหวัง แบบที่คนที่ยังไปไม่ถึงจุดหมายของตนเอง พอไม่มีใครฮือกับแก แกก็นิ่ง แต่พอมีคนมาฮือกับแก แกก็ดูมีกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เหมือนลมใต้ปีกช่วยพยุง แต่เมื่อเราดูจากข้างนอก รู้สึกว่ามัน “หมดยุค” แล้ว เพราะในกองทัพก็โชคดี คือ กลุ่มเก่าไม่ได้สร้างอำนาจไว้เลย ไม่ได้ไปต่อจนครบ เรียกว่า “หมดรอบ” ต้องใช้เวลา
เมื่อถามว่า กรณี คุณธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำในพลังประชารัฐ จะเลือกยืนอยู่ฝั่งไหน “ทักษิณ” หรือ “ลุงป้อม” อาจารย์สุขุม มองว่า เขาคงเลือกฝ่ายที่มีอำนาจ ใครจะพูดอะไรกับพลังประชารัฐ ก็ต้องเจรจากับเขา เรียกว่า “ใครยอมรับอำนาจเขา...เขาก็ไปด้วย” ขณะที่ภายในพรรคเอง เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่มีใคร มีแต่คนนอนแบกอยู่ มันเหมือนไม่มีชีวิตชีวา การเมืองมันต้องยอมรับความจริง มันถึงเวลาลง มันก็ลง...
...
ตอนนี้สัมพันธ์ ธรรมนัส กับ ลุงป้อม เป็นอย่างไร อ.สุขุม บอกว่า เป็นเหมือนหัวหน้ากับลูกน้องในแบบโบราณ “ผมอาจจะเป็นลูกน้องคุณ แต่...อาจจะไม่ทำทุกอย่างตามที่คุณว่า...ผมแข็งแรงขึ้นนะ ท่านต้องเห็นความสำคัญของผมนะ” ตรงนี้เห็นชัด โดยเฉพาะ การขอ ก.เกษตรฯ ดูแลพรรคเดียว
การดำรงอยู่ของก้าวไกล จะมีผลอย่างไร ในทางการเมือง อาจารย์สุขุม ตอบว่า เท่าที่ติดตาม เขาพยายามล็อกก้าวไกล ด้วยองค์กรอิสระ โดยเฉพาะประเด็น 112 นี่คือ อีกฝั่งเขาคิด
ขณะที่ “ก้าวไกล” ก็มีความเชื่อว่า ยิ่งตียิ่งโต ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างมั่นใจในวิธีการของตัวเอง
แล้วทั้ง 2 วิธีการนี้เป็นอย่างไร อาจารย์สุขุม ตอบว่า “2 วิธีการนี้ไม่มีอันตรายใดๆ เพียงแต่วันนี้คนไทยเบื่อการชุมนุมประท้วง ซึ่งสุดท้ายมันจะไปจบที่การเลือกตั้ง...
อ่านบทความที่น่าสนใจ
...