เปิดใจ หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า เบื้องหลัง รับ สส.ปูอัด รับดีลผ่าน ผู้ใหญ่ในพรรค ชี้เห็นท่าทีสำนึกผิด ชั่งน้ำหนักให้โอกาส ทำงานเพื่อชาติ แม้กระทบภาพลักษณ์...

เป็นข่าวดังในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สำหรับ สส.ปูอัด หรือ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ อดีต สส.พรรคก้าวไกล ที่ถูกทางต้นสังกัดมีมติขับออกจากพรรค หลังพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวถูกข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศ ซึ่งเวลานี้อยู่ในขั้นตอนของกฎหมายในทางคดี แต่ในทางการเมือง เขาต้องหาพรรคใหม่ภายใน 30 วัน

ล่าสุด มีการยืนยันมาแล้วว่า “สส.ปูอัด” ได้พรรคใหม่เข้าสังกัดแล้ว คือ พรรคไทยก้าวหน้า (ทกน.) ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงได้ต่อสายตรงพูดคุยกับหัวหน้าพรรค คือ ดร.วัชรพล บุษมงคล ได้ยอมรับกับทีมข่าวฯ ว่าทางพรรคได้รับ สส.ปูอัด เข้าพรรคจริง โดยรับสมัครเมื่อวันที่ 20 กว่าๆ ที่ผ่านมา (จำวันที่ไม่ได้) 

การพูดคุยเบื้องต้น ทางพรรคมองว่าเขา (สส.ปูอัด) มีความตั้งใจ และมองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เขาได้ชี้แจงกับสังคมไปแล้ว ทางพรรคก็ได้มีการพูดคุยกัน แต่เป็นเรื่องส่วนตัวไม่สามารถเปิดเผยได้ และมองดูว่า “เป็นเหตุเป็นผล” อยู่ และมองว่าเขายังเป็นคนหนุ่ม มีอนาคตอีกไกล และทำงานช่วยเหลือประชาชน ประเทศชาติ เราจึง “ให้โอกาส” เพื่อให้เขาพิสูจน์ ถึงผลงานและการทำงาน แม้ที่ผ่านมา จะเจอปัญหาแต่มองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้าง มันก็ยังเป็นขบวนการของพรรค ที่สำคัญคือ สังคมพิพากษาเขาไปพอสมควรแล้ว ซึ่งเท่าที่ดูวันนั้น ส่วนตัวรู้สึกว่าเขาก็มีความสำนึกผิดอยู่บ้าง กับการกระทำที่อาจจะผิดพลาดไป และเป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ตัวเอง...

...

เมื่อถามว่า ที่บอกว่า “เป็นเหตุเป็นผล” นั้น มีประเด็นอะไรที่ทางพรรคยอมรับ ดร.วัชรพล กล่าวว่า เราได้คุยกับ สส.ปูอัด แต่เหตุผลนั้น อาจยังไม่สามารถพูดได้ แต่เท่าที่ฟังคือ เป็นเหตุเป็นผล และเห็นใจ ที่สำคัญคือ มันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างคุณ สส.ปูอัด และคู่ขัดแย้ง 

“เราไม่ลงลึกรายละเอียด ที่สำคัญเขาอยู่ในวัยหนุ่มสาว อาจเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ที่มันเกินเลยไป ขาดความยั้งคิด ขาดสติ หรือ เกิดจากความมึนเมาหรือไม่ หรือ สมยอมหรือไม่ แต่สุดท้ายในมุมมองเรามองเป็นการให้โอกาส"

ด้วยข้อกล่าวหาลักษณะนี้ ทางพรรคเกรงว่าจะกระทบภาพลักษณ์หรือไม่ หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า กล่าวว่า ชื่อเสียงภาพลักษณ์ คือ สิ่งที่เราชั่งน้ำหนักอยู่ แต่หากเราได้อธิบายให้สังคมรับทราบว่า เราเป็นคนไทยด้วยกัน บางครั้งเราต้องให้โอกาสคนที่ “อาจจะ” กระทำความผิดบ้าง และที่ผ่านมา บางคนเคยทำความผิดใหญ่หลวงกว่านี้ คนไทยก็ให้โอกาส 

เมื่อชั่งน้ำหนัก ระหว่าง เขาสามารถทำงานให้ประชาชนและประเทศชาติได้ และที่สำคัญ คือ เมื่อเขาสำนึกผิดแล้ว มันจะเป็นประโยชน์มากกว่า 

สส.ปูอัด ชอบชื่อพรรค   

เมื่อถามว่า มีการประสานงานเข้าพรรคทางใด ดร.วัชรพล บอกว่า คุณปูอัด ได้รู้จักกับเพื่อนๆ ซึ่งถือเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค จึงได้แนะนำให้พูดคุยกัน และเขาเชื่อมั่นว่า อยู่ในพรรคไทยก้าวหน้าแล้วจะมีอนาคต เราเป็นพรรคสีขาวอยู่แล้ว เป็นพรรคการเมืองใหม่ เพิ่งจดทะเบียนพรรคการเมืองมาปีกว่าๆ และเพิ่งผ่านการเลือกตั้งมาแค่ครั้งเดียว 

“คุณปูอัด เขาคุยกับทีมงานของพรรค เขาบอกว่า เขาชอบชื่อพรรคด้วย และมั่นใจในตัวบุคคลในพรรคเรา เขาบอกว่า ที่ผ่านมา มีหลายพรรคที่ติดต่อเขา ชวนเข้าพรรค แต่เขาเลือกพรรคเรา”

มีคนตั้งคำถามว่า ชื่อพรรค มีความคล้ายคลึงกับอีกพรรค ในฐานะหัวหน้ามองอย่างไร ดร.วัชรพล บอกว่า ชื่อนี้เป็นมงคลอยู่นะครับ ตั้งชื่อนี้มาไม่ได้อิงใคร เพราะชื่อมันก็มีความหมายในตัว ไทยก้าวหน้า ก้าวไกล ยึดผลประโยชน์ของชาติ และส่วนรวมเป็นสำคัญ เรามุ่งไปที่ตรงนั้นมากกว่า ไปอิงกับพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคการเมืองใด 

การเข้าพรรคของ คุณปูอัด มีตั้งเงื่อนไขอะไรหรือไม่ หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า บอกว่า ไม่มี มีแต่กรอบการทำงานร่วมกัน 

มีวางบทบาทไว้หรือยัง ว่าทางพรรคจะให้ทำอะไร ดร.วัชรพล กล่าวว่า หลังจากนี้คงต้องมาคุยกัน แต่เชื่อว่า เขาก็ทำหน้าที่ สส.ในพื้นที่อยู่แล้ว แต่เมื่อมาอยู่ในพรรค ก็คงต้องคุยเพื่อกำหนดแนวทางร่วมกัน เป็นนโยบาย เพื่อเป็นแนวทางของพรรคและตัว สส.เอง ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้กำหนด แต่ในอนาคตคงต้องกำหนด ซึ่งตัวเขาเองไม่ได้สนับสนุนให้ยกเลิก ม.112 และไม่เห็นด้วยในแนวทางนี้อยู่แล้ว นี่คือ ส่วนหนึ่งที่ได้พูดคุยกัน

...

รับคุยกับ “วุฒิพงศ์” แต่ยังไม่มีข้อสรุป 

เมื่อถามว่า อีกหนึ่ง สส.ของก้าวไกล ที่ถูกขับคือ วุฒิพงศ์ ทองเหลา ทางพรรค ได้มีการพูดคุยหรือไม่ และจะรับเข้าพรรคหรือไม่ ดร.วัชรพล บอกว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด เรื่องนี้มันแล้วแต่มุมมองของในพรรค บางส่วนเห็นด้วย บางส่วนไม่เห็นด้วย ที่สุดแล้วเวลานี้ ยังไม่ได้มีข้อสรุป 

เมื่อถามว่า 1 เสียง สส.ของพรรค จะไปทางไหน รัฐบาล หรือ ฝ่ายค้าน มีเทียบเชิญบ้างไหม หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับใคร เราเองเป็นพรรคเล็ก มีที่นั่งในสภา เพียงเสียงเดียว ในความเห็นส่วนตัวมองว่า ควรจะมองที่ผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ถ้ารัฐมีแนวทางที่ดี ก็น่าสนับสนุน หรือฝ่ายค้านมีเรื่องท้วงติงที่น่าสนใจ ถ้าก่อให้เกิดผลดีกับชาติ เราก็ต้องไปทางนั้น 

ฝากถึงประชาชน กับการรับ สส.ปูอัด เข้าพรรค 

“ผมอยากให้เป็ออย่างนั้น ไม่อยากให้ถูกครอบงำโดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เรามีเสียงเดียว ก็อยากให้เขาสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนในสภามากกว่า การทำงานในสภาที่มีเสียงเดียวนั้น ต้องทำงานหนักขึ้น ตอนนั้นที่เขาได้เป็นตัวแทนของประชาชนก็เพราะกระแสพรรค แต่หลังจากนี้ คือ สิ่งที่เขาต้องพิสูจน์ตัวเอง ให้เห็นถึงความตั้งใจให้มาก ซึ่งเราได้เน้นย้ำ”

อยากบอกอะไรไปถึงประชาชนหรือไม่ กับการรับ สส.ปูอัด เข้ามา ทั้งที่มีปัญหาเรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับการคุกคามทางเพศ...หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า กล่าวว่า “ในฐานะพรรคการเมือง หรือสถาบันการเมือง เราก็ต้องคำนึงถึงความถูกต้อง เป็นธรรม ยึดประโยชน์ของชาติ กรณี สส.ปูอัด เป็นการให้โอกาส ว่าเขาเป็นคนแบบนั้นอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่ ผมเชื่อว่าเขาก็มีความตระหนัก และคงต้องพิสูจน์ตัวเองด้วย...” 

...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านบทความ