“ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์” ขอไปสำรวจตรวจแถวเช็กความพร้อมของพรรคชาติไทยพัฒนาในศึกเลือกตั้ง 2566 กับ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา แกนนำพรรคและทายาทของมังกรการเมืองสุพรรณ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรี
ฐานที่มั่นสำคัญอย่าง “จังหวัดสุพรรณบุรี” จะถูกเจาะได้หรือไม่? คนคุ้นเคยกันจะผิดใจกันเพราะการเลือกตั้งจริงหรือไม่? อะไรคือความหวังสูงสุดสำหรับพรรคขนาดกลางอย่างพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งหมดนี้มารับฟังจากปาก ของ มังกรสาวเมืองสุพรรณฯ อย่าง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา กันดู....
การรักษาฐานที่มั่นสำคัญจังหวัดสุพรรณบุรี :
“สำหรับจังหวัดสุพรรณบุรี พี่พูดได้คำเดียวว่า เราขอสู้ยิบตา เราไม่สามารถห้ามเขาได้ เพราะมันเป็นสิทธิของเขา ที่เขาจะมาลง แต่โดยมารยาทสมมติถ้าเราเคยทำงานมาด้วยกัน การที่มุ่งเน้นจะมาเจาะเอาซะจริงเลยเนี่ย กระทั่ง ถึงขั้นทาบทามผู้สมัครเดิมของเรา หรือมาลงพื้นที่เราเลย แบบขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาลงพื้นที่เรา โดยที่ไม่บอกเจ้ากระทรวงที่มีหน้าที่ตรงนั้นโดยตรง มันก็ดูเจาะจงมากไปสักนิดนึงไหมคะ ทั้งๆ ที่ทำงานด้วยกันมา” น.ส.กัญจนา เริ่มต้นการสนทนากับ “ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์” ด้วยน้ำเสียงเข้มข้น
...
พรรครวมไทยสร้างชาติ :
“ไม่ต้องเคลียร์ค่ะ....แต่เห็นบอกว่าไปเคลียร์กับหัวหน้าพรรคแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของเขา อย่างที่บอก เราห้ามเขาไม่ได้ ถ้าหากมาเราก็สู้ แล้วก็จะสู้เต็มที่ด้วย ถามว่าหนักใจไหม ก็บอกได้เลยค่ะว่าไม่หนักใจ แต่ก็จะไม่ประมาทเช่นกัน และเราจะทำเต็มที่”
การต่อสู้กระแสพลังดูด :
“ไม่กังวลค่ะ เพราะถ้าเราดีจริง เขาก็มาดูดของเดิมของเราไม่ได้ แต่จริงๆ เราก็ไม่ค่อยมีอะไรให้เขาดูดอยู่แล้วนะคะ หากพูดกันตรงๆ (หัวเราะ) อันนี้พี่พูดแบบเจียมเนื้อเจียมตัว เราไม่ได้มีอะไรเยอะแยะ ที่ใครจะมาดูดอะไรเรา เราก็มีของเราอยู่แค่นี้เอง จะมาดูดอะไรเราอีก (หัวเราะ)”
ตรวจแถวความพร้อมศึกเลือกตั้ง 2566 :
พรรคชาติไทยพัฒนาเตรียมพร้อมเต็มที่แล้ว สำหรับการเลือกตั้งที่ใกล้มาถึง โดยเฉพาะในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ ล่าสุด ทางพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ที่ปรึกษาที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่าง ศ.กนก วงษ์ตระหง่าน และ นายสันติ กีระนันทน์ เข้ามาช่วยดูแลภาพรวมเรื่องนโยบายเศรษฐกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“สำหรับแคมเปญหลักที่พรรคจะสื่อสารให้กับพี่น้องประชาชนในการหาเสียงครั้งนี้ คือ พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มองอะไรแค่ผิวเผินฉาบฉวย ไม่นิยมการลดแลกแจกแถม แต่เราเป็นพรรคที่ต้องการทำนโยบายที่จะให้ผลลัพธ์สืบต่อไปถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน และสามารถพี่น้องประชาชนสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองอย่างแข็งแกร่ง”
ด้านความพร้อมในเรื่องการวางตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้งระบบบัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขต นั้น มีความพร้อมเต็มที่แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ดีเนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนา เป็น พรรคขนาดเล็ก ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทางพรรคจึงอาจส่งผู้สมัครลงได้ไม่ครบทุกเขต แต่จะมีการกระจายตัวผู้สมัครออกไปในพื้นที่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน เป็นหลัก ส่วนทางภาคใต้ และ กทม. แม้ว่าครั้งนี้ทางพรรคจะส่งผู้สมัคร แต่ก็จะมีจำนวนไม่มากเท่าใดนัก
ยุทธศาสตร์ศึกเลือกตั้งแบ่งขั้ว :
สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา ยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์เดิม คือ จะไม่มีการถือขั้วแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะพรรคไม่นิยมความขัดแย้ง ฉะนั้นการจะไปร่วมงานกับใครต้องไปว่ากันหลังการเลือกตั้ง เพราะพรรคจะตั้งอยู่ในจุดที่จะสามารถทำงานให้กับประชาชนได้มากที่สุดเท่านั้น และในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองคงมีแนวความคิดแบบนี้เช่นกัน
...
ความหวังของพรรคชาติไทยพัฒนาในศึกเลือกตั้ง 2566 :
“เบื้องต้นพื้นที่ ที่เราตั้งความหวังเอาไว้มากที่สุด คือ น่าจะสามารถเหมา ส.ส. เขต ยกจังหวัดได้ทั้งพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดนครปฐม รวมถึงจังหวัดร้อยเอ็ด เขต 1 แต่ถ้าหากถามตัวเลขกลมๆ ความหวังสูงสุดซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องยากสำหรับพรรคขนาดเรา ก็คงอยู่ที่ประมาณสูงสุด 25 เก้าอี้ขึ้นไป เพื่อที่จะสามารถส่งให้หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ แต่ถ้าหากมองด้วยความเป็นจริง หากพรรคชาติไทยพัฒนาได้มาสัก 15-20 เก้าอี้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าประสบความสำเร็จมากๆแล้ว”
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี :
พรรคชาติไทยพัฒนา มีมติเลือกส่งชื่อคุณวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1
อนาคตการเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา :
“หลังส่งมอบตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้กับ คุณวราวุธ แล้ว พี่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องการเมืองมากนัก และในการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึงนี้ พี่ก็คงไม่ลงสมัคร ส.ส. ทั้งในระบบบัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.เขต แล้ว” แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ปิดท้ายการสนทนากับ “ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์”
...
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง