ในตอนที่แล้ว ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ “ย้อนคดีตายปริศนา ลำดวน สีกันยา “สตรีแห่งขุนเขา” 19 ปีที่ยังปิดไม่ลง” ซึ่งถือว่าคดีที่ยากมากคดีหนึ่ง ที่เกิดกับ “หญิงไทย” ที่มีชะตากรรมต้องจบชีวิตลงในต่างแดนอย่างเปลี่ยวเหงา ที่สำคัญคือ มีหลายประเด็นที่ชวนสงสัย ถึงขนาดตำรวจท้องถิ่น ก็สงสัยว่าอาจจะเป็น “คดีฆาตกรรม” แต่...เมื่อผลชันสูตร กลับไม่ระบุ “สาเหตุการตาย”

ด้วยความสงสารของผู้คนที่เห็น ผู้หญิงตัวเล็กๆ ต้องมาตายอย่างโดดเดี่ยว จึงทำป้ายศพ ฝังร่างให้ พร้อมให้ชื่อว่า THE LADY OF THE HILL หรือ "สตรีแห่งขุนเขา" เพราะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน กระทั่ง 15 ปีต่อมาถึงจะพิสูจน์ได้ ว่าเธอคือหญิงสาวเคราะห์ร้าย ที่มีถิ่นกำเนิดใน จ.อุดรธานี

ล่าสุด กลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตำรวจอังกฤษ ได้เดินทางข้ามน้ำ ข้ามทะเล มาหา หญิงชรา วัยกว่า 70 ปี “จูมศรี สีกันยา” แม่ของเธอที่หวังจะได้รับกระดูกลูกสาวกลับบ้าน...

...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามเบื้องหลังของเรื่องนี้ กับ "นายอุดมกาล วโรตม์สิกขิตถ์" พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ จาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ คนที่คอยประสานงานช่วยเหลือ ตำรวจอังกฤษ

นายอุดมกาล เล่าว่า คดีของคุณลำดวน เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งนักปีนเขาไปเจอศพหญิงนิรนาม ด้วยความสงสารที่ต้องเสียชีวิตอย่างโดด และจากการชันสูตรศพของ นิติเวช ของเขา ซึ่งไม่สามารถบอกสาเหตุการตายได้ เขาจึงทำเป็น “สุสาน” ไว้ให้ในชื่อ "สตรีแห่งขุนเขา" หรือ THE LADY OF THE HILL 

กลับมาทางประเทศไทย คุณยาย “จูมศรี สีกันยา” ก็พยายามตามหาลูกสาว ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ยุติธรรมจังหวัด สถานทูตอังกฤษ สุดท้ายได้ไปประสานสมาคมเครือข่ายหญิงไทย ในอังกฤษ กระทั่งเรื่องไปถึงสถานทูตอังกฤษ จากนั้น ทางสถานทูต จึงได้ประสานมายังประเทศไทย และก็มาถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ช่วยตรวจสอบว่า “ศพนิรนาม” คือใคร.... ใช่ “ลำดวน สีกันยา” หรือ ลำดวน อาร์มิเทจ หรือไม่

ดีเอสไอ ไปตรวจสอบให้ ด้วยการเช็ก “ลายนิ้วมือ” กับข้อมูลกรมการปกครอง ปรากฏว่า “ตรงกัน” ตอนหลัง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ตรวจ DNA และทางอังกฤษ ก็ยืนยันว่า “ตรงกัน”

ด้วยเหตุนี้ จึงมีการ “เปิดแฟ้มคดี” ขึ้นมาใหม่...และมีการขอความร่วมมือทางอาญา ส่งเรื่องมาที่อัยการสูงสุด และมีการส่งเรื่องกลับมาที่ DSI เพราะเห็นว่า เคยให้ความร่วมมือกับคดีนี้ไปแล้ว ดีเอสไอ ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับ ตำรวจอังกฤษ กระทั่งได้มาพบคุณยาย

เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ย้ำว่า “เจตนารมณ์ของตำรวจอังกฤษ คือ เขาอยากมาพบคุณยาย เพราะต้องการอธิบายขั้นตอนการนำกระดูกลูกสาวกลับ เนื่องจากการจะนำศพ หรือ เถ้ากระดูกกลับประเทศไทยได้ มีหลายขั้นตอนมาก อาจจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง”

สิ่งที่คุณยายรู้สึกอัดอั้นตันใจ คือ แกอยากให้ลูกสาวกลับมาบ้าน แล้วทำไมถึงกลับไม่ได้สักที ทั้งที่รู้ว่า ลูกสาวอยู่ที่ไหน ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่มาหาหลายครั้งแล้ว ทำไมยังไม่ได้

...

การที่ตำรวจอังกฤษ เดินทางมาเก็บพยานหลักฐาน หรือ พยานบางอย่าง ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นโอกาสที่จะมาอธิบายให้คุณยายฟังด้วยตัวเอง ซึ่งมีหลายขั้นตอน เกี่ยวข้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา พ.ศ.2535 (แก้ไขเพิ่มเติม 2559)

เจตนารมณ์ของ ทางการไทย หรือ ทางการอังกฤษ ล้วนมุ่งช่วยเหลือคุณยายให้ได้เจอลูกอีกครั้ง แต่ทุกอย่างมันต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่...คุณยาย ก็บ่นอย่างน่าเห็นใจว่า ยายอายุมากแล้ว.....”

ปัญหาใหญ่แห่งคดี ไม่ระบุสาเหตุการตาย

นายอุดมกาล กล่าวว่า จากการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะของคดีนี้ ระบุว่า ช่วงที่คุณลำดวน เสียชีวิต ก็ได้มีการเก็บหลักฐานต่างๆ ไว้หมด ซึ่งก็ทำตามขั้นตอน เพียงแต่.... สาเหตุที่ทำให้คดีนี้มันยาก เพราะ ไม่มีระบุสาเหตุการตาย และก็ยังไม่มีการระบุว่าเป็น “ฆาตกรรม”

เพราะไม่รู้สาเหตุการตาย ทำให้กรอบทำงานกว้างมาก อาทิ ตายโดยอุบัติเหตุ ฆาตกรรม ถูกทำให้ตาย หรือโรคกำเริบกะทันหัน แล้วเสียชีวิต ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ทั้งหมด

...

เมื่อ นิติเวช อังกฤษ ไม่สามารถระบุ สาเหตุการตายได้ ก็ส่งผลให้ตำรวจอังกฤษ ทำงานได้ยากขึ้น ทั้งที่มีการตายอย่างผิดธรรมชาติ อีกทั้งในที่เกิดเหตุยังมี “ข้อสังเกต” เกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งการพบศพในลักษณะถอดเสื้อ รองเท้าหาย..?

หากเป็นโรค เสียชีวิต การผ่าชันสูตร น่าจะบอกสาเหตุได้หมด..

พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ จาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ตามหลักของกฎหมาย คือ เหตุเกิดประเทศใด ประเทศนั้น ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อเหตุการณ์ ในพื้นที่ทางเหนือของ “ยอร์กเชียร์” ด้วยเหตุนี้ ทางตำรวจในพื้นที่ จึงต้องพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบ ด้วยการสอบสวนคนในพื้นที่ หาหลักฐานต่างๆ รวมไปถึงการมาหาหลักฐานในประเทศไทย

เวลานี้เรียกว่า กระบวนการสืบสวนเพิ่งเริ่มต้น ซึ่ง หากเป็นคดีฆาตกรรมในอังกฤษ จะไม่มีอายุความอยู่แล้ว แต่หากเป็นประเทศไทย จะหมดอายุความใน 20 ปี

“หากพบพยานหลักฐาน ว่ามีคนอื่นทำให้คุณลำดวน เสียชีวิต เขาก็สามารถดำเนินการได้ โดยขึ้นอยู่กับหลักฐานว่าไปถึงไหน...”

...

จากข้อมูล ระบุว่า ตอนเกิดเหตุเมื่อ 19 ปีก่อน สามีเขาเคยให้ปากคำไปแล้ว อ้างว่าไม่รู้เห็น และก็ถือเป็นผู้เสียหายคนหนึ่งด้วย ส่วนการสืบสวนในประเทศไทย ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่สิ่งที่เราทำได้ คือ เขาอยากไปไหน ไปสอบสวนใคร เราจะอำนวยความสะดวก ตามกฎหมาย ป.วิฯ อาญา

“อนาคตคดีจะเป็นอย่างไร คงขึ้นอยู่กับ เจ้าหน้าที่อังกฤษ ว่ามีแนวทางสอบสวนอย่างไร การได้มาซึ่งพยานหลักฐานมีอะไรบ้าง โดยมีทางการไทย ให้ความร่วมมือตามกฎหมาย”

ที่น่าเห็นใจคือ คุณยายแทบจะไม่สนใจแล้วว่า คดีจะเป็นอย่างไร สิ่งที่คุณยายต้องการเพียงอย่างเดียว คือ อยากได้ศพลูกกลับมาบำเพ็ญกุศลให้ ตอนที่แกยังมีชีวิตอยู่ นี่คือความต้องการสูงสุดแล้ว

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านบทความที่น่าสนใจ