สกู๊ปซีรีส์ สงครามสตรีมมิง เดินทางมาถึงตอนที่ 3 แล้ว ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เดินหน้าสัมภาษณ์ผู้บริหารหลายค่าย และวันนี้ คือคิวของ “TrueID”
ดร.ต่อบุญ พ่วงมหา กรรมการผู้จัดการ ทรู ดิจิตอล แอนด์ มีเดีย แพลตฟอร์ม และ ออนไลน์ สเตชั่น และ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เผยแผนกลยุทธ์ ของ TrueID ว่า เราเริ่มจากการเป็นเทเลคอม จะสู้กันในการสร้างฐานลูกค้าใหญ่ แต่เมื่อสู้กันจนถึงจุดหนึ่ง โดยมีคุณภาพที่สูงแล้ว ก้าวต่อไปจะเอายังไงต่อสุดท้ายอะไรจะเข้าไปออนท็อปของเรื่องนั้น คือ หนีไม่พ้นเรื่องดิจิทัลมีเดียคอนเทนต์ เหตุผลที่วางโครงสร้างเรื่องนี้ เราต้องการที่จะเมกชัวร์วางโครงสร้างโมบาย อินเทอร์เน็ต จะต้องมีคอนเทนต์ดี มาเสิร์ฟ On Top ซึ่งจริงๆ คือวิสัยทัศน์ของทรูอยู่แล้ว คือ Convergence
บอสใหญ่ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป กล่าวว่า ถามว่าเราเป็นคนแรกๆ ที่ทำคอนเทนต์นี้หรือเปล่า เราคือคนแรกๆ ที่รวมคอนเทนต์ เราเสนอ ไลฟ์แชนแนล เราอยู่ในกลุ่มกับทรูวิชั่นส์ มีกว่า 160 ช่องกีฬาเราจะแข็งมาก ทั้งฟรี ทั้งจ่าย แต่บางคน ก็ไม่อยากมานั่งปวดหัว เรามีบุฟเฟต์ไปเลย เดือนละ 59 บาท ซึ่งอาจจะมีการพูดต่อไปว่า จับมือกับทรูวิชั่นส์เหลือ 49 บาท
ทั้งนี้ นายต่อบุญ ยังพูดถึงโมเดลหนังเช่าว่า คอนเทนต์เช่า ก็คล้ายแอปเปิล ที่เขาให้เช่าเป็นเรื่องๆ ได้ การเช่าหนังส่วนใหญ่เป็นวินโดว์ที่เพิ่งออกจากโรง เป็นรูปแบบสด ใหม่ หนังที่ออกจากโรงไม่นาน หรือ ชนโรง เช่น วันเดอร์วูแมน กำลังฉายในต่างประเทศ เราเอามาฉายพร้อมกันใน OTT เลย เสมือนเราเช่าแล้วดูได้ทั้งครอบครัว ไม่จำเป็นต้องไปโรงหนัง ซึ่งราคาที่ให้เช่า อยู่ที่ 30-100 บาท ซึ่งบิสเนสโมเดลนี้ก็มีบางเจ้าในเมืองไทยที่ทำ แต่ราคาก็ลดหลั่นกันไป
“ถ้าเราทำไลเซนส์ โดยเฉพาะกับค่ายหนังใหญ่ ปกติทำเสร็จจะนำเข้าโรงหนังก่อน ซึ่งเขาก็จะเก็บค่าตั๋ว แต่ช่วงหลังเขาคงเจอภาวะกดดันหลายอย่าง ซึ่งจะรอเข้าโรงอย่างเดียวอาจจะไม่คุ้ม เขาจึงเอามาใช้ทำโมเดลธุรกิจต่อ โดยใช้คอนเซปต์ว่า “ดูที่โรงไม่ได้ ก็กลับมาดูที่บ้านต่อ”
...
เมื่อถามว่าคุ้มหรือไม่ นี่คือ business model ที่เราคุยกับผู้ให้บริการต่างประเทศ เราจะมาดูที่ราคาชาร์จว่าลูกค้าพอจ่ายได้ และได้กลับมาในจุดที่คุ้มทุน
“โชคดีที่กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจ...และไม่ได้ขาดทุน สำหรับลูกค้าเช่า”
สำหรับคู่แข่งที่แท้จริง ในศึกนี้ คุณต่อบุญ เผยว่า ถ้ามองเป็น subscription โมเดล คู่แข่งโดยตรงจริงๆ ก็หนีไม่พ้น เน็ตฟลิกซ์ อ้ายฉีอี้ ดิสนีย์พลัส WeTV แต่ถ้ามอง streaming ก็น่าจะชนกันกับเทลโก อีกแบรนด์ หรืออีกสีหนึ่ง เพราะธุรกิจของเขาจะไปตรงกับเรา คือ Box
“ปัจจุบันเรากระจายกล่องไปได้เยอะ มากกว่า 2 ล้าน ถามว่าเป็นรายได้ที่ใหญ่ไหม...ก็ใหญ่อยู่ เมื่อเทียบกับตัว Sub ในปัจจุบัน แต่ในระยะยาว และได้คุยกับค่ายอื่นจะเห็นการเติบโต 10-20% ซึ่งเวลานี้ มีคนจ่ายเงิน 1-2 ล้านคน ซึ่งความเป็นจริงประชากรคนไทยมี 60-70 ล้านคน น่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีการเติบโตได้ภายใน 5 ปีข้างหน้า แต่ ณ เวลานี้ รายได้จาก Box ยังสูงกว่า Sub”
Air Time & Fan sub
เมื่อถามว่า เวลานี้มีคนจ่ายเงินเพื่อดูสำหรับ TrueID มากน้อยขนาดไหน ดร.ต่อบุญ ระบุว่าไม่สามารถให้ตัวเลขเป๊ะๆ ได้ แต่มีอยู่หลักแสนคน
“ช่วงวันธรรมดา คนดูอาจจะน้อยหน่อย แต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะเข้ามาดูมากกว่าปกติ แต่ถ้าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3-4 ชั่วโมง/วัน/คน ทั้งนี้ เรามี Box เขาก็เปิดดูฟรีทีวี ช่วงไหนอยากดูหนังสักเรื่อง ก็เข้ามาดู TrueID+ ด้วยแพลตฟอร์มหลายคอนเทนต์ที่อยู่ในแพลตฟอร์ม ทำให้เอ็นจอยในไลบรารีทางต่างกัน”
กลยุทธ์ “ออริจินัลคอนเทนต์”
สำหรับ “ออริจินัลคอนเทนต์” ก็คือจุดขายหนึ่ง ดร.ต่อบุญ กล่าวว่า ตอนนี้เราจับมือกับเกาหลี เราสร้างออริจินัลคอนเทนต์มากกว่า 20 เรื่อง และจะมีเพิ่มขึ้นมา นำคอนเทนต์เกาหลีมารีเมกเป็นของไทย นอกจากนี้เรามีโปรดักชันเฮาส์ สร้างหลายซีรีส์ มีพันธมิตร ที่อยู่ในเมืองไทยช่วยสร้างบางส่วน กลยุทธ์การได้มา เรามีทั้ง 3 ทาง
การบริหารออริจินัลคอนเทนต์ให้สำเร็จ เราจะต้องทำยังไงก็ได้ให้ผ่านไปทุกช่องทาง และวางจัดวินโดว์ให้เหมาะสม การสร้างออริจินัลคอนเทนต์จะช่วยให้เราบริหารสิทธิ์ได้ง่าย
ยกตัวอย่าง เรากำลังจะทดลอง เช่น I need romance วินโดว์แรกที่ทรูไอดี ระหว่างนั้น ก็อาจจะมีตัดบางส่วนไปปล่อยฟรีทีวี จากนั้นก็เข้าไปอยู่ใน Pay TV โดยจะบริหารหลายช่องทางค่อนข้างครบ โดยมีช้าเร็วต่างกันนิดหน่อย
...
70 พันธมิตร และกลยุทธ์ชนะคู่แข่ง
สำหรับแผนที่จะเอาชนะคู่แข่งได้ ผู้บริหารของ TrueID เชื่อว่า อยู่ที่ความเข้าใจลูกค้า ซึ่งไม่ว่าหนังหรือซีรีส์ที่เราเอาเข้ามา ออรินัลและเอ็กซ์คลูซีฟ หาความต่าง คอนเทนต์ดีๆ ที่ลูกค้าอยากได้ ยุทธศาสตร์นี้อาจจะฟังดูแล้วพูดง่าย เพราะทุกคนก็พูด แต่คงต้องรอดูยาวๆ
“ส่วนหนึ่งเพราะเราค่อนข้างครบ วันนี้เราทำงานกับพาร์ตเนอร์มากกว่า 70 เจ้า รวมกับเครือข่ายทรูวิชั่นส์ในกลุ่ม รวมถึงพาร์ตเนอร์เกาหลี จีน อเมริกา 70 กว่าที่ทำให้เราเข้าถึงคอนเทนต์ดีๆ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่เราสร้างกันมา เราจะเข้าใจว่าใครทำคอนเทนต์ได้ดี จุดต่างคือเราอยู่ทรูวิชั่นส์มานาน เรามีความเข้าใจคอนเทนต์ เราเลือกมันได้ตามความต้องการของลูกค้า จุดสำคัญที่สุดในการเลือก คือ เราเป็นคนไทย การเลือกของคนไทย ย่อมเลือกได้ดี” ดร.ต่อบุญ กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์รายงาน
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ
...