หมอดู อาชีพดาวรุ่งยุคนี้ จากเดิมที่นั่งทำนายอยู่ตามตลาดหรือใต้ต้นไม้ สู่อาชีพยอดฮิตรายได้หลักแสน ทำให้คนรุ่นใหม่ ศึกษาในหลายศาสตร์ ขณะที่เส้นทางเริ่มต้นอาชีพต้องใช้การสั่งสม เพราะท้ายที่สุด ไม่ใช่แค่การทายแม่น แต่ต้องช่วยให้ลูกดวงสบายใจ หาทางแก้ปัญหาได้ ยิ่งตอนนี้ในโลกออนไลน์ใครก็เป็นหมอดูได้ ทำให้ตลาดอาชีพเปิดกว้าง แต่ก็มีมิจฉาชีพแฝงตัวมาหาผลประโยชน์
เมื่อสำรวจผู้ที่ค้นหาเรื่องการดูดวงผ่านกูเกิลพบว่า การค้นหาเฉลี่ยมากกว่า 2.3 ล้านครั้ง/เดือน คำยอดนิยมค้นหามากที่สุดคือ ดูดวงไพ่ยิปซี ดูดวงรายวัน ดูดวงทะเบียนรถ ดูดวงวันเดือนปีเกิด ดูดวงเบอร์มือถือ ดูดวงการงาน การเงิน นี่จึงเป็นเหตุผลทำให้บรรดาสถาบันโหราศาสตร์ ทยอยออกหลักสูตรการดูดวงในศาสตร์ต่างๆ ตอบสนองผู้เรียนที่เพิ่มขึ้น และทำให้มีบรรดา “พ่อหมอ-แม่หมอ” เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

"อ.ปรามุข ห้องโหร" รองผู้อำนวยการ สถาบันโหราศาสตร์วิทยา และอาจารย์พิเศษ วิชาโหราศาสตร์ไทย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เล่าให้ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ฟังว่า ตอนนี้คนไทยเข้ามาเรียนหลักสูตรโหราศาสตร์มากขึ้น เพื่อนำความรู้ไปประกอบอาชีพเป็นหมอดู ด้วยยุคนี้การมีสื่อออนไลน์ ทำให้สามารถดูดวงผ่านออนไลน์ได้ และศาสตร์การดูดวงเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเรียนจำนวนมาก
...
คนที่มาเรียนหลักสูตรโหราศาสตร์ มีเพิ่มขึ้นในวิชาดูดวงด้วยไพ่แบบต่างๆ เช่น ไพ่ยิปซี ที่คนเข้าถึงได้ง่าย เมื่อเปิดไพ่มาเห็นรูปทำให้คนที่มาดูมีความตื่นตาตื่นใจ แต่วิชาโหราศาสตร์ไทย ยังมีคนมาเรียนเท่าเดิม เนื่องจากเป็นศาสตร์ที่ยาก ต้องมีการดูดาว คำนวณ ดูมุมองศา ทำให้เป็นวิชาที่ค่อนข้างยาก เลยทำให้คนที่เพิ่งเริ่มเข้ามาจะเรียนเรื่องไพ่ ตัวเลข ก่อนที่มาเรียนในวิชายากอย่างโหราศาสตร์ไทย

“หมอดู สามารถแยกประเภทได้เป็น สายดูดวงผ่านไพ่ สายตัวเลข เปลี่ยนชื่อ ดูลายมือ และโหราศาสตร์ไทย ซึ่งแต่ละประเภทปัจจุบันก็มีการแยกสายย่อยลงไปอีก เช่นสายตัวเลข ก็มีการดูตัวเลขแบบภารตะ แต่ทั้งหมดต้องทายให้แม่น เพื่อให้คนที่มาดูจะได้แก้ปัญหา”

หลักสูตรหมอดู เส้นทางสู่อาชีพช่วยคน
เส้นทางของการเริ่มอาชีพหมอดู "อ.ปรามุข" มองว่า หลักสูตรในการสอนส่วนใหญ่อยู่ที่ 2 เดือน ค่าเรียนประมาณ 2,000–10,000 บาท สถาบันโหราศาสตร์ตอนนี้มีการสร้างหลักสูตรที่มีตั้งแต่ขั้นต้นจนถึงสูง แต่มีราคาค่าเรียนที่สูงตามไปด้วย
เส้นทางอาชีพหมอดู ส่วนตัวกว่าจะเริ่มสำเร็จต้องใช้เวลาศึกษา 6–7 ปี แต่ด้วยสมัยนี้มีหลักสูตรที่อาจารย์ได้รวบรวมไว้ เรียนประมาณ 3–6 เดือน โดยเรียนอาทิตย์ละ 1 วัน เรียนประมาณวันละ 2 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือต้องไปศึกษาหาความรู้เอง

...
“การเรียนดูดวงมีความง่ายมากขึ้นกว่าอดีต เช่น หลักสูตรการดูดวงที่สอนให้กับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คนจะย่อเนื้อหา และสอนในส่วนที่สามารถนำไปใช้ได้ อย่างในหลักสูตร เด็กเรียนไปเพื่อคำนวณการลงเสาเอก หรือวันที่เป็นมงคลในการเริ่มต้นก่อสร้างบ้านหรืออาคาร เราจะมุ่งสอนไปในข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตัดบางส่วนที่ไม่เกี่ยวออก”
สิ่งที่สอนคนที่มาเรียนเสมอคือ การทายแม่นถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าทายแล้วทำให้เขาสามารถแก้ปัญหาได้ ถือว่าเป็นสุดยอดของหลักสูตร เพราะต้องยอมรับว่า หมอดูเป็นเสมือนที่ปรึกษา การทำนายแล้วทำร้ายจิตใจคนที่มาดูไม่ควรทำ เช่น เสียเงินตั้งหลายพันมาดูดวง แต่โดนหมอดูด่า ยิ่งเป็นการซ้ำเติมไม่ให้เขามีกำลังใจในการแก้ปัญหา
เส้นทางการมีชื่อเสียงของหมดดู ระยะแรกที่เริ่มศึกษาไม่ควรคิดถึงเรื่องพวกนี้ แต่ต้องทำให้คนที่มาดูรู้สึกสบายใจ ตอบโจทย์กับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอาศัยข้อเท็จจริงของดวงดาวตามโหราศาสตร์ หรือศาสตร์ที่ศึกษา และไม่ควรเฉยเมยกับคนที่มาดู เพราะหมอดูต้องสำนึกว่า มีหน้าที่ในการช่วยเหลือ เพราะเขามีความทุกข์มา ส่วนถ้ามุ่งหวังในชื่อเสียงเดี๋ยวก็มาเอง ถ้าเราทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก่อน

...
เทคนิคเริ่มต้นอาชีพหมอดู สู่การมีชื่อเสียง

"อ.ปรามุข” มองว่า เส้นทางสู่การเป็นหมอดูอาชีพ เมื่อผ่านหลักสูตรแล้วต้องมีการแสวงหาความรู้ และฝึกพูดเพื่อทำให้คนที่มาดูดวงมีความสบายใจ โดยราคาเริ่มต้นของคนที่เริ่มดู มีตั้งแต่ 59 บาทต่อ 1 คำถาม ส่วนใหญ่เป็นศาสตร์เกี่ยวกับสายไพ่ จนไปถึงระดับอาจารย์ชื่อดัง ดูดวงครั้งละ 1,000–10,000 บาทต่อครั้ง
โดยคนมาดูดวงมักมีปัญหาที่ถามหมอดู ดังนี้
อายุไม่เกิน 30 ปี ถามเรื่องการเรียน ความรัก
กลุ่มวัยทำงาน ดูเรื่องความรัก ครอบครัว การงาน
กลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป ดูเรื่องธุรกิจ สุขภาพ ครอบครัว
สำหรับรายได้ของหมอดูที่เริ่มมีชื่อเสียง มีรายได้ 10,000–100,000 บาท ปัจจุบันมีโลกออนไลน์ ทำให้คนเข้าถึงการดูดวงง่าย สิ่งที่ต้องระวังคือ กลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามา ดังนั้นการดูดวงแต่ละครั้งต้องมีการตรวจสอบประวัติของอาจารย์ให้แน่ใจก่อน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ.