เรียกว่าเจอสภาพอากาศหลากหลายเลยทีเดียว สำหรับ เดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยตอนต้นเดือน เกิดอากาศหนาวเย็นหลายวัน พอถึงช่วงปลายเดือน ก็เจอฝนตกหนัก และเจอ “พายุฤดูร้อน” ฝนตกหนักหลายพื้นที่ จนหลายฝ่ายรู้สึกกังวลกับสภาพอากาศ
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาวะอากาศในปี 2565 โดยเปิดเผยว่า พายุฤดูร้อน ที่เราเจอนั้น จะอยู่ในช่วงวันที่ 28 เมษายน-2 พฤษภาคม ซึ่งหลังจากนี้ ฝนก็จะตกน้อยลงในช่วง วันที่ 3 อาจจะยังมีฝนอยู่ แต่คาดว่า วันที่ 4 พ.ค. ซึ่งเป็นวัน ประกอบพิธี “ฉัตรมงคล” เชื่อว่า จะไม่มีฝน
แต่หลังจากนั้น ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ อาจจะต้องติดตามใกล้ชิดอีกครั้ง เนื่องจากเราพบว่า เริ่มมีกระแสลมก่อตัว ในมหาสมุทรแปซิฟิก เกรงว่าอาจจะเกิดลมมรสุมได้หรือไม่ ถ้ากระแสลมมาก สามารถหอบความชื้นขึ้นไปในอากาศ ก็อาจจะก่อตัวเป็น “พายุฤดูร้อน” ได้อีก 1 ลูก แต่...ทั้งนี้ ยังถือว่ายังไม่ฟันธงว่าจะมีพายุหรือไม่ คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเสียก่อน ซึ่งหากมีลมมรสุมดังกล่าว ก่อตัว ก็คาดว่าจะมาถึงประเทศไทย ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ และอาจจะทำให้เกิดฝนตกหนัก ในภาคเหนือและอีสาน เช่นที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า “พายุ” มาเร็วกว่าปกติหรือไม่ อธิบดีกรมอุตุฯ กล่าวว่า ถือว่าปีนี้ฤดูฝนมาเร็วกว่าปกตินิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มาก ซึ่งทางกรมฯ กำลังพิจารณาประกาศให้เข้าสู่ฤดูฝนในช่วงกลางเดือน ประมาณวันที่ 11-12 พฤษภาคมนี้ แต่ต้องดู 3 ปัจจัยประกอบ ซึ่งหากองค์ประกอบมีครบ ทางกรมอุตุฯ ก็จะประกาศให้เข้าสู่ฤดูฝน
...
3 ปัจจัย เข้าสู่ฤดูฝน ประกอบด้วย
1. มีฝนตกชุกต่อเนื่อง และครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ 60-70%
2. ทิศทางลมตั้งแต่ระดับล่างใกล้เคียงผิวพื้นถึงความสูง 3.5 กม. เปลี่ยนทิศทางเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์
3. ลมชั้นบน ตั้งแต่ระดับความสูง 5 กม. ขึ้นไป เปลี่ยนทิศทางเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ
ครึ่งปีแรกเจอฝน แต่ช่วง มิ.ย.-ก.ค. อาจเจอภาวะ "ฝนทิ้งช่วง"
น.ส.ชมภารี กล่าวถึง ปรากฏการณ์ “ลานีญา” ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ทำให้ประเทศไทยมีฝนมากกว่าค่าปกติ แต่สำหรับฝนตกในช่วงนี้ มีสาเหตุมาจากลมมรสุม ที่พัดผ่านเข้ามาประเทศไทย ซึ่งคาดว่าในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ก็จะมีปริมาณฝนใกล้เคียงกับค่าปกติ
เมื่อถามว่า ปีนี้เราจะเจอพายุประมาณกี่ลูก อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ในเบื้องต้น มีการคาดการณ์ไว้ว่า จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าประเทศไทยประมาณ 2 ลูก โดยมีแนวโน้มว่าจะพัดผ่านมาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ประมาณช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
เมื่อถามว่า ล่าสุดมีรายงานว่า ว่าอาจจะเจอภาวะภัยแล้ง หรือ ฝนทิ้งช่วง น.ส.ชมภารี อธิบายว่า เบื้องต้นมีรับรายงานดังกล่าว ว่าอาจจะเกิดปรากฏการณ์ ภาวะ “เอนโซ่” (ENSO) โดยปรากฏการณ์ “ลานีญา” จะต่อเนื่องไปถึงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม จากนั้นจะมีโอกาสเกิดภาวะ “ลานีญา” ประมาณร้อยละ 50 ระหว่างนั้น ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม อาจจะเกิดภาวะ “ฝนทิ้งช่วง” การกระจายของฝนจะน้อย ซึ่งอาจทำให้การเกษตรเกิดการขาดแคลนน้ำ
“ดังนั้น ในช่วงที่ฝนตกมีน้ำมากในช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน ทางเขื่อนต่างๆ จึงจำเป็นต้องสำรองน้ำเพื่อการเกษตรให้เพียงพอ เพื่อรอในช่วงสิงหาคม-กันยายน ฝนจะกลับมาตกชุกอีกครั้ง”
เบื้องต้น ได้มีการประชุมหารือกับ กรมชลประทาน และ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้มีการประชุมวางแผนรับมือในเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยมีกรมอุตุฯ ไปร่วมประชุม โดยมีการกำหนดมาตรการรองรับเรียบร้อยแล้ว ซึ่งล่าสุด กอนช. ได้เตรียมเรื่องนี้เข้าประชุม ครม. แล้ว
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวทิ้งท้ายว่า ปีนี้ เราจะไม่เจอน้ำท่วมหนักแบบปี 2554 แน่นอน แม้ช่วงต้นปีจนถึงกลางปี จะมีฝนตกชุก หรือ อาจจะมีลมพายุ ซึ่งก็อยากให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวจากกรมอุตุฯ ส่วนกรณี ที่อาจจะเกิด “ฝนทิ้งช่วง” ตอนนี้ ก็ได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนรับมืออยู่แล้ว
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ
...