คุยกับ "หมอเกมส์" กับเรื่องเล่า การขออโหสิกรรม จากคำแนะนำของ อ.ไพศาล นิมิตพิศวง และคำจำกัดความ "โรคเวรโรคกรรม" และอาการป่วยของ เมฆ วินัย ...

กรรมเกิดจากการกระทำ แต่...หากว่า “ชาติภพ” นี้เราไม่ได้ทำอะไร แปลว่า สมัยอดีตชาติ เราเคยทำ อย่างนั้นเหรอ...

ความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด อยู่คู่กับพุทธศาสนา และคนไทยจำนวนมากก็เชื่อเรื่องนี้ และบางครั้ง เมื่อเราเจอคนป่วยด้วยโรคประหลาด หรือ รักษาไม่หาย (เสียที) ก็มักจะมีคำกล่าวที่ว่า มันมีสาเหตุมาจาก “โรคเวรโรคกรรม” 

เฉกเช่นเดียวกับดาราหนุ่ม “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ที่เขาป่วยด้วยโรค “ตุ่มน้ำพอง” ซึ่งการป่วยโรคนี้จะทำให้คนคนนั้น “ทรมาน” ดั่งตายทั้งเป็น ถึงแม้จะมี “หนทาง” เยียวยารักษา ในทางวิทยาศาสตร์ แต่เขาก็รักษาไม่หายสักที จนต้องไปพึ่งพาศาสตร์ความเชื่อ 

ล่าสุด “เมฆ” ได้ไปพบกับ อาจารย์ไพศาล แสนไชย คนระลึกชาติ นิมิตพิศวง ซึ่งอาจารย์ไพศาล บอกว่า เมฆ วินัย ชาติก่อนเป็นใคร ก่อกรรมทำเข็ญกับใครไว้ ซึ่งทุกท่านน่าจะทราบและได้รับรู้กันมาแล้ว แต่...สำหรับรายงานพิเศษวันนี้ ทีมข่าวฯ ได้พูดคุยกับ “หมอเกมส์” หรือ นพ. อดุลย์ชัย ธรรมาแสงเสริฐ ศัลยแพทย์ตกแต่ง และ  Admin เพจหมอเฉพาะทางบาทเดียว และเป็นผู้พัฒนา App Developer “ใกล้มือหมอ” 

หมอเกมส์ คือ หนึ่งคนที่เคยเป็น “เจ้ากรรมนายเวร” ของบุคคลหนึ่ง ซึ่ง อาจารย์ไพศาล เคยแนะนำให้ “บุคคล” ท่านนั้นมาทำพิธีขอขมาลาโทษ และเรื่องนี้เอง ทำให้ คุณหมอเกมส์ เริ่มมีความเชื่อเรื่อง “โรคเวรโรคกรรม” พร้อมให้คำจำกัดความว่า องค์ประกอบ อย่างไร...

...

ความเชื่อ “โรคเวรโรคกรรม” กับการขอ “อโหสิกรรม” 

นพ.อดุลย์ชัย เล่าว่า จุดเริ่มต้นความเชื่อโรคเวรโรคกรรมของเขา มาจากประสบการณ์ของตัวเอง...

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราว 6-7 ปีก่อน จู่ๆ มีคนโทรเข้ามาบอกว่าจะมาขออโหสิกรรม เราได้ยินก็ตกใจ ไม่รู้เป็นใคร จึงไม่อนุญาต ซึ่งเขาก็พยายามอธิบาย และบอกว่าเป็นใคร ทำอาชีพอะไร และบอกว่า อยากพาคุณแม่ มาขออโหสิกรรม...

“หมอปฏิเสธทันที เพราะไม่มีความเชื่อเรื่องราวเหล่านี้อยู่แล้ว ซึ่งเขาก็พยายามโทรเข้ามา เราก็ปฏิเสธอีก 2-3 ครั้ง กระทั่งเขาโทรเข้ามาอีกครั้ง และบอกว่า อยากให้คุณหมอได้พูดคุยกับ “หมอ” อีกคนหนึ่ง พร้อมเอ่ยชื่อขึ้นมา....กลายเป็นว่าหมอคนนั้น เป็นหมอรุ่นพี่ (รู้จักกันแต่เรียนคนละสถาบัน) ที่เรารู้จัก ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเหมือนกัน” 

หมอเกมส์ เล่าต่อว่า แม้จะเอ่ยชื่อคนที่เรารู้จัก เราก็ยังไม่เชื่อ จึงได้โทรไปสอบถาม...

“พี่มีเคสลักษณะนี้มาหาพี่ รึเปล่า...” 

การถามของเรา เพื่อรีเช็ก เพราะปัจจุบันมีการหลอกลวงเยอะ ซึ่งหมอรุ่นพี่คนนี้ทำงานที่โรงพยาบาลศัลยกรรมแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และเขาเล่าให้ฟังว่า...

มีคนจะเข้ามาขออโหสิกรรมเหมือนกัน โดย ภรรยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนี้ เป็นคนเดินเข้ามาคุยก่อน โดยบอกว่า “อาจารย์ของลูกสาว” (ลูกสาวไปเรียน ป.โท สถาบันแห่งหนึ่ง และอาจารย์ของสถาบันนั้น ติดต่อผ่านลูกสาว) ขออนุญาตพาคุณแม่มาขออโหสิกรรมกับคุณหมอได้ไหม... ซึ่งคุณหมอรุ่นพี่ ก็ยอมฟังเรื่องราว และยอมให้ลูกสาวของผู้ที่จะขออโหสิกรรมเข้าพบ และได้ฟังเรื่องจากปากลูกสาวผู้ที่จะขออโหสิกรรมว่า...

คุณแม่ไปนั่งรอตรวจโรคที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เนื่องจากป่วยด้วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว และให้คีโมมาแล้ว 5-6 ครั้งก็ไม่หายขาด (ระยะแรกหายป่วย แต่สุดท้ายกลับมาเป็นอีก) 

ช่วงที่นั่งรอ มีโอกาสได้คุยกับญาติผู้ป่วยคนอื่นๆ และก็มีการพูดชื่อ อาจารย์ไพศาลขึ้นมา เพราะสงสัยว่า เป็น “โรคเวรโรคกรรม” หรือไม่...พร้อมบอกว่า ลูกหลานของเขาป่วยลักษณะนี้ พอได้ทำตามคำแนะนำ เขาก็หายป่วย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้แม่มีโอกาสได้ไปหา อาจารย์ไพศาล ที่ จ.ลำพูน 

คุณหมอเกมส์ เล่าต่อว่า การจะไปพบอาจารย์ไพศาล นั้น ก็มีขั้นตอนต่างๆ มีการต้องไหว้พระตามขั้นตอน คล้ายกับว่า การที่คุณจะได้นิมิต คุณต้องมีบุญในระดับหนึ่งก่อน 

...

หลังจากทำตามขั้นตอนเสร็จ อาจารย์ไพศาล ก็นิมิต โดยไม่มีการเรียกเงินทอง ซึ่งสิ่งที่นิมิตออกมา ก็คล้ายๆ กับของ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” โดยบอกว่า แม่ของเธอ ได้ทำกรรมกับคนเอาไว้ 7 คน ซึ่ง 3 ใน 7 คนนี้ได้ก่อกรรมทำเข็ญหนัก 

ชาติที่แล้ว คุณเกิดเป็นแม่ค้า ค้าขายอยู่หน้าวัด แล้วมี “วนิพก” นอนอาศัยอยู่หน้าวัด วันหนึ่งมีของในวัดหาย แม่ค้าก็ไปกล่าวโทษ “วนิพก” เหล่านี้แหละเป็นคนขโมยไป จนเป็นเหตุให้ 3 ใน 7 คนนี้เสียชีวิต และ 3 ใน 7 คนนี้กลับมาเกิดใหม่ 

ก่อนตาย 3 ใน 7 คนนี้ แม้จะเป็นวนิพก ขอข้าววัด แต่ก็ช่วยงานในวัด ขัด ถู พระพุทธรูป ช่วยทำความสะอาดวัด จาก “บุญ” ตรงนี้ ทำให้ทั้ง 3 กลับมาเกิดเป็น “ศัลยแพทย์ตกแต่ง” 

ชื่อที่อาจารย์ไพศาลให้มา ล้วนเป็น “ศัลยแพทย์ตกแต่ง” ระดับไม่ธรรมดา คนหนึ่งเป็นระดับอาจารย์หมอโรงเรียนแพทย์ อีกคนหนึ่งก็คือ “รุ่นพี่” คนนี้ ที่อยู่โรงพยาบาลศัลยกรรมชื่อดัง และคนสุดท้าย คือ “หมอเกมส์” คือ หมอนี่แหละ คนที่มีชื่อเสียงน้อยที่สุดแล้ว (คุณหมอเล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มด้วยความถ่อมตน) 

“เมื่อเอ่ยชื่อหมอ...คำถามคือ หมอที่ไหน จะมาเชื่อเรื่องแบบนี้..?”

ลูกสาวของผู้ที่จะต้องทำพิธีอโหสิกรรม เคยตั้งคำถาม อาจารย์ไพศาล 

อาจารย์ไพศาล จึงแนะนำว่า คุณต้องเข้าหาคนคนนี้ก่อน... อาจารย์ไพศาล ให้ชื่อชาติที่แล้วก่อน และตามด้วยชื่อในปัจจุบัน ทำงานอยู่โรงพยาบาลนี้... เพราะหมอคนนี้ เป็นหัวหน้าวนิพก ในอดีตชาติ เพราะถ้าคนแรกยอม อีก 2 คนจะยอมเอง

เมื่อได้ฟังดังนั้น คุณหมอที่เป็นรุ่นพี่ หมอเกมส์ ก็ยินยอมให้ทำพิธี ซึ่งขั้นตอนก็จะมีบทสวดเฉพาะ โดยต้องระบุ ชื่อ ในชาติที่แล้วและชื่อชาตินี้ ของคนที่จะขออโหสิกรรม และคนให้อโหสิกรรม โดยมีของที่ใช้ในพิธี เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน น้ำส้มป่อย และอื่นๆ 

...

เช่น ข้าพเจ้า ในอดีตชาติ ชื่อนี้ ปัจจุบันชื่อนี้ ขออโหสิกรรม ให้กับคนนี้ในอดีตชาติชื่อ ปัจจุบันชาติชื่อ... 

เมื่อทำพิธีเสร็จ... หมอรุ่นพี่ก็ได้แนะนำไปอีกคนหนึ่ง ซึ่งชาติปัจจุบัน เป็นอาจารย์หมอของรุ่นพี่ เป็นหัวหน้าแผนกหนึ่งในโรงเรียนแพทย์ ซึ่งทั้ง 2 สนิทกัน จึงทำการประสานงานให้ ผลปรากฏว่า อาจารย์หมอท่านนั้น มีความเชื่อเรื่องประมาณนี้อยู่แล้ว จึงได้ไปทำพิธี ที่โรงเรียนแพทย์ ซึ่งเมื่อทำพิธีเสร็จ ต้องถ่ายรูปส่งให้ อาจารย์ไพศาลด้วย...

ทีมข่าวฯ ถามหมอเกมส์ ว่าเหตุใดต้องถ่ายรูป หมอเกมส์ ยอมรับว่าไม่ทราบเหตุผล แต่จะต้องได้ภาพระหว่างพิธีขอขมา ระหว่างเจ้ากรรมกับนายเวร... หากอาจารย์เก็บภาพจริงๆ เชื่อว่า อาจารย์ไพศาล น่าจะมีภาพเหล่านี้เยอะมาก เพราะท่านช่วยคนมาตั้งแต่ปี 2524 กว่า 42 ปี 

เมื่ออาจารย์หมอทำพิธีเสร็จ จึงฝากคำพูดผ่านรุ่นพี่มาถึงเราว่า “ฝากบอกไอ้เกมส์ด้วย อะไรก็ตามที่คนไข้ทำ แล้วรู้สึกสบายใจขึ้น จะเห็นผล หรือไม่เห็นผล ปล่อยให้คนไข้ทำเถอะ” 

อาจารย์หมอคงคิดว่า เราเป็นคนรุ่นใหม่สุด น่าจะไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ ซึ่งกว่าจะมาทำพิธีกับเราถือว่ายากจริงๆ เพราะเราไม่เคยเชื่อเรื่องราวเหล่านี้มาเลย...แต่เมื่อได้คุยกับหมอรุ่นพี่ จึงจัดการนัดกัน และอนุญาตให้เขาเข้ามา 

...

แต่...ก่อนจะเข้ามา ไปหาข้อมูล อาจารย์ไพศาล และก็ไปเจอ ไฟล์ PDF ชื่อ “นิมิตพิศวง” มี 999 หน้า โดยในนั้นเขียนเรื่องอื่นๆ มากมาย ที่มีการบอก ชื่อ นามสกุล และที่อยู่ ท่านอย่างกับ “สมุดหน้าเหลือง” 

“ผมงงนะ จะรู้อะไรขนาดนั้น...” 

กระทั่งถึงวันนัด ลูกสาวของผู้ที่จะขออโหสิกรรม ก็พยายามจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งเราบอกว่า เรารับทราบเรื่องจากหมอรุ่นพี่แล้ว งั้นเริ่มพิธีเลย...

เมื่อเราพูดไปดังนั้น ลูกสาวของผู้ที่จะทำอโหสิกรรม ก็แสดงอาการดีใจ เพราะกลัวว่า “หมอจะด่าว่าหรือไล่” เราจึงทำความเข้าใจว่า เรามีการพูดคุยไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงให้เริ่มพิธีเลย....

ระหว่างที่เริ่มพิธี ก็มีการกล่าวถึง ชื่อ...นามสกุล ในอดีตชาติ และชาตินี้ สิ่งที่ตกใจ คือ เขากล่าวถึง “นามสกุล” ซึ่ง “หมอเกมส์” ได้เปลี่ยนมานานแล้ว 

“อาจารย์ไพศาล พูดถึงนามสกุลเก่า” 

ลูกสาวผู้ที่ทำอโหสิกรรมบอก 

“รู้ได้ไงวะ...” หมอเกมส์คิดในใจ 

“หรือว่า ชื่อทะเบียนราษฎรนรก สวรรค์ จะบันทึกชื่อแรกหรือเปล่า” หมอเกมส์ เล่าแบบติดตลกพลางหัวเราะ 

ด้วยเหตุนี้ จึงถามไปว่า เราจะต้องพูดนามสกุลเก่า หรือใหม่ คำตอบที่ได้รับคือ ให้ทำตามที่อาจารย์ไพศาลบอกมา จากนั้นก็ทำพิธีกันต่อ จบด้วยการถ่ายรูป และแลกไลน์กัน เพราะหากมีโอกาสจะได้ถามไถ่ หรือไปหา 

ปรากฏว่า เวลาผ่านไป 2-3 เดือน วันหนึ่งเราจึงทักไลน์ไป เพราะนึกขึ้นได้ว่า ชาติที่แล้วเราเป็นวนิพก แต่ไม่ได้บอกว่าวัดไหน เผื่อหาโอกาสไปกราบสักการะ คำตอบของคำถามนี้คือ “วัดพระแก้ว”

หมอเกมส์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจ เพราะเป็นวัดใหญ่ วัดหลวง...

จากนั้นก็ถามต่อว่า “คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง...”

“คุณแม่เสียแล้วค่ะ”

หมอเกมส์ ตกใจ...นิ่งเงียบ 

“หลังจากมาขออโหสิกรรมกับคุณหมอได้ 2 เดือน คุณแม่ก็อาการทรุด แต่คุณแม่ก็เสียชีวิตอย่างสงบ” 

การพูดคุยครั้งนั้น ลูกสาวบอกว่า แม่เขามีความรู้สึกสบายใจ ที่ได้เสียชีวิตอย่างสงบ... 

การพ้นโรค พ้นจากโลก และการพ้นทุกข์ 

เหตุการณ์ การขออโหสิกรรม ทำให้ นพ.อดุลย์ชัย ได้ข้อคิดและเชื่อว่า มันอาจจะมี “โรคเวรโรคกรรม” จริงๆ เพราะการพ้นโรค และการพ้นจากโลก ของคุณแม่ท่านนี้นั้น ท่านป่วยด้วยโรคเลือด ที่เป็นในคนชรา ไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่พออธิบายได้ว่า ในคนสูงอายุนั้น มีโอกาสสร้างไขกระดูกให้ผิดปกติ กลายเป็น “มะเร็ง” ซึ่งอธิบายได้ในทางวิทยาศาสตร์ คล้ายกับว่า “เซลล์” ต่างๆ มันเริ่มเสื่อม ผลิตได้ไม่ดีเหมือนหนุ่มสาว 

คำอธิบายเกี่ยวกับโรค เราสามารถอธิบายได้หมด แต่ที่อธิบายไม่ได้คือ เพราะอะไร คือ 1. หายแล้วกลับมาเป็นใหม่ 2. ในฐานะแพทย์ที่ทำงานด้านนี้มากว่า 30 ปี เคยเจอคำถามที่คนไข้ถามว่า “หมอ...ทำไมผมถึงต้องเป็นโรคนี้ แล้วทำไมคนนั้นไม่เป็น” 

หมอเกมส์ ตอบคำถามคนไข้ โดยอ้างอิงตำราหมอต่างประเทศเลย ว่ามีสาเหตุ 12345 ดังนี้ 

“หมอพูดสาเหตุทั้งหมดมา ผมเข้าใจนะครับ แต่ที่ผมป่วย ไม่เคยมีสาเหตุทั้ง 4 ข้อที่คุณหมอพูดมาเลยนะครับ..”

โดยเฉพาะโรค SLE หรือแพ้ภูมิตัวเอง ทำไมอยู่ดีๆ ภูมิคุ้มกันถึงทำร้ายตัวเอง ไปถามหมอปัจจุบัน ตอนนี้ก็ยังบอกไม่ได้ สิ่งที่หมอบอกได้ ว่ามีสาเหตุดังนี้... แต่บอกไม่ได้ ว่าทำไมผมเป็น คุณไม่เป็น ทั้งที่ใช้ชีวิตเหมือนกัน 

ยังบอกไม่ได้อีก...ทำไมคนนี้ตอบสนองต่อการรักษา กินยาเม็ดเดียวคุมโรคได้ ไม่กลับมาเป็นอีก อีกคนไม่ตอบสนอง รักษาเท่าไรก็ไม่หาย ยิ่งเป็นยิ่งรุนแรง 

“หมอบางคนก็จะบอกว่า ถูกโรค ถูกยา หรือพูดไปถึงระดับเซลล์, เซลล์แบบนี้เหมาะกับยานี้ หรือเซลล์แบบนั้น จึงไม่ตอบสนอง แบบนี้อาจจะพูดได้ แต่สุดท้ายอธิบายตรงๆ ไม่ได้” 

คำจำกัดความ “โรคเวรโรคกรรม” คืออะไร หมอเกมส์ตอบว่า 1. เป็นโรคที่หาสาเหตุโดยตรงไม่เจอ 2. เป็นโรคที่รักษาแล้วตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกัน คือ บางคนตอบสนอง คุมโรคได้ บางคนเป็นมาก ไม่ตอบสนองใดๆ เลย แม้จะใช้ยาตัวเดียวกัน 

อาการป่วยของ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” 

หมอเกมส์ยกตัวอย่าง อาการป่วยของดาราชื่อดัง “เมฆ วินัย” ว่า ชื่อ “Bullous pemphigoid” โรคนี้เกิดจากเซลล์ผิวหนัง ซึ่งปกติคนเราจะมีผิวหนังกำพร้า กับผิวหนังแท้ ซึ่งระหว่างผิวหนังกำพร้า กับ ผิวหนังแท้ จะมีรอยต่อ...ซึ่งเป็นโปรตีนตัวหนึ่ง คอยยึดให้ติดกัน แต่กรณี ของคุณเมฆ โปรตีนตัวนี้ถูกภูมิคุ้มกันในร่างกายของคุณเมฆทำลาย จึงทำให้โปรตีนตัวนี้ไม่สามารถยึดแผ่นผิวหนังกำพร้าและผิวหนังแท้ได้ ส่งผลให้ผิวของคุณเมฆลอกทั้งตัว

คำถามคือ ทำไมเกิดขึ้นกับคุณเมฆ วินัย แต่ไม่เกิดขึ้นกับเรา... อัตราคนป่วย 1: 400,000 ทำไมต้องเป็นคุณวินัย... สมมติ ประชากรไทย มี 80 ล้านคน จะมีคนป่วยโรคนี้ 200 คน 

คำถามคือ โรคนี้มีคนอื่นเป็นไหม คำตอบคือก็พบว่ามี แต่ไม่รุนแรงเท่าคุณวินัย บางคนเป็นแบบคุณวินัย เป็นรักษาหาย กินยานิดเดียวก็หาย... ที่ผ่านมา ไม่เคยทิ้งการรักษาในแผนปัจจุบันเลย 

ข้อคิด “โรคเวรโรคกรรม” และเรื่องเล่าระหว่างการรักษา 

ช่วงท้ายบทสนทนา หมอเกมส์ ได้เล่าถึง “ข้อคิด” เกี่ยวกับโรคเวรโรคกรรมว่า ตลอดการทำงานในอาชีพ หมอศัลยกรรมตกแต่ง มักจะพบเคส บุคคลที่ประสบอุบัติเหตุน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ เวลาเราไปทำแผล จะรู้สึกสงสารคนป่วย แม้จะฉีดยาแก้ปวดแล้ว เขาก็ยังทุกข์ทรมาน

เวลาชวนคุย เราเคยถามว่า เคยคิดไหมว่าเกิดจากอะไร...คำตอบที่ได้รับ หลายๆ เคส พบว่า มักเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผ่านมา มีอยู่ 1 เคส ที่พบ คนป่วย คือ คนรวยแบบคุณหญิงคุณนาย เขามาหาหมอ เพราะว่า “ไอน้ำ” steam ระหว่างทำสปา มันลวก อยู่ดีๆ มันร้อน โดยไม่รู้ว่าสาเหตุว่าตัววัดความร้อนมันเสียหรือไม่ แต่ไอน้ำร้อน ลวกร่างกายเขา 50% ซึ่งถือว่าหนักมาก

สิ่งที่เขานึกถึง คือ ตอนที่ไปร้านอาหารสดๆ เขาไปชี้ปูก้ามกราม ตัวหนึ่ง จากนั้นเชฟแนะนำให้เขาราดน้ำร้อนให้สุก เพื่อจะได้กินสดๆ เขานึกถึงปูตัวนั้น มันเจ็บแสนสาหัสมากน้อยขนาดไหน...

อีกเคส ชาวบ้านจุดไฟไล่หนูนา....หนูที่ตัวติดไฟ วิ่งหนีเข้าไปในบ้าน ไฟไหม้บ้าน ตัวเองจะเข้าไปดับไฟ โดนไฟลวก 

สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้รู้สึกว่า “เวรกรรม” มีจริง ไม่ต้องรอชาติไหนเลย 

“สิ่งที่เราแนะนำ สำหรับตอนทำแผลไฟไหม้ให้ผู้ป่วย เราบอกกับเขาในฐานะชาวพุทธทั่วไปว่า อย่าโฟกัสตอนทำแผล เพราะจะรู้สึกเจ็บ อยากให้สวดมนต์ในบทที่สวดได้ คนไข้บางคนแผ่เมตตา ซึ่งมันก็ช่วยให้เขาโฟกัสน้อยลง ซึ่งสิ่งที่เราแนะนำ ก็ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผล เพราะบางคนยังร้องด้วยความเจ็บปวด เพราะยาชา เอาไม่อยู่”

อย่าโทษทุกอย่างเป็นเวรกรรม 

ในช่วงท้าย คุณหมอยังฝากเตือนไปถึงทุกคนว่า อย่าโทษทุกอย่างว่าเกิดจาก โรคเวรโรคกรรม โดยทุกอย่างมีเหตุและปัจจัยเสมอ หากสูบบุหรี่มาก ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปอด นี่คือ เหตุผลแบบตรงไปตรงมา ฉะนั้น หากป่วย ก็ควรรักษาตามแพทย์ปัจจุบันก่อน และอย่าทิ้งแพทย์แผนปัจจุบัน กรณีที่คุณรักษาตามปกติไปแล้ว และไม่หาย และระลึกได้ว่า “อาจจะ” เกิดจากโรคเวรโรคกรรม ก็ขอให้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร สิ่งที่แนะนำ ก็เป็นคำแนะนำแบบชาวพุทธ และในฐานะหมอ” 

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ 

อ่านบทความที่น่าสนใจ