เหลืออีกไม่กี่วันก็จะผ่านพ้นปีเก่า 2021 ที่มีแต่เรื่องเคราะห์ซ้ำกรรมซัด จากมหันตภัยโควิด-19 ที่ทำร้ายทำลายสุขภาพและชีวิตคนไทยมากมาย แต่สำหรับคนที่ไม่ตาย ก็ต้องทนทุกข์ อยู่อย่างยากแค้น บางคนเลวร้ายขาดรายได้ ตกงาน ต้องกลับถิ่นฐานเพื่อเลียแผล ก่อนจะเริ่มออกมาสู้อีกครั้ง
งานก็คือเงิน เงินก็คืองาน ปีหน้าฟ้าใหม่นี้ ใครๆ ก็ฝันอยากได้งานดีๆ ได้เงินเยอะๆ บ้าง เพราะเหตุนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงพยายามหาลู่ทางมานำเสนอแก่แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ ครั้นจะหวังพึ่งไอเดีย “ลุง” ด้วยการเลี้ยงไก่ 2 ตัว เก็บไข่กิน ก็คงไม่รวย สร้างเนื้อสร้างตัวไม่ได้
5 สายงานรุ่ง ต้อนรับปี 2022 ล้วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
5 สายงานอาชีพดาวรุ่ง 2022
จากการพูดคุยกับ คุณกุ้ง หรือ น.ส.พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นกูรูด้านงานตัวจริง ได้แย้มสายงานแห่งอนาคต ส่วนใหญ่จะเป็นสายไอที เทคโนโลยี ตอบรับการเปลี่ยนแปลงทางโลกดิจิทัล และกระแส Metaverse ประกอบด้วย
1. นักวิเคราะห์ข้อมูล นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Analysts and Science Analysis)
2. นักพัฒนา วิเคราะห์ซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชัน (Software and Application Developers and Analysts)
3. ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI and Machine Learning Specialists)
4. ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation (Digital Transformation Specialists)
5. ผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data (Big Data Specialists)
...
สำหรับเหตุผลที่ 5 สายงานนี้เป็นดาวรุ่งสุดๆ เพราะ สายงานวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysts and Science Analysis) จะเป็นสายทำข้อมูล Big Data เขาจะเอาข้อมูลมาจากทุกช่องทาง แล้วสกรีน ก่อนจะส่งข้อมูลในมุมที่ธุรกิจนำมาใช้งานได้ เช่น เทรนด์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ส่วน นักพัฒนา วิเคราะห์ซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชัน เชื่อว่าบริษัทไหนก็ต้องมีคนมาพัฒนาแอปฯ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ จะสอดคล้องกับกระแส Metaverse และสายงาน Machine Learning เกี่ยวกับ VR หรือ AR ไม่ว่าจะทำ App อะไรก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้
นอกจากนี้ก็จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation สามารถออกแบบการวางแผน กระบวนการทำงานต่างๆ ขององค์กร ให้สอดรับกับเทคโนโลยีได้มากขึ้น และ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data ซึ่งถือว่าเป็นที่ต้องการมาก
กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด บอกด้วยว่า หากพูดถึงสายงานที่เป็นที่ต้องการตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ภาพจะไม่เปลี่ยนหวือหวา เพราะเป็นสายงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี แต่สิ่งที่แตกต่างในอนาคตคือ งานสายเหล่านี้จะกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งแรงงานในตลาดเวลานี้ไม่เพียงพอ คนที่เรียนจบมาก็ไม่ตรงกับสายงานที่ตลาดต้องการเป็นจำนวนที่มากพอ
“การที่จะผลิตคนได้ เด็กนักศึกษาต้องใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 4 ปี กว่าจะจบ แต่ความต้องการมีมากขึ้นทุกๆ ปี เรียกว่า จบยังไงก็ไม่พอ”
10 สายงานที่มีผู้สมัครงาน และเป็นที่ต้องการมากที่สุด
นอกจาก 5 งานข้างต้นแล้ว เฮดใหญ่จาก บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) ยังเผยถึง 10 สายงานที่มีคนสมัครมากที่สุด และ 10 สายงานที่ตลาดต้องการมากที่สุดด้วย ซึ่งทั้ง 10 อันดับมีความคล้ายคลึงกัน (ดูในกราฟิกได้เลย)
(ใส่กราฟิก)
น.ส.พรลัดดา กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกระทบหนักมากจากโควิด โดยมีงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงาน หรือต้องทำงานร่วมกัน อย่างเช่นโรงงาน กระทบหนักมาก ปิดตัวไปก็เยอะ โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่มโรงงาน ร้านอาหาร ท่องเที่ยว โรงแรม ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง นี่คือภาพที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน พ.ศ.2563 ต่อเนื่องมาปี 2564 แต่ช่วงหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น การประกาศรับสมัครก็เริ่มกลับเข้ามา และจากการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม 2564 พบว่า...
คนไทยสมัครงานผ่าน JobsDB ส่วนใหญ่คือ กลุ่มพนักงานขาย และงานดูแลลูกค้า (Sales, CS & Business Devpt) ประมาณ 16.03% รองลงมาก็จะเป็นกลุ่มงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ (Marketing / Public Relations) 11.48%, งานธุรการ และงานทรัพยากรบุคคล 10.50% งานวิศวกรรม (Engineering) 9.85%
...
เมื่อถามว่า งานที่คนสมัครส่วนใหญ่สอดคล้องกับความต้องการหรือไม่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า อันดับ 1 ถือว่าสอดคล้อง เพราะไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร หากมีการขยายตัว บริษัททุกแห่งจำเป็นต้องหาพนักงานขาย เพราะถือเป็นภาพเดียวกันกับตลาด
“แม้ว่าตลาดในปัจจุบันจะมุ่งไปที่การขายออนไลน์ แต่คนขายก็ยังจำเป็นอยู่ เพราะออนไลน์ก็คือแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น ถึงเวลาก็จำเป็นต้องใช้คน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิม คือ ทักษะในการขาย ส่วนจะเปลี่ยนไปทิศทางไหน ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจและช่องทางการขาย ถ้าเราเดินหน้า E-commerce แน่นอนทักษะต้องเปลี่ยน”
อาชีพดาวร่วง และการมาของ Metaverse อาจ disrupt อุตสาหกรรมยักษ์
หลังจากที่อ่านมาทั้งหมด คือ อาชีพแห่งอนาคตที่เป็น “ดาวรุ่ง” ก็ย่อมมี “ดาวร่วง” ซึ่งทาง JobsDB ระบุว่ามี 5 อาชีพ อันได้แก่
1. นักข่าว : เวลานี้เรียกว่าใครก็เป็นสื่อได้ และเวลานี้สื่อดั้งเดิมก็ปรับตัวมาออนไลน์มากขึ้น
2. พนักงานต้อนรับบนสายการบิน : เพราะได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างเห็นได้ชัด
3. ร้านอาหาร : ส่วนหนึ่งมาจากโควิด ซึ่งหลายๆ ร้านก็มีการปรับตัว บางร้านแทบไม่ต้องมีหน้าร้านเลย
4. แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม : เนื่องจากโรงงานสามารถใช้หุ่นยนต์เครื่องจักรมาใช้ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการลดต้นทุน ไม่ต้องจ้างคน ไม่มีปัญหาเรื่องขาดลามาสาย
5. ธนาคาร : ปัจจุบันธนาคารลดสาขามากมาย เพราะมีแอปฯ และเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
“สำหรับสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่ต้องจับตาในอนาคตอันใกล้ เพราะการมาของ Metaverse ที่อาจจะส่งผลต่อการทำงานในอนาคต หรืออาจจะกระทบกับอุตสาหกรรมใหญ่บางอาชีพ”
...
น.ส.พรลัดดา ได้ยกตัวอย่างว่า Metaverse เข้ามาก็มีธนาคารแห่งหนึ่งในเกาหลีเริ่มเปิดสาขาที่ Metaverse แล้ว นั่นหมายความว่า ประสบการณ์ของลูกค้าจะเหมือนเดิม หรือคล้ายเดิม ซึ่งปัจจุบันนี้อาจจะแค่ลดสาขา แต่อนาคตอาจจะปิดไปเลยก็ได้ เพราะ Metaverse ทำอะไรได้มากขึ้นจริงๆ และอาจจะ disrupt หลายๆ อุตสาหกรรม เช่น ธนาคาร เพราะเราจะมีความต้องการไปธนาคารน้อยลง ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงที่สุด โดยเฉพาะการมาของ block chain
“มีคนพูดว่า แบงก์ไม่มีความสำคัญเลยในระบบเศรษฐกิจ แต่ที่มีความสำคัญคือ ระบบการธนาคาร ต่างหาก หมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องมีธนาคาร ขอแค่มีระบบการทำธุรกรรมทางการเงินก็อยู่ได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ธนาคารหลายๆ แห่ง จึงพยายาม disrupt ตัวเอง โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย”
...
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายธุรกิจที่อาจจะตกอยู่ในความเสี่ยง หาก Metaverse เข้ามา ได้แก่ โรงภาพยนตร์ การโรงแรมและท่องเที่ยว และธุรกิจค้าปลีก
ทักษะแห่งอนาคตที่ต้อง Upskill และ Reskill และขาดไม่ได้
สำหรับทักษะที่ควรเรียนรู้เพิ่มเติม และขาดไม่ได้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด สรุปไว้ดังนี้
1. "ทักษะด้านเทคโนโลยี" นี่คือสิ่งที่พูดมาตลอด สำหรับในต่างประเทศเขาพูดเรื่อง Metaverse แล้ว บอกเลยว่าเราหลีกเลี่ยงเทคโนโลยีไม่ได้ หากเราเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องศึกษาเพิ่มขึ้น หากใครที่ชอบเรื่องงาน Data ก็ต้องไปเรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์ Data อะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับ Data เพื่อ Upskill ตัวเองขึ้นมา หรือใครเก่งเรื่อง marketing ก็ควรไปเรียน Digital marketing
2. ทักษะด้านภาษา ใครพูดได้มากกว่า 1 ภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ก็จะได้เปรียบ ถึงแม้ใครที่เก่งในงานมาก แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องภาษา ก็จะขึ้นได้ยาก แต่ถ้ายังทำงานในองค์กรไทยก็อาจจะไม่เป็นปัญหา
3. ทักษะด้านการเป็นผู้นำ ทั้งการเป็นผู้นำ ความคิดสร้างสรรค์ หรือแม้แต่การสื่อสาร
4. ทักษะด้านการปรับตัว จะเห็นชัดมากช่วงเกิดโควิด-19 เราต้องรู้จักปรับตัวให้ได้ถึงจะอยู่รอด
สัมภาษณ์ – ผู้เขียน : อาสาม
กราฟิก : Varanya Phae-araya
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ