พรรคเป็นธรรม การันตี ไม่เปลี่ยนขั้ว สนับสนุนพรรคก้าวไกลส่งจนถึงฝั่ง แนะพรรคร่วมสงวนจุดต่างผ่าน MOU

การสนทนาที่ว่าด้วยความคืบหน้าในการจัดทำร่าง MOU ระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคการเมืองอีก 8 ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และ พรรคใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง ระหว่าง “ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์” และ “ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ” หัวหน้าพรรคเป็นธรรม

ความสอดคล้องระหว่างพรรคเป็นธรรม และ พรรคก้าวไกล :

“นโยบายของพรรคเป็นธรรม มีความคล้ายคลึงกับนโยบายของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็น 1.เรื่องการกระจายอำนาจ ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ 2.การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งความสอดคล้องนี้เอง จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทางพรรคก้าวไกลชักชวนให้พรรคเป็นธรรมเข้ามาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล”

ความคืบหน้าในการจัดทำ MOU :

“ผมขออนุญาตพูดแบบนี้ครับ....เนื่องจากวันนี้ (19 พ.ค. 66) ผมยังไม่ได้เห็นรายละเอียดในร่าง MOU ฉบับเต็มว่าจะประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง เนื่องจากกำลังอยู่ในระหว่างการหารือของบรรดาเลขาธิการพรรคการเมืองต่างๆ และคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในช่วงประมาณสายๆ ของวันที่ 21 พ.ค.

ทำให้ ณ เวลานี้ ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า...สำหรับเฉพาะพรรคเป็นธรรมและพรรคก้าวไกล เราอาจจะขอสงวนจุดที่มันมีความเห็นที่ไม่เหมือนกันกับพรรคก้าวไกลเอาไว้ในกระเป๋า เราจะเอาเฉพาะจุดที่คล้ายกันไปด้วยกันก่อน ขณะที่ในส่วนของรายละเอียดที่อาจจะยังมองไม่ตรงกัน เดี๋ยวเอาไว้ว่ากันทีหลัง

...

เพราะการทำงานในลักษณะของรัฐบาลผสมที่มีมากถึง 9 พรรคนั้น อะไรที่เป็นสิ่งที่ร่วมกัน ตกผลึกร่วมกัน ต้องไปด้วยกัน ส่วนอันไหนที่ยังไม่ตกผลึก เป็นเรื่องของส่วนตัวที่นำเสนอในส่วนของแต่ละพรรค ท่านควรเก็บใส่กระเป๋าแล้วไว้ค่อยคุยกันทีหลัง

ผมขอยกตัวอย่างนะครับ เช่น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเป็นธรรมกับพรรคก้าวไกล อาจจะเห็นตรงกันว่าควรมีการแก้ไขทั้งฉบับ แต่ของพรรคอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย หรือ บางพรรคอาจจะบอกขอเว้น หมวด 1 หรือ หมวด 2 ซึ่งแบบนี้ เราอาจจะต้องบอกว่า อาจจะต้องสงวนท่าทีกันอยู่อะไรแบบนี้ คือ คงจะยังไม่ลงในรายละเอียดว่าจะแก้อะไรบ้าง หรือ ต้องแก้หมวดไหน ไม่แก้หมวดไหนอะไรยังไง เพราะมันยังไม่ถึงเวลา”

การหารือ MOU ร่วมกับพรรคการเมืองอื่นๆ :

“พรรคเป็นธรรมเป็นเพียงพรรคเล็กๆ เราคงทำในส่วนของเราไปก่อน เพราะจะให้ผมไปขัดขาพรรคอื่นที่มีในระดับ 100 เสียงขึ้นไปได้อย่างไร (หัวเราะ) เอาเป็นว่า...เราก็ทำในส่วนของเรา ที่เราสนใจ ที่เราเห็นว่าสมควรที่จะเขียนลงไปใน MOU ก็เขียนใส่เข้าไป อะไรแบบนั้นมากกว่า เพราะมันเป็นเหมือนการระดมทุนร่วมกัน คนนี้มีทุนมากก็ใส่เยอะหน่อย ส่วนคนไหนตัวเล็กกว่าก็ใส่น้อยหน่อย (หัวเราะ) จากนั้นก็เอารวมๆ กันเป็นกองกลางไว้ก่อน และยังไม่อนุญาตให้นำทุนนี้ออกไปใช้”

การันตีไม่มีเปลี่ยนขั้ว :

“คือเอาล่ะ!...แม้ในรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ บางพรรคอาจจะยังเห็นไม่ตรงกันอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ดีส่วนตัวผมก็เชื่อมั่นว่า พรรคการเมืองต่างๆ จะหาทางพูดคุยกันเพื่อให้เกิดการตกผลึกได้ในท้ายที่สุดแน่นอน และผมขอยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนข้าง เพราะวันนี้จบข้างนี้แล้ว จบที่ตัวเลขที่บอกแล้ว และจะสนับสนุนให้การฟอร์มรัฐบาลของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เดินหน้าไปให้สุดทาง ซึ่งสุดทางที่ตรงไหนก็คือตรงนั้น เพราะมติของประชาชนสั่งผมมาแบบนี้!

เว้นแต่ว่า...ในเงื่อนไขที่ว่าการฟอร์มรัฐบาลพรรคก้าวไกลที่กำลังดำเนินการอยู่ ณ ปัจจุบัน ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ไม่ถึงสุดทาง ก็ต้องค่อยมาว่ากันว่า...จะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ก็คงต้องให้พรรคแกนนำอย่างพรรคก้าวไกลไปบริหารจัดการก่อน อย่างไรก็ดี...ผมก็หวังใจว่าจะให้ไปถึงรอดฝั่งนะ อันนี้ผมพูดจริงๆ เพราะผมอยากให้ไปถึงรอดฝั่ง”

ทางเลือกดึงพรรคอื่นเสริม :

“ส่วนตัวผมเชื่อว่า...เท่านี้พอแล้ว (314 เสียง) เพราะน่าจะเยอะเกินสมควรด้วย สำหรับการเป็นรัฐบาล อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวผมนะครับ (หัวเราะ) แต่พรรคเป็นธรรมของเรา คงไม่สามารถพูดได้เพราะพรรคเราไม่ใช่พรรคแกนนำ แต่ถ้าหากพรรคแกนนำอยากจะได้เพิ่มอะไรยังไงก็ว่ากันไป” ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ ปิดท้ายการสนทนา กับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านบทสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้อง :

...