1 พฤศจิกายน 2564 ถือว่าเริ่มคิกออฟเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งล่าสุดมีรายงานตั้งแต่ 1-5 พ.ย.นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยนับหมื่นคน ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศประกาศรายชื่อประเทศและพื้นที่เพิ่มเติมที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล สถานะ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2564 มีทั้งสิ้น 63 ประเทศ
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ แน่นอน อันดับ 1 ก็ต้องยกให้ วัดพระแก้ว แต่ถ้ารองลงมาเชื่อว่าน่าจะมีย่านประตูน้ำ โดยเฉพาะ “พระพรหมเอราวัณ” เทพศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ไต้หวัน ฮ่องกง นิยมมาสักการะ และไม่พลาดที่จะขอพร และแก้บนด้วยการจ้าง “นางรำ” แก้บน
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้ลงพื้นที่ “ประตูน้ำ” และมีโอกาสได้พูดคุยกับ นางรำ ที่ “ศาลพระพรหมเอราวัณ”
น.ส.อรอิน สุดสาคร หนึ่งในนางรำ คณะละครจงกล เปิดเผยว่า ทำงานที่นี่มา 10 ปีแล้ว ช่วงก่อนโควิด รำเยอะมาก วันหนึ่งหลายร้อยรอบ (รอบละ 2 นาที) ซึ่งแต่ละรอบก็จะมีค่าแรงแบ่งให้ นอกจากนี้เราก็ได้เงินเดือนด้วย ซึ่ง 1 สัปดาห์ เราทำงาน 3 วัน
...
“ส่วนตัวอรเองไม่ได้เรียนจบคณะนาฏศิลป์ แต่ก็มีพี่ๆ ในคณะหลายคนจบด้านนี้โดยตรง เราเองตอนแรกไม่ได้สนใจจะเป็นนางรำ แต่เข้ามาสมัครกับเพื่อน แต่พอได้รำ ได้เรียนรู้ และเริ่มคล่อง จึงเข้ามาทำเป็นอาชีพ”
ช่วงนี้ยอมรับว่ามีการจ้างรำแก้บนน้อยลงไปเยอะ ช่วงที่ต่างชาติเข้ามา ส่วนมากก็จะเป็นชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย หรือ อินโดนีเซีย เข้ามาเพื่อจ้างรำแก้บนเยอะ ส่วนเวลานี้ก็จะเป็นคนไทย เพราะไม่มีต่างชาติเลย แต่ยังดีคือ ช่วงโควิดที่มีการปิด หรือ ล็อกดาวน์ ยังมีการจ้างเป็นออนไลน์ โดยมีการวิดีโอคอลให้ต่างชาติได้ดู ผ่านเอเย่นต์ต่างๆ แต่ก็ยังไม่เท่าตอนสถานการณ์ปกติ เรียกว่าหายไปราว 70%
ส่วนตัวเรานับถือท่านนะ เคยขอพรท่าน และรำให้ท่าน แต่ก็ไม่ถึงกับบนบานศาลกล่าวและแก้บนด้วยการรำ”
ด้าน น.ส.กษมา วรเมจกานนท์ นางรำแก้บนที่ศาลพระพรหมเอราวัณมา 18 ปี เล่าว่า เธอผ่านเรื่องราวมามากมาย ทุกเหตุการณ์ ทั้งระเบิด ม็อบ แต่โควิด-19 เป็นอะไรที่วิกฤติที่สุดในชีวิต
“ตอนมีม็อบ เรายังมาทำงานได้ ตอนระเบิดก็มีผลกระทบไม่กี่วัน แต่ก็เฉียดตาย แต่โควิดนี่เป็นอะไรที่หนัก รายได้หายไปประมาณ 70% เลย ส่วนหนึ่งเพราะเราไม่ใช่พนักงานประจำ ของเราจะเข้าเวรรายวัน เพราะอายุมากแล้ว อายุ 38 ปีแล้ว แม้จะปิดประเทศในช่วงที่ผ่านมา ก็ยังดีที่มีการรำแก้บนถวายออนไลน์บ้าง ซึ่งไกด์เขาก็พยายามหารายได้จากตรงนี้เหมือนกัน เราเองก็ได้มาด้วย”
นางรำแก้บนที่ทำงานมาเกือบ 2 ทศวรรษ เผยว่า ช่วงที่คลายล็อกดาวน์ก็เริ่มกลับมาดีขึ้นหน่อย แต่ก็ยังไม่เหมือนเดิม พอมีรายได้เข้ามาบ้าง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40-50 รอบต่อวัน แต่เดี๋ยวนี้แตกต่างจากเดิมคือ เมื่อก่อนเข้าวันเว้นวัน เพราะเข้างานวันละ 2 คณะ แต่เดี๋ยวนี้เข้า 1 วัน วันละ 1 คณะ เรียกว่าทำ 1 วัน หยุด 3 วัน ตั้งแต่ 08.00-19.00 น. แต่รายได้ไม่เหมือนเดิม
...
เปิดประเทศ ความหวังที่มาพร้อมความกลัว
เมื่อถามว่า รู้สึกยังไงเวลานี้เริ่มเปิดประเทศแล้ว น.ส.กษมา ตอบว่า “หนูก็กลัวนะ คาดหวังว่าจะดีด้วย แต่ก็รู้สึกกลัวด้วย ครอบครัวเรามี ไวรัสก็มีหลายสายพันธุ์ เปิดประเทศก็ต้องยอมรับ และป้องกันให้ดีที่สุด และมีการตรวจโควิด-19 ทุกสัปดาห์
“เราก็คงรำได้อีกไม่นานเท่าไร เพราะการเป็นนางรำ หากอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป เขาก็จะพิจารณา เวลานี้หนูเองก็ 38 ปีแล้ว เพราะเป็นนางรำต้องสวย สุขภาพร่างกายต้องดี” น.ส.กษมา กล่าว
ขณะที่ น.ส.อรอิน เผยว่า ส่วนตัวยังรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไรกับการเปิดประเทศ ณ เวลานี้ เพราะบางคนยังได้วัคซีนไม่ครบ มีข่าวสายพันธุ์ใหม่จะมาอีก เราก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ
“ถ้าเปิดประเทศแล้วคุมอยู่ ก็โอเค เพราะประเทศจะเดินหน้าไปได้ และเราคงต้องอยู่กับมันให้ได้” น.ส.อรอิน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับอัตราค่าจ้างนางรำ จะอยู่ในอัตรา 2 คน ราคา 260 บาท จำนวน 4 คน ราคา 360 บาท จำนวน 6 คน ราคา 610 บาท และ 8 คน ในราคา 710 บาท.
...
ผู้เขียน : อาสาม
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ