รับฟังทัศนะการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของพรรคชาติพัฒนา จาก “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานพรรคชาติพัฒนา หลังเปิดรับ จิ๊กซอว์ สำคัญ “กรณ์ จาติกวณิช” จาก พรรคกล้า เข้าร่วมทีม อะไรคือเป้าหมาย ความหวัง และการจัดวางยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งที่ใกล้มาถึง ภายใต้แรงผลักอันสำคัญที่ว่า “พรรคชาติพัฒนาต้อง Come Back” โดยให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
“พรรคชาติพัฒนาขอให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจเป็นลำดับแรก”
จากประสบการณ์ทางการเมืองเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ปัญหาเศรษฐกิจที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ หนักหน่วงและสาหัสมากที่สุด เพราะปัญหาเศรษฐกิจในเวลานี้มาจากหลายๆ ปัจจัย เช่น ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19, สงครามการค้า, สงครามยูเครน และบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องเทคโนโลยี โลกร้อน และดุลอำนาจของประเทศมหาอำนาจ หรือแม้กระทั่ง เงินเฟ้อ ซึ่งตัวแปรต่างๆ เหล่านี้ สามารถสร้างความผันผวนให้กับระบบเศรษฐกิจไทยได้มากขึ้นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ หากจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ...พายุทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ๆ ที่กำลังเข้าถาโถมคนไทย และยังมองไม่เห็นเลยว่า พายุลูกนี้จะเบาลงได้เมื่อไหร่?
“ปัญหาของประเทศในเวลานี้ คือ ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ฉะนั้นจึงต้องเตรียมคนที่เข้ามาสร้างทีมเวิร์กร่วมกันในการปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วงตามที่เรามีหน้าที่ในฐานะพรรคการเมือง ซึ่งเรื่องนี้จึงกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ คุณกรณ์ จาติกวณิช กลายเป็นผู้ที่เหมาะสม”
...
กรณ์ จาติกวณิช :
ประสบการณ์ ทันสมัย และเข้าใจเศรษฐกิจฐานราก
“ความพิเศษของ คุณกรณ์ คือ นอกจากเคยทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ จนกระทั่งได้รับการยอมรับในระดับสากลแล้ว ยังมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในภาพใหญ่ของปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบันด้วย อีกทั้งการที่เคยผ่านการเป็น ส.ส. เลือกตั้งมาก่อน จึงย่อมมีความเชื่อมโยงและมองภาพปัญหาเศรษฐกิจได้ตรงใจกับบรรดาคนฐานรากได้ด้วย”
กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ :
“คุณกอร์ปศักดิ์ เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนาแล้ว ซึ่งการได้คุณกอร์ปศักดิ์เข้ามาเพิ่มไม่ต่างอะไร กับที่พรรคชาติพัฒนา ได้แรงม้าในการขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้มากขึ้น เพราะคุณกอร์ปศักดิ์ เคยทำหน้าที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ รวมถึงเป็น ส.ส. ที่ผ่านสนามเลือกตั้งมาก่อนเช่นเดียวกับคุณกรณ์ จึงมีความเข้าใจเศรษฐกิจฐานรากเป็นอย่างดี”
สูตรผสมที่ลงตัว :
“การเมืองไทยยุคนี้ พรรคการเมืองจะทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้ ต้องมีความผสมผสาน คือ ต้องมีทั้งนโยบายเศรษฐกิจที่ดี และต้องมีประสบการณ์ทางการเมือง เพื่อประคับประคองให้เกิดวิธีการที่เหมาะสมในการบรรลุเป้าหมาย ด้วยเหตุนี้ ทั้งคุณกรณ์ และคุณกอร์ปศักดิ์ จึงถือเป็นจิ๊กว์ซอสำคัญที่จะเข้ามาผสมผสานให้พรรคชาติพัฒนายุคใหม่เข้าสู่ความลงตัว”
การขยายตัวของพรรคชาติพัฒนา :
“คุณกรณ์ บอกกับผมหลังสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนาว่า จะช่วยสร้างทีมเศรษฐกิจให้กับพรรค โดยจะมีการชักชวนบุคคลที่คุณกรณ์ไว้วางใจ เข้ามาร่วมงานกับทีมเศรษฐกิจชุดนี้ให้มากขึ้น”
เป้าหมายพรรคชาติพัฒนา :
“เป้าหมายของเราคือ พรรคชาติพัฒนาต้อง Come Back!”
การได้คุณกรณ์ จาติกวณิช เข้ามาทำให้ภาพลักษณ์พรรคชาติพัฒนาดูหนุ่มขึ้น กระฉับกระเฉงมากขึ้น แข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้ความหวังในการทำพรรคชาติพัฒนา กลับไปอยู่ในจุดที่สร้างเสถียรภาพและมีนัยสำคัญทางการเมือง เช่น การไปมีบทบาทในกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาประเทศดูจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น
“เวลาที่เราพูดคุยกันในสภา บางทีจำนวนเสียงมีคำตอบมากกว่าเหตุผล บางทีอภิปรายกันไปนโยบายดีๆ แต่ไม่ได้ใช้ เพราะเสียงข้างน้อยแพ้เสียงข้างมาก ฉะนั้นตามระบอบประชาธิปไตยเสียงข้างมากเป็นผู้ตัดสิน แล้วจะทำยังไงให้เสียงข้างมากเป็นเสียงตัดสินแล้วก็ตัดสินบนนโยบายดีๆ ด้วย แบบนี้ต่างหาก ประเทศชาติถึงจะได้ประโยชน์ เพราะนโยบายดีๆ เสียงน้อยก็ไม่เกิดประโยชน์ หรือเสียงดีๆ แต่นโยบายไม่ดีก็ไม่เกิดประโยชน์มันต้อง Two in One นโยบายก็ดีเสียงก็เยอะ วันนี้พรรคชาติพัฒนาจึงอยากจะกลับไปอยู่ในจุดนั้นอีกครั้ง คือ มีนโยบายเศรษฐกิจดีๆ และมีเสียงมั่นคงแข็งแรงมากพอที่จะผลักดันนโยบายเหล่านั้นได้สำเร็จ”
...
กติกาสูตรหาร 100 หรือ หาร 500 :
“ส่วนตัวผมไม่เกี่ยงเลยนะว่าจะหาร 100 หรือหาร 500 เพราะผมไม่ถือว่ามันจะเป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่ชัยชนะหรือพ่ายแพ้ เพราะงานการเมืองถือเป็นงานอาสาตัว ฉะนั้น กติกาว่าอย่างไรเราพร้อมก็ลงแข่ง ไม่พร้อมก็ไม่ต้องลงแข่ง ส่วนการปรับกลยุทธ์ของพรรคชาติพัฒนาในครั้งนี้ ก็ถือเป็นการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับปัญหาของประเทศเป็นหลัก”
...
เขตเลือกตั้ง การแข่งขันสูง และปัญหาเศรษฐกิจ :
“การเลือกตั้งที่ใกล้มาถึงเป็นเรื่องที่ประเมินได้ยาก เนื่องจากมี 3 ปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง”
1. ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้ง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.เขตเลือกตั้งจาก 350 คน เป็น 400 คน ซึ่งเท่ากับทำให้ต้องมีการจัดเขตเลือกตั้งกันใหม่ทั้งหมด
2. การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นจะมีการแข่งขันกันสูงมาก เพราะมีพรรคการเมืองเข้ามาเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนจำนวนมาก
3. การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งความหวังเอาไว้ว่า จะต้องนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ฉะนั้นโดยความเห็นส่วนตัวจึงเชื่อว่า ทุกพรรคการเมืองจึงน่าจะยังอยู่ในสภาพที่เรียกว่า “ประเมินผลการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ยากว่าที่สุดแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร?”
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก : sathit chuephanngam
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
...