หน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง... ฉะนั้น ใครๆ ก็อยากหน้าใส โดยเฉพาะสาวๆ ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร เพราะความสวยรอไม่ได้ 

เพราะแบบนี้เอง จึงทำให้ค้นหาวิธี และเคล็ดลับต่างๆ มาใช้ และเวลานี้ กำลังมีกระแสฮิต ทั้งใน TikTok รวมถึง IG ในการทดลองด้วยการ ล้างน้ำด้วยน้ำเย็น หรือ ใช้น้ำแข็งถูรอบบริเวณใบหน้าทุกวัน เพราะ “เชื่อ” ว่าจะทำให้หน้าใส ปิดรูขุมขน นอกจากนี้ ยังมีนักธุรกิจหัวใส ออกผลิตภัณฑ์ “ลูกกลิ้งเก็บความเย็น” มาใช้นวดหน้า เพราะเชื่อว่าจะทำให้หน้าเด้ง

เกี่ยวกับประเด็นนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับคุณหมอโบนัส หรือ รองศาสตราจารย์ ดร.พญ.รัชต์ธร ปัญจประทีป หัวหน้าศูนย์โรคเส้นผมและหนังศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เจ้าของรางวัลงานวิจัยระดับโลก ในการรักษาผมร่วงศีรษะล้านจากพันธุกรรม โดยเป็นตัวแทนของ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

คุณหมอโบนัส กล่าวถึง “ลูกกลิ้งเก็บความเย็น” ว่า สำหรับอุปกรณ์ดังกล่าว มันสามารถแบ่งหน้าที่ออกเป็น 2 อย่าง อย่างแรก คือ การนวดหน้าจากลูกกลิ้ง และ ความเย็น สำหรับการใช้นวดหน้ามันก็มีส่วนช่วยให้เกิดการไหลเวียนดีขึ้น โดยเฉพาะระบบน้ำเหลืองต่างๆ ลดอาการใต้ตาบวมได้ แต่ถ้าจะทำให้ผิวขาวขึ้น หน้าใสขึ้น มันคงทำไม่ได้ 

...

แต่...ที่ผ่านมา ไม่มีการวิจัยชัดเจนว่า การใช้ลูกกลิ้งจะช่วยอะไรได้บ้าง 

ส่วน “ลูกกลิ้งเย็น” ในทางการแพทย์เคยนำมาใช้ ลดรอยช้ำ รอยบวม ได้ เหมือนเป็นการประคบเย็น แก้อาการช้ำ โดยเฉพาะจากการที่เราไปทำหัตถการ เช่น ฉีดโบท็อกซ์ ใน 24 ชั่วโมงแรกเท่านั้น 

“แต่ถ้าจะบอกว่าใช้แล้วน่าใส ริ้วรอยหายไป มันเป็นไปไม่ได้ เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับ เซลล์สร้างเม็ดสีของใต้ผิวหนัง แตกต่างจากการทาครีมให้มันชุ่มชื้น อันนี้คือ การแก้ปัญหาริ้วรอยโดยตรง” 

เมื่อถามว่า มันจะมีผลเสียตามมาหรือไม่ หากใช้เป็นประจำ รองศาสตราจารย์ ดร.พญ.รัชต์ธร กล่าวว่า คงไม่มีผลเสียมาก แต่ก็ไม่ได้ดีมากมายอะไร แต่...เท่าที่เคยเห็นคนไข้บางคน ทายาบางอย่างบริเวณใบหน้า จากนั้นใช้ลูกกลิ้ง ก็คล้ายกับทำให้ยาซึมไปมากขึ้น

การล้างหน้าด้วยน้ำเย็น และน้ำแข็ง 

กับประเด็นข้างต้น คุณหมอโบนัส  กล่าวว่า การล้างหน้าด้วยน้ำเย็น หรือ น้ำแข็งถูหน้าแล้วหน้าใส เรื่องนี้ก็เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้แปลว่า คนที่อาศัยประเทศที่หนาวเย็น ก็จะหน้าใสกว่าคนที่อยู่ในประเทศเขตร้อน แบบนี้หรือ 

“ขนาดของรูขุมขนของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับขนาดของต่อมไขมัน และเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ ซึ่งบางคนมีรูขุมขนใหญ่ การใช้น้ำเย็นหรือน้ำแข็งถูบริเวณใบหน้า ก็อาจจะช่วยปิดรูขุมขนได้ แต่เป็นการ “ชั่วคราว” มากๆ (ลากเสียง) ดังนั้น หากจะใช้จริงในชีวิตประจำวันของเรา ก็คงช่วยไม่ได้” 

ไทยเป็นประเทศร้อน แค่เหงื่อออก ตุ่มไขมันก็จะคลายน้ำมันออกมาเยอะ ก็จะทำให้เราดูหน้ามัน อากาศเย็น เหงื่อออกน้อย ไขมันก็ออกมาน้อย ดังนั้น หากมองในมุมวิทยาศาสตร์ คำตอบก็น่าจะประมาณนี้ แต่รูขุมขนของเรามันก็เท่าเดิม เพียงแต่เวลาหน้ามัน ทำให้เราเห็นรูขุมขนชัดเจนขึ้น

กับกระแสที่เกิดขึ้นนั้น หมอโบนัส ให้ความเห็นว่า ในทางการแพทย์มองว่ามันไม่เกิดประโยชน์อันใด ส่วนหนึ่งเอง คือ ยังไม่มีงานวิจัยใดๆ รองรับ 

“ถามว่ามันอันตรายหรือไม่ ก็คงไม่ถึงขั้นอันตราย แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเชื่อ เราจะไปห้ามความเชื่อใครก็ไม่ได้” 

ช่วงท้ายคุณหมอโบนัส แนะนำการดูแลผิวหน้า ว่า หากเราออกไปข้างนอก เจอฝุ่นควันรถ ก็ควรกลับมาล้างหน้าให้สะอาด โดยเลือกใช้สบู่ที่เหมาะสมกับผิวหน้าของเรา เพราะการล้างหน้าคือ การล้างสิ่งสกปรกออกจากผิวให้ออกไป การที่หน้าเราไปเจอ PM 2.5 หากปล่อยให้มันค้างอยู่ก็จะทำให้หน้าเกิดอาการแพ้ เพราะมันส่งผลต่ออนุมูลอิสระ ซึ่งมันจะมีผลในระยะยาว นอกจากนี้ ให้แนะนำ คือ การใช้ครีมกันแดด เพราะจะได้ปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลายจากแสงแดด เพราะแสงแดดปัจจุบันค่อนข้างแรงและอันตราย มันอาจกระตุ้นให้เกิดเม็ดสี หรือ ร้ายแรงกว่านั้น อาจเกิดกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง ในขณะที่ครีมที่ให้ความชุ่มชื้น สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม...

...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่น่าสนใจ