คุยกับ หนุ่มร้อยเอ็ด จากอาชีพก่อสร้าง ทำมากว่า 20 ปี ก่อนชีวิตพลิกผัน หันปลูกกระเจียวหวานเพชรน้ำผึ้ง คนหาว่าบ้า แต่รายได้ดี สูงสุดมากกว่า 2 พัน ต่อวัน สุดยอดพืช ถึก ทน ปลูกง่าย... 

เรื่องราวเกษตร และแรงบันดาลใจ วันนี้ เราขอนำเสนอเรื่องราวของหนุ่มร้อยเอ็ด อาชีพทำงานก่อสร้าง รายได้ 300-400 บาท ก่อนพลิกผัน เมื่อเขามารู้จักสุดยอดพืชที่ ถึก ทน และเป็นที่ต้องการ นั่นก็คือ กระเจียวหวานเพชรน้ำผึ้ง และนี่คือ ชีวิตของ นายบุญหลาย ปัตยา เจ้าของสวนดอกกระเจียวหวานเพชรน้ำผึ้ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ้านอวยศรี ต.อัคคะคำ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด  

หนุ่มก่อสร้าง ขายแรงกาย 20 ปี ไร้ความรู้ แต่สู้ชีวิต 

นายบุญหลาย เล่าให้ฟังว่า เดิมทีเป็นคนงานก่อสร้าง เรียนหนังสือจบแค่ชั้น ป.6 ก็ขายแรงกาย ทำงานด้านนี้มาหลายปี ตั้งแต่อายุ 16 ปี จนถึง อายุ 35 ปี เงินที่มี ก็ใช้ในการดาวน์รถได้คันหนึ่ง ซึ่งเป็นรถกระบะ ใช้เดินทาง ซึ่งก็ได้กลับมาที่บ้าน จ.ร้อยเอ็ด

“อาชีพก่อสร้างมันเหนื่อย เงินก็ไม่ค่อยเหลือ ได้ค่าแรงวันหนึ่ง ประมาณ 300-400 บาท ตอนแรกก็ยังไม่ได้คิดเกษตร กะมาทำงานกับพี่เขย ซึ่งก็งานก่อสร้างเช่นเดียวกัน ได้เงินไม่พอกับงวดรถ แต่ก็ยังทำงานไป และระหว่างที่พัก ก็นอนเล่น เปิดดูยูทูบ ดูไปดูมา เห็นคลิปมีการถ่ายทำ “ดอกกระเจียวหวาน” ในคลิปบอกว่า ปลูกแล้ว สามารถสร้างรายได้ ได้ทุกวัน จึงจดเบอร์ และโทรไปถามเขา...” 

...

พี่บุญหลาย บอกว่า แถวบ้านที่ร้อยเอ็ด มันมีดอกกระเจียวป่า ปีหนึ่งเก็บได้แค่ครั้งเดียว แต่สำหรับกระเจียวหวานไม่ได้เป็นแบบนั้น จึงรู้สึกสนใจ และอยากลองดู...

โดนหาว่า “บ้า” ลงทุน 2 หมื่น ซื้อ “กระเจียวหวาน” มาปลูก 

อดีตหนุ่มก่อสร้าง ที่อยากผันตัวมาเป็นเกษตรกร เผยว่า หลังจากลองพูดคุยกับคนปลูกกระเจียวหวาน ก็เลยสั่งจอง หวังว่าจะเริ่มปลูกในปีถัดไป เพราะที่ดินที่มีเป็นของพ่อ และพ่อก็ปลูกมันขายอยู่ 

นายบุญหลาย บอกว่า ครอบครัวมีที่ดินเล็กน้อย ประมาณ 2 ไร่ หลังจากนั้นก็สั่งซื้อกล้าพันธุ์ 100 กิโลกรัม ตอนนั้นที่ซื้อกิโลกรัมละ 200 บาท คือ ลงทุน 2 หมื่นบาท เอามาลงที่ดิน 1 ไร่ ก่อน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ค่อยมีตังค์ เรียกว่า “วัดใจ” 

“หลังจากเอาพันธุ์มาลงดิน...ปรากฏว่า งอกงามเต็มไปหมด โดยเฉพาะ “หญ้า” (หัวเราะ) หญ้าขึ้นเต็มไปหมด ไม่เห็นต้นดอกกระเจียวเลย แต่หญ้าขึ้น 20-30 ซม. แต่ก็ไม่เป็นไร เราเลือกที่จะปลูกทิ้งไว้ โดยมีพ่อมาช่วยถอนหญ้าออกให้ ส่วนเราก็ไปทำงานก่อสร้าง หาเงินไปก่อน” 

นายบุญหลาย บอกว่า ตอนที่เริ่มทำใหม่ๆ ชาวบ้านแถวนั้น เขาก็มองว่า บ้าหรือเปล่า...ปลูกมัน ปลูกอ้อยดีๆ มาปลูกกระเจียวทำไม...จะไปขายใคร ไม่เหมือนอ้อย มัน ที่ปลูกแล้วมีคนรับซื้อ

พี่บุญหลาย ยอมรับว่า ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดเรื่อง “ตลาด” เหมือนกัน เรียกว่าทำแบบไม่มีความรู้ และไม่มีตลาด กระทั่งปลูกไปสักระยะ มันเริ่มงาม เริ่มเก็บได้ แต่ยังไม่รู้จะไปขายใคร และอีกอย่าง คือ ความรู้สึก “อาย” ที่จะเอาของไปขาย... 

แต่เมื่อมันได้ผลผลิตแล้ว เราจึงตัดสินใจ ขนใส่ จยย. ไปขายตามหมู่บ้านต่างๆ ผลปรากฏว่า ผลตอบรับดี ขายดี 

“เมื่อขายได้เงิน จากความอาย กลายเป็นความสนุก ได้ตังค์ทุกวัน คนในหมู่บ้านที่เห็น และเคยว่าเราบ้า เขาบอกว่าอยากจะปลูกบ้าง เอาพันธุ์มาเผื่อด้วย...” 

ปีแรกเราทำเงินได้เยอะ คนในหมู่บ้าน ประมาณ 20 กว่าคน มาขอให้เราเอาพันธุ์มาเผื่อด้วย เขาก็ปลูก ส่วนผมก็ปลูกเพิ่มเป็น 3 ไร่ คือไร่เดิมที่มีเนื้อที่อยู่แล้ว 2 ไร่ อีก 1 ไร่ ของพ่อทดลองปลูกกลางทุ่งนา 

“ยอมรับว่า การปลูกกระเจียวหวานนั้น รายได้ดีกว่าการปลูกข้าวเสียอีก 1 กำ ที่ส่งให้แม่ค้าพ่อค้า ผมขายกำละ 20 บาท (13-14 ดอก) เฉลี่ยเป็นดอก ราคา 1 บาทกว่าๆ หรือ ถ้าชั่งเป็นกิโลกรัมละ 60 กว่าบาท ฉะนั้น แค่ขายในแต่ละวัน ก็ได้เงินมา 400-500 บาท กระทั่งปลูกเข้าปีที่ 2 รายได้ เพิ่มเป็น 1,000-2,000 บาทต่อวัน ซึ่งเวลานี้ เราเพิ่มเป็น 5 ไร่” 

...

รายได้งาม 1,000-2,000 บาท/วัน 

นายบุญหลาย อธิบายว่า ช่วงการปลูกปีแรกนั้น มันจะยังไม่ค่อยสวย ไม่สมบูรณ์เท่าไร ต้องเข้าสู่ปีที่ 2-3 จะสวย โดยจะเริ่มเก็บได้ประมาณ เดือนเมษายน เก็บไปเรื่อยๆ จากนั้น มันก็จะเริ่มงอกใหม่ มีต้นใหม่แซม จากนั้นเก็บกลางดอกอีกที 

“เราเก็บขายตั้งแต่เมษายน ยาวถึง ตุลาคม เรียกว่าขายได้ทุกวัน จนถึงตุลาคม จะเริ่มหยุด เพราะหลังจากนั้น ดอกมันจะเริ่มเล็ก เราจะหยุด นอกจากนี้ เรายังมีรายได้ทางอื่น เช่น ต้นพันธุ์ เราสามารถขุดหัวขายได้ นอกจากช่วงเก็บเกี่ยวดอกสด”

นายบุญหลาย ยอมรับว่า ช่วงก่อนตัดสินใจปลูกดอกกระเจียวหวานนั้น ก็มีตัวเลือกเข้ามาในหัวหลายอย่าง เช่น มะเขือ แต่เรามาดูแล้ว พบว่า มะเขือนั้น บางคนก็ทำดี แค่ถ้าให้เรา ทำคงขายแบบ 2-3 วันครั้งเท่านั้น และได้เงินน้อย 200-300 บาท แต่ดอกกระเจียวหวานนั้น อย่างน้อยๆ สามารถขายได้ทุกวัน วันละ 400-500 บาท โดยเฉพาะช่วงสิงหาคม-กันยายน จะได้ดีกว่านั้น คือ 1,000-2,000 บาทแน่นอน

เคล็ดลับปลูกกระเจียวหวาน 

สำหรับ เคล็ดลับ ปลูกกระเจียวหวาน ของนายบุญหลาย เผยว่า กระเจียวหวาน เป็นพืชที่ปลูกง่ายมาก และไม่ต้องดูแลอะไรเลย แม้กระทั่งรดน้ำยังแทบไม่ต้องรด มันเป็นพืชที่ทนแร้ง ทนฝน โดยจะใช้เวลาปลูกไม่กี่เดือน เช่น ปลูกมกราคม พอเดือนเมษายน ก็เริ่มเก็บได้แล้ว แต่...มันก็มีเคล็ดลับอยู่ คือ เราต้องคลุมดินด้วยฟาง เพื่อเก็บความชื้นไว้ 

“ผมปลูกกระเจียวหวานเพชรน้ำผึ้งมา 6 ปี เราแทบไม่ได้ยุ่งกับน้ำเลย บ่อน้ำมี แต่ไม่ได้ใช้ ปลูกแบบปล่อยไปเลย มันทนแล้ง ทนฝน แต่ถ้าวันไหนฝนตก ก็ต้องเตรียมตัวเก็บดอก เพราะเหมือนมันจะโตเร็วขึ้น”

ส่วนดินที่เหมาะสม สำหรับปลูกกระเจียวหวานนั้น คือ ดินเหนียว ดินภูเขา มันไม่ชอบดินทราย แต่ก็สามารถปลูกได้ แต่มันไม่อวบ สวย เท่าดินเหนียว แต่ที่ดินของผม อันใหม่ ที่เขาให้เช่า เป็นดินทราย เราก็เลยสั่งขี้อ้อย จากโรงงาน และขี้ไก่ มาลงดิน พอเอามาปรับใช้ ก็ดีขึ้น 

...

นายบุญหลายอธิบายว่า การใช้ขี้ไก่ ขี้วัว เราจะให้รอบต้น ส่วนปุ๋ยอื่นๆ ไม่ได้ใช้เลย เคล็ดลับสำคัญ มันอยู่ที่การใช้ฟางคลุม การปลูกต้องขุดให้ลึกหน่อย สัก 13-15 ซม. 

“สาเหตุที่ต้องปลูกให้ลึก เพราะเพื่อให้รากมันยาว เวลาเราดึงมันจะได้ไม่ขยับเยอะ ถึงแม้มันจะตาย แต่ก็มีบางส่วนที่แทงหน่อไว้ ส่วนสาเหตุที่ปลูกได้ 3 ปี ต้องเปลี่ยน เพราะมันขึ้นโคน คอมันหนาเกิน อาหารเข้าไม่ถึง แต่หากเป็นดินเหนียว การเปลี่ยนอาจมีเวลามากขึ้นเป็น 4 ปี” 

คำแนะนำ มือใหม่ 

นายบุญหลาย กล่าวในช่วงท้ายการสนทนาว่า การทำเกษตรนั้นก็สามารถพออยู่ พอกิน พอใช้ได้ สำคัญ คือ พยายามอย่ามีหนี้สิน ซึ่งถามว่า ตนมีไหม ก็มี สิ่งที่ต้องจ่าย เดือนละ 1-2 หมื่น แต่เรียกว่าดีกว่า ทำงานก่อสร้าง เพราะสิ่งที่เราขาย ไม่ได้ขายแค่ดอกผล ต้นกล้า หัวพันธุ์ เรื่องแบบนี้ จำเป็นต้องศึกษา 

ส่วนมือใหม่นั้น อยากแนะนำว่า ควรดูเรื่องงบประมาณที่จะลงทุนก่อน ศึกษาหาความรู้ และศึกษาตลาดให้ดีก่อน อย่าทำแบบผม เพราะการทำแบบนี้นำไปสู่ความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหาย ผมเองก็เคยมีบทเรียน เรื่องการเพาะตั๊กแตน ตอนนี้เหลือแต่กรงว่างเปล่า เพราะเราไปทำตามคนอื่น 

...

อ่านบทความที่น่าสนใจ