เป็นที่รับรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย มีทีมฟุตบอลสุดโปรด นาม ทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (Newcastle United) เพราะเกิดและเติบโตที่เมืองนี้ จึงทำให้มีความผูกพันและรักมากๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับทีมสาลิกาดง กับการมาของแหล่งทุนใหญ่ Public Investment Fund หรือ PIF กองทุนเพื่อความมั่งคั่งของซาอุดีอาระเบีย ภายใต้การดูแลของมกุฎราชกุมาร "โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน" แห่งซาอุดีอาระเบีย
ในฐานะที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เป็นสาวก "ทูนอาร์มี" ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงไม่พลาดที่จะขอสัมภาษณ์ ออกความเห็นในการเปลี่ยนแปลงทีมรักที่จะเกิดขึ้น
นายอภิสิทธิ์ หัวเราะอย่างเป็นกันเอง เมื่อรู้ว่าเราจะถามเรื่องทีมนิวคาสเซิล ก่อนจะเข้าหมวดวิเคราะห์บอลจริงจังว่า เราทราบว่าเจ้าของใหม่ (โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน) ได้พูดถึงการลงทุนกับทีมในทุกด้าน มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี เพราะเจ้าของเก่า (ไมค์ แอชลีย์) ดูจะละเลยในเรื่องเหล่านี้ เช่น การลงทุนกับทีมเยาวชน ทีมผู้หญิง และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นการลงทุนในระยาว เพราะสโมสรติดหล่มมานานมากแล้ว
...
การเสริมทีมไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไร...? นี่คือสิ่งที่นายอภิสิทธิ์มอง โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้าน
ความยากเรื่องแรก...อยู่รอดให้ได้ก่อน
เวลานี้ (27 ต.ค.) นิวคาสเซิล อยู่รองบ๊วย อันดับที่ 19 ทูนอาร์มี อย่างนายอภิสิทธิ์ จึงมองว่า การอยู่รอดในที่นี้คือ เราต้องรอผู้เล่นใหม่ ซึ่งจะเข้ามาเร็วที่สุดในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงซื้อขายนักเตะ
ดังนั้นตัวเลือกโค้ชที่จะเข้ามาแทน สตีฟ บรูซ อดีตโค้ช (การเปลี่ยนโค้ชที่แฟนๆ ทุกคนเห็นด้วย นี่ไม่ได้หมายถึงแมนยูฯ อันนี้ผู้เขียนแอบแซว) ต้องเป็นโค้ชที่เข้ามาทำงานกับนักเตะชุดเดิมได้ เพื่อประคับประคองสถานการณ์ไปจนถึงเดือนมกราคมได้
ความยากที่สอง...เลือกนักเตะใช้งานระยะยาว
การซื้อขายในเดือนมกราคม ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงซื้อขายนักเตะที่คึกคัก เมื่อเทียบกับช่วงการซื้อขายนักเตะในช่วงหน้าร้อน ฉะนั้น สิ่งที่นิวคาสเซิล น่าจะทำคือการคัดสรรนักเตะเข้ามาเพื่อใช้งานในระยะยาว ซึ่งถ้าเป็นนักเตะแถวหน้า ก็อาจจะติดต่อยาก ซึ่งไม่รู้จะได้ไหม หรือได้นักเตะคนใด
ความยากที่สาม... Finance Fair Play
ดูเหมือนทีมอื่นๆ รวมหัวพยายามสกัดกั้น โดยเฉพาะประเด็น Finance Fair Play (การใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะ) ซึ่งที่ผ่านมา มีการบังคับใช้แบบจริงจังบ้าง ไม่จริงจังบ้าง แต่อาจจะมีจริงจังกับทีมนิวคาสเซิล (นายอภิสิทธิ์ พูดไปขำไป) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองคืออุปสรรค
โค้ชคนใหม่ที่หมายตา
ชื่อแรกที่ ทูนอาร์มี นาม อภิสิทธิ์ คิดและพูดขึ้นคือ “ผมอยากได้ “คอนเต” (อันโตนิโอ คอนเต) จากที่ดูผลงานการคุมทีมของเขา สไตล์การเล่น บุคลิกลักษณะเหมาะกับนิวคาสเซิลดีครับ” (หัวเราะ)
“ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในลิสต์รายชื่อตัวเต็งแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครจะมาเป็น ซึ่งติดตามข่าวก็เปลี่ยนไปรายวัน บ้างก็เป็น เปาโล ฟอนเซกา อดีตกุนซือปอร์โต ซึ่งการที่กุนซือใหม่เข้ามาคุมทีม เราต้องพิจารณาว่า เขาจะคุ้นเคยกับพรีเมียร์ลีกแค่ไหน เพราะการเล่นพรีเมียร์ฯ ต้องปรับตัว
ส่วนนักเตะที่อยากได้.. อดีตนายกฯ อุทานทันที “โอโห...เราก็อยากได้นักเตะเด่นๆ ระดับโลก แต่มันก็ไม่ง่าย เพราะส่วนใหญ่จะอยู่กับทีมยักษ์ เช่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG)
แต่เราก็เป็นเศรษฐีแล้วนะ... ทีมข่าวฯ แหย่ถาม พี่มาร์คหัวเราะ ก่อนตอบว่า ทุกอย่างมันเพิ่งเริ่ม คงจะค่อยๆ กระเตื้อง ต้องปูพื้นฐานของความสำเร็จก่อน จากนั้นผู้เล่นหลักๆ ถึงจะเข้ามาอยู่ได้
...
หากมีการถ่ายเลือดจริง นักเตะคนไหนจะยังอยู่รอด นายอภิสิทธิ์ มองว่าผู้เล่นปัจจุบันก็ถือว่าใช้ได้หลายคน อย่างเช่น “แม็กซิแม็ง” (Allan Saint-Maximin) ถ้ามีโค้ชที่ให้เขาเล่นเป็นทีมได้มากขึ้น หรือ แคลลัม วิลสัน (Callum Wilson) ส่วนที่ต้องเสริมจริงๆ คือ กองหลัง ซึ่งเก่งๆ ส่วนมากจะอยู่กับทีมใหญ่
ขนาดแมนยูฯ ยังร่อแร่... นายอภิสิทธิ์ ยิ้มก่อนตอบว่า ผีแดงตอนนี้อยู่ช่วงคนไม่มั่นใจโค้ช...
ตั้งแต่แต่งแยกทางกับ “สตีฟ บรูซ” นิวคาสเซิล ก็พยายามเปลี่ยนแนวทางการเล่น หันมาเล่น counter attack มากขึ้น อาศัยความสามารถเฉพาะตัวจาก แม็กซิแม็ง กับ อัลมิรอน มากขึ้นแต่ก็ไม่รัดกุม
“เราอยากให้กลับมาเป็นบอลที่สนุก เป็นระบบที่ทันสมัยกว่า เล่นแต่ลูกโยนยาว ส่วนอนาคตจะปรับมาเล่นสูตรไหน (เช่น 4-4-2 หรือ 4-2-3-1) เรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับโค้ชใหม่ที่จะเข้ามา”
รักมั่นคง(ทน) ไม่เปลี่ยนใจ
ในช่วงท้าย นายอภิสิทธิ์ เล่าถึงความรักและความผูกพันกับทีมนิวคาสเซิลว่า “ผมเกิดที่นู่น และเชียร์นิวคาสเซิลมาตั้งแต่จำความได้ แม้ในขณะนั้น จะเป็นทีมที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แข่งกับทีมไหนไม่ค่อยชนะ ไม่ว่าจะเป็นบอลถ้วย หรือ บอลลีก แต่นิวคาสเซิล ก็คือทีมที่เล่นฟุตบอลแล้วดูสนุก โดยเฉพาะมีกองหน้าตัวดังๆ ไล่มาตั้งแต่ มัลคอล์ม แมคโดนัลด์ หรือนักเตะที่แจ้งเกิดมาจากนิวคาสเซิล เช่น พอล แกสคอยน์ อลัน เชียร์เรอร์ หรือแม้แต่ช่วงที่เควิน คีแกน เข้ามาคุมทีม มันเริ่มจะมาพังตอนที่ ไมค์ แอชลีย์ เข้ามานี่แหละ
นอกจากจะไม่ประสบความสำเร็จ ตกชั้นไป 2 รอบ แถมสไตล์การเล่นก็ไม่สนุก ผู้เล่นที่ทำท่าจะมีแววก็ดันเอาไปขายเพื่อเอากำไร เรียกว่ามองในมุมธุรกิจเป็นหลัก และก็ดูเหมือนไม่เข้าใจแฟนๆ บอล เช่น จะไปเปลี่ยนชื่อสนามจาก เซนต์เจมส์พาร์ก (St James' Park) เป็นอย่างอื่น เขาถือเป็นคนที่สร้างเรื่องราวมาโดยตลอด
...
“ผมอยากเห็นการเปลี่ยนเจ้าของ การเปลี่ยนแปลงของโค้ช ที่ผ่านมา เราเจอโค้ชหลายคน ที่มาคุมแล้วรู้สึกว่าไม่มีความทะเยอทะยาน แค่เอาตัวรอด เช่น สตีฟ บรูซ (อดีตโค้ชที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง), แซม อัลลาไดซ์ (2007) แกรม ซูเนส (2004)”
และเมื่อถามว่านักเตะในดวงใจคือใคร นายอภิสิทธิ์ ยิ้มพร้อมตอบว่า แน่นอน “อลัน เชียร์เรอร์” นอกจากจะเป็นผู้ยิงประตูสูงสุดแล้ว แฟนๆ นิวคาสเซิล ทุกคนยังประทับใจ ตอนที่เขาตัดสินใจกลับมาอยู่ นิวคาสเซิล จนกระทั่งแขวนสตั๊ด รวมทั้งการปฏิเสธข้อเสนอของแมนยูฯ
ถึงวันนี้รักน้อยลงไหม...นายอภิสิทธิ์ ตอบพรางหัวเราะ “รักมั่นคงอยู่แล้วครับ ฮ่าๆ” (หัวเราะ) เพราะทนกับหลายสิ่งหลายอย่างได้แล้ว
ไปเชียร์ นิวคาสเซิล ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์ อุทาน โอโห นานมาแล้วครับ ครั้งสุดท้ายที่เข้าสนามครั้งสุดท้าย ตอนนั้นยังเรียนหนังสืออยู่ แม้กระทั่งช่วงที่ทำงานการเมืองก็ไม่มีโอกาสกลับไปดูเลย
เมื่อถามว่า เคยไปดูฟุตบอลกับ "บอริส จอห์นสัน" นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อดีตเพื่อนร่วมชั้น วิทยาลัยอีตัน (Eton College) หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ บอกว่าไม่เคย และทราบว่าท่านเป็นแฟน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
...
ในช่วงท้าย ทีมข่าวได้ถามประเด็นการเมืองสักเล็กน้อย โดยเฉพาะการลงผู้ว่าฯ กทม. และ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ ตอบสั้นๆ เพียงว่า ไม่สนใจลงผู้ว่าแน่นอนครับ และเมื่อถามว่า อนาคตกับประชาธิปัตย์ เป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เป็นสมาชิกพรรคอยู่ ยังไม่มีแผนการอะไร
และเมื่อถามว่า มองประชาธิปัตย์ ในวันนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ นิ่งไปสักครู่ก่อนตอบว่า “ยังไม่ขอพูดดีกว่าครับ” (หัวเราะเล็กน้อยทิ้งท้าย..)
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน