เปิดผลสำรวจผู้โดยสารรถเมล์ในพื้นที่ กทม. หลังปฏิรูป 269 เส้นทาง พบปัญหาหนักสุดคือ รอนาน – ค่าโดยสารแพง – สับสนเลขสาย พร้อมเสนอทางออก อัปเดตข้อมูลเดินทางในพื้นที่ให้เข้าใจง่าย เชื่อมต่อขนส่งทั้งระบบเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการต่อรถ
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้สำรวจความพึงพอใจของผู้โดยสารหลังการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ โดยเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 11 - 31 ต.ค. 67 จากกรณีกรมการขนส่งทางบกประกาศใช้แผนปฏิรูปสายรถเมล์ใน กทม. ปี 2567 โดยปรับโครงสร้างเส้นทางรถเมล์จำนวน 269 เส้นทาง มีบริษัทเอกชนได้รับสิทธิในการให้บริการเส้นทางเดินรถจำนวน 162 เส้นทาง และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้รับสิทธิในการให้บริการเส้นทางเดินรถจำนวน 107 เส้นทาง
จากผลการสำรวจ พบว่า
- รอนานขึ้น 75.6%
- ค่าใช้จ่ายเพิ่ม 66%
- สับสนเลขสาย 60.7%
- ขึ้นหลายต่อ 54.7%
- เดินทางนานขึ้น 48.4%
...
- ไม่มีสายเคยขึ้น 39.6%
- ไม่มีข้อมูลเดินทาง 30.6%
- ขึ้นผิด ลงกลางทาง 19.9%
- ใช้สวัสดิการรัฐไม่ได้ 13.9%
- ใช้บัตรสูงอายุไม่ได้ 10%
- ไม่มีป้ายรถขึ้น-ลง 9.1%
ข้อเสนอปรับปรุงของผู้บริโภค
ผู้บริโภคมีข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. ปรับปรุงและอัปเดตข้อมูลการเดินทางอย่างทันท่วงที ข้อมูลบนป้ายรถเมล์ควรมีการอัปเดตข้อมูลเส้นทางใหม่ให้ชัดเจน เช่น หมายเลขสาย จุดที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน เช่น BTS MRT และเรือ โดยการใช้ป้ายที่มีการออกแบบที่ชัดเจน พร้อมแผนที่เส้นทางที่เข้าใจง่าย สามารถเข้าถึงได้จากระยะไกล QR Code หรือรหัสที่สามารถสแกนได้ ตามสถานีรถเมล์หรือในรถเมล์
2. พัฒนาแอปพลิเคชันและเทคโนโลยีการเดินทาง พัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถแสดงข้อมูลการเดินทางแบบเรียลไทม์ เช่น เวลารถเมล์ที่จะถึง จุดจอด เส้นทางที่ดีที่สุด และการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ใช้ GPS ติดตามเส้นทางรถเมล์ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถติดตามการมาถึงของรถเมล์ที่ใกล้เคียง และลดปัญหาการขึ้นรถผิด
3. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลอย่างทั่วถึงหลายช่องทาง การใช้สื่อออนไลน์ สื่อดั้งเดิม เช่น วิทยุ โทรทัศน์ และการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในพื้นที่ เช่น ที่สถานีรถเมล์ ร้านค้า หรือศูนย์การค้าต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง และหมายเลขสายใหม่ หรือใช้สื่อในพื้นที่ เพิ่มป้ายประกาศและแผ่นพับที่อธิบายเส้นทางใหม่ และวิธีการเดินทางที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้บริโภคไม่พลาดข้อมูลสำคัญ
4. การพัฒนาและปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างระบบขนส่ง การเชื่อมต่อระหว่างรถเมล์และรถไฟฟ้า ควรมีการวางแผนให้การเชื่อมต่อระหว่างรถเมล์และรถไฟฟ้า หรือระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ทำได้สะดวกและมีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนสาย ข้อมูลการเชื่อมต่อ เพิ่มข้อมูลในแอปพลิเคชัน หรือป้ายรถเมล์ที่บอกจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ เช่น จุดที่ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนจากรถเมล์ไปยังรถไฟฟ้า หรือสถานีขนส่งหลัก
5. การปรับปรุงความเข้าใจเกี่ยวกับบัตรโดยสารและการชำระเงิน บัตรสวัสดิการของรัฐควรมีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้บัตรสวัสดิการของรัฐในระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะกับรถเมล์เอกชนที่อาจไม่รองรับการใช้บัตรนี้ ควรมีช่องทางการชำระเงินที่สะดวกสบาย เช่น การจ่ายผ่านแอปพลิเคชัน หรือการใช้บัตรโดยสารที่สามารถใช้ได้ในทุกระบบขนส่งมวลชน
6. ฝึกอบรมให้ข้อมูลแก่พนักงาน ควรได้รับการฝึกอบรมให้สามารถช่วยผู้บริโภคในกรณีที่มีคำถามเกี่ยวกับเส้นทาง หรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการปรับเส้นทางใหม่ พนักงานรถเมล์ควรมีข้อมูลที่ทันสมัย เพื่อให้คำแนะนำกับผู้โดยสารที่อาจสับสนเกี่ยวกับการเดินทาง เช่น เส้นทางที่ดีที่สุด หรือวิธีการเปลี่ยนสาย
...
7. สำรวจความคิดเห็นจากผู้โดยสาร การรับฟังความคิดเห็น ควรมีช่องทางที่ผู้โดยสารสามารถให้ความคิดเห็น หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปเส้นทาง หรือบริการของรถเมล์ เช่น ผ่านแอปพลิเคชัน หรือแบบสอบถามในสถานีรถเมล์ เพื่อที่จะสามารถปรับปรุงการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น หากมีปัญหาหรือคำร้องเรียนจากผู้โดยสาร ควรมีระบบที่สามารถตอบสนอง และแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว เช่น การปรับเส้นทางที่ได้รับความนิยม หรือการแก้ไขจุดที่มีปัญหาบ่อย
8. ทดลองและทดสอบเส้นทางใหม่ ก่อนจะมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางในระดับใหญ่ ควรมีการทดสอบหรือทดลองเส้นทางใหม่ในบางพื้นที่ เพื่อรับข้อมูลข้อเสนอแนะจากผู้บริโภคจริง และปรับปรุงเส้นทางให้เหมาะสมกับความต้องการ หากการปรับเส้นทางทำให้ผู้บริโภคต้องขึ้นรถหลายต่อ ควรทดสอบการเปลี่ยนแปลงเพื่อดูว่าผู้บริโภคมีความสะดวกหรือไม่ และสามารถปรับเส้นทาง หรือบริการได้ตามข้อเสนอแนะ