นอกกาย บวกนอกใจ กลายเป็นชู้!

เรื่องครอบครัว ผสมกับปัญหา “ใต้เตียง” เป็นเรื่องใคร่รู้ของปุถุชนทั่วไป หากมองในฐานะ “คนนอก” อาจเป็นเรื่องสนุก “เม้าท์มอย” โดยเฉพาะกับคนที่มีหน้าตา ฐานะทางสังคมด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ถ้า...จบกันด้วยดี ด้วยความเข้าใจทั้งสองฝ่าย ก็ดีไป แต่เมื่อไหร่ก็ตาม เรื่องไม่จบ กลายเป็นเรื่องสาวไส้ ใช้ภาพ คลิปลับ ข่มขู่ ประจาน ก็อาจจะเข้าข่ายการ “แบล็กเมล์”

“การฟ้องชู้” กับการ “แบล็กเมล์” มันแตกต่างกันอย่างไร เรื่องนี้คงต้องให้ผู้รู้มาชี้ชัด!

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ “กุ้ง” ทนายความด้านปัญหาครอบครัว และนักสืบจับชู้ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “สายลับจับชู้” ที่มีความเชี่ยวชาญปัญหา “บ้านเล็ก” มายาวนาน อธิบายเรื่องนี้ว่า งานของเรา คือ การติดตามพฤติกรรมของเป้าหมาย ซึ่งส่วนมากจะเป็นการแสดงตนอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ เช่น กินข้าวในร้านอาหาร ฟังเพลงร่วมกัน จับมือถือแขน โอบไหล่ กอด ทั้งนี้ พฤติกรรมชู้สาว สามารถสังเกตจากการแสดงออก แต่เราไม่ได้เจาะลึกถึง “ในห้อง” หรือ “กิจกรรมภายในห้อง”

วิธีสังเกตว่า คู่นั้นมีความสัมพันธ์อย่างไร....

นักสืบสาว บอกว่า มีอยู่ 2 ประเด็น คือ “สถานที่” และ “เวลา”

สถานที่ที่ไปเหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ไป เช่น เป็นเวลาเลิกงาน ต้องกลับบ้าน เป็นเวลาที่ต้องอยู่กับคนในครอบครัว แต่ว่าคุณไปอยู่กับคนอื่น เช่น เลิกงานแล้วไปกับคนอื่นที่โรงแรม หรือรีสอร์ต ด้วยกัน 2 คน แบบนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่น่าสงสัย เวลาเราตาม เราก็ตามถึงหน้าห้อง แล้วก็จบลงแค่นั้น...

...

ยุคสมัยเปลี่ยน ผู้จ้างจับชู้ หญิง-ชาย พอๆ กัน

สำหรับการจ้างจับชู้ในยุคสมัยนี้ มีความเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต โดย อำนวยพร เล่าว่า สมัยก่อนส่วนมากจะเป็นผู้หญิงมาจ้างจับผู้ชายมีชู้ มีกิ๊ก แต่ปัจจุบันนี้ โลกเปลี่ยนไป ผู้หญิงทำงานนอกบ้านมากขึ้น กลายเป็นว่า สัดส่วนการว่าจ้างไม่ว่าหญิงหรือชาย จะพอๆ กัน

วัตถุประสงค์การสืบ เพื่อรู้ความจริง ฟ้องชู้ จนถึงขั้นหย่า!

เบื้องลึก เป้าหมายการจับชู้ มีวัตถุประสงค์แอบแฝงหรือไม่... ผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบจับชู้ ยอมรับว่า ตั้งแต่ทำงานมา ไม่เคยมีการทำคดีในลักษณะการ “แบล็กเมล์” แต่ใช่ว่าไม่เคยมีคนติดต่อเข้ามา...

ก่อนเริ่มทำคดี จะถามคำถามลูกค้าก่อนว่า “ต้องการหลักฐานไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด?” คำตอบที่ได้รับก็จะแตกต่างกัน ประกอบด้วย

- แค่รู้คำตอบว่า “ตัวเอง” อยู่ในสถานะใด?

“บางคนต้องการแค่รู้ว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร อยู่ในสถานะใด ฝ่ายสามีเอาเงินไปเปย์เขาจนหมดหรือไม่ โดยต้องการแค่ “รู้เขา รู้เรา” แค่นั้น

- ให้เลิก กลับมาหาครอบครัว

“บางคน แค่ต้องการให้เลิก จึงต้องสืบเพื่อให้รู้และแสดงตัว และให้เลือกว่าจะเลือกใคร อยากให้ฝ่ายที่คบชู้ คิดถึงครอบครัว”

- ฟ้องสั่งสอน เรียกค่าเสียหาย

“บางคน ต้องการจ้างเราเพื่อหาหลักฐานในการฟ้องเรียกค่าเสียหายกับชู้ เพื่อเป็นการฟ้องเพื่อสั่งสอน ซึ่งทางภาษากฎหมาย จะเรียกว่าเป็นการเรียกค่าทดแทน อาจจะคิดจากค่า “สึกหรอ” เอาผัว เอาเมีย ของฉันไปใช้”

- ฟ้องหย่า

“เคสสุดท้าย คือ ไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว สุดท้ายจะจบด้วยการฟ้องหย่า”

หลักการฟ้องชู้ และเรียกค่าเสียหาย

สำหรับประเด็นเรื่องการ “แบล็กเมล์” อำนวยพร กล่าวว่า ถ้ารู้ว่ามีวัตถุประสงค์นี้ ก็จะไม่รับงานทันที เพราะถือเป็นการละเมิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ ที่สำคัญคือ การทำงานด้านนี้ ต้องรักษา “ความลับ” ของลูกค้า เราจะไม่เอาความลับลูกค้าไปเปิดเผย ยกเว้นเสียแต่ ลูกค้า เมื่อได้ข้อมูลไปแล้ว เอาไปทำอะไรก็สุดแท้แต่... ส่วนหลักฐานที่ได้มา เมื่อจบคดีก็จะลบทิ้งทั้งหมด 

...

“ถ้าลูกค้าบอกอยากได้ “หลักฐาน” เพื่อ “แบล็กเมล์” เราไม่ทำแน่นอน”

หากลูกค้าไม่ได้บอกเราตรงๆ แต่กลับนำข้อมูลไปใช้ นักสืบสาว บอกว่า หลักฐานจากเราส่วนใหญ่ จะไม่สามารถแบล็กเมล์ หรือตบทรัพย์ใครได้ เพราะสิ่งที่มี คือ หลักฐานที่ใช้ฟ้องร้องในศาลได้ แต่จะเอาไปข่มขู่ใครคงไม่ได้ เพราะเราไม่ได้มีรูป หรือคลิป ภายในห้อง 2 ต่อ 2 และไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ

“ถ้ามีหลักฐานขนาดนั้น สามารถนำมาเป็นหลักฐานการฟ้องหย่าได้ แต่...ฟ้องชู้ไม่ได้ เพราะการฟ้องชู้ คือ ต้องมีลักษณะการคบหาเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน”

มือพระกาฬ เรื่องการจับบ้านเล็ก อธิบายโดยยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า “การฟ้องชู้ ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า “ความเสียหาย” คืออะไร โดยเฉพาะคนดัง คนมีชื่อเสียงระดับไหน

ยกตัวอย่างเช่น เมียเรา หรือสามีเรา ไปแสดงตนอย่างเปิดเผยถึงการเป็นชู้ เช่น เมียเราพาคนอื่นไปออกงานคู่กัน ทั้งที่คนอื่นรู้อยู่แล้วว่ามีเราเป็นสามี และหากเราเป็นคนที่มีชื่อเสียง ทำให้คนทั้งประเทศรู้ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดการ “อับอาย” ไม่สามารถอยู่ในสังคมได้แล้ว

...

ส่วนค่าเสียหายที่จะฟ้องได้ ขึ้นอยู่กับการเป็นคนมีชื่อเสียงหรือไม่ อาชีพการงานเป็นอย่างไร ฐานะทางสังคมเป็นอย่างไร ตัวเลขค่าเสียหายในการฟ้อง จะเรียกเท่าไรก็ได้ แต่สุดท้ายศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะได้เท่าไร...

ภาพลับ คลิปลับ ใช้ได้ในการฟ้องหย่า การ “การแบล็กเมล์” มีโอกาสถูกฟ้องกลับ

อำนวยพร เล่าจากประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในวงการนี้ว่า การใช้วิธีการแบล็กเมล์ โดยนำคลิปลับ ภาพลับมาเปิดเผย คดีแบบนี้ก็เคยมีการยกฟ้องมาแล้ว

อำนวยพร กล่าวว่า การนำภาพ หรือคลิปที่ถ่ายกันแบบ 2 ต่อ 2 มาเปิดเผยต่อสาธารณชน บางครั้งจะถูกมองว่า อาจจะมีเจตนาทำลายชื่อเสียง หรือ “รีดเงิน” ที่สำคัญคือการ “แบล็กเมล์” จะดู “ที่มาของหลักฐาน” เช่น ภาพชัดเห็นแม้กระทั่งไฝในร่างกาย ก็จะดูในประเด็น “การได้มาซึ่งหลักฐาน” ว่าใคร...ส่งข้อมูลให้ สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ ฝ่ายไหน เป็นผู้นำคลิปลับ หรือภาพลับมาเปิดเผย ก็แสดงว่าฝ่ายนั้นๆ มีเจตนารมณ์แอบแฝงบางอย่าง บางคนอาจจะต้องการเงิน หรือชื่อเสียง...?

ยิ่งกรณีบางคนมีการเรียกร้องปนข่มขู่ เช่น ถ้าคุณไม่จ่ายฉันตามนี้ ฉันจะเอาภาพ หรือคลิปไปเปิดเผย เพื่อทำให้คุณเสียชื่อเสียง แบบนี้ยิ่งเข้าข่ายเป็นการ “แบล็กเมล์” บีบเพื่อประจาน

...


ทนายนักสืบ ที่ถนัดคดีจับบ้านเล็ก ฝากไว้ว่า ในความเป็นจริง เรื่องแบบนี้สามารถดำเนินการในศาลได้ ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องมาเปิดเผย หากเป็นเรื่องจริง ก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ และควรใช้ “หลักวิชาชีพ” สู้กันตามกฎหมายปกติ จะฟ้องชู้ หรือฟ้องหย่า ก็ล้วนมีกระบวนการของมัน บางกรณีใช้คลิปหรือภาพในศาล สุดท้ายตกลงกันได้ ก็จบด้วยการลบคลิปออก

“ประเด็นเรื่อง “ชู้สาว” ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ใครจะดี หรือเลว คุณมีสิทธิ์ใช้กระบวนการทางกฎหมาย แต่ไม่สมควรประจานออกสื่อ ที่ผ่านมา มีหลายเคสที่ทำกันแบบนี้ บางคนยอมที่จะจ่ายเพื่อจบ แต่บางคนก็เลือกที่จะฟ้องกลับ เพราะบางครั้งการทำให้บุคคลอื่นอับอาย ไม่ได้อายแค่คนในสังคม แต่มันอายถึงคนในครอบครัว ขณะที่บางคนถูกทำลายชื่อเสียงไปแล้ว ก็เลือกที่จะฟ้องกลับ เพราะชื่อเสียงไปหมด จึงจำเป็นต้องเปิดหน้าชน”

เคสมาขอให้ทำคดี “แบล็กเมล์” ที่จำเป็นต้องปฏิเสธงาน

ในช่วงท้าย นักสืบสาวยังเล่าประสบการณ์ การ “แบล็กเมล์” จากคู่รัก คู่หนึ่งที่จะมาจ้าง ว่า ตอนได้รับการติดต่อมา ก็ไม่แน่ใจว่า ต้องการให้สืบเพื่อหาหลักฐานการมีชู้ แต่...สิ่งที่เล่ามา มันไม่ชอบมาพากล

สามีทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เปย์เงินทองให้ โดยดูแลผู้ชายคนนี้อย่างเต็มที่ กระทั่งวันหนึ่ง ผู้ชายคนนี้เริ่มตีตัวออกห่าง แม้จะอยู่ในองค์กรเดียวกันก็ตาม

ผู้หญิงที่เปย์เงินให้ผู้ชายรายนี้ เริ่มรู้สึกไม่พอใจที่ฝ่ายชายจะตีจาก จึงมีการออกปากว่า ถ้าไม่กลับมาหาฉัน ฉันจะเอาทรัพย์สินคืน ซึ่งฝ่ายชายก็ไม่ยอม ฝ่ายหญิงจึงเสนอว่า เป็นการทำสัญญาเงินกู้ หรือไม่ ฝ่ายชายก็ไม่ยอม จึงได้ออกอุบายวางแผนกับเมีย

เมื่อผู้ชาย กลับไปหาผู้หญิงที่เปย์เงินให้ และเวลาอยู่กัน 2 ต่อ 2 ก็แอบถ่ายรูปส่งให้เมีย เพื่อให้ “เมีย” มาฟ้อง “ชู้” ซึ่งฝ่ายเมียที่ได้ภาพมาจากมือถือสามี และอ้างว่าได้ “ภาพหลุด”

เมื่อเราทราบเรื่องทั้งหมด จึงปฏิเสธงานทันที ถึงแม้เราจะเป็นนักสืบ และทนายความ แต่เราก็ทำงานด้วยจรรยาบรรณในอาชีพนักสืบ งานลักษณะนี้ไม่ใช่การสืบ แต่มันคือการ “รีดไถ” กัน

อำนวยพร ย้ำว่า การ “แบล็กเมล์” ไม่สามารถฟ้องชู้ได้ เพราะถึงเวลาก็จะรู้ได้ว่า “ใคร” เป็นคน “ถ่าย” เพราะภาพบางภาพมันบ่งบอกอยู่แล้วว่าใครถ่าย จะบอกว่า “นักสืบ” ไปถ่าย มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเราคงไม่ถึงขั้นเจาะกำแพงเพื่อถ่ายภาพหรอก...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านบทความที่น่าสนใจ