"โดนัลด์ ทรัมป์" คว้าชัยอีกครั้ง ก้าวสู่ว่าที่ประธานาธิบดีฯ คนที่ 47 ของสหรัฐฯ ซึ่งบนเส้นทางแห่งชัยชนะ คือการฝ่าด่านคู่ต่อสู้ที่เป็น "สตรี" ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองถึง 2 ครั้ง
ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ปิดหีบลงแล้ว หลังทำการนับคะแนน และดูผลคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) ก็พอจะทำให้โลกพอจะทราบ 'ผลอย่างไม่เป็นทางการ' ว่า ผู้ที่สามารถคว้าเก้าอี้ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ไปครองได้ก็คือ 'โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์' จากพรรคริพับลิกัน อดีตประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา
ผลเลือกตั้งครั้งนี้ส่งผลให้ทรัมป์มีชัยเหนือ 'คามาลา แฮร์ริส' รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 49 ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต แต่กว่าจะถึงวันนี้ผู้ลงสมัครทั้งสองต่างฟาดฟันกันด้วยวิวาทะ และการปราศรัยตามเวทีต่าง ๆ อย่างดุเดือด นอกจากนั้นคะแนนความนิยมของทั้งคู่ก็ยังสูสีกันมาตลอดช่วงเวลาที่หาเสียง
...
ในปี 2024 ด้วยคะแนนผลโพลที่ตีคู่กันมาตลอด การขึ้นสู่ว่าที่ประธานาธิบดีฯ ของชายผู้นี้คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสักเท่าไร แต่ถ้าย้อนกลับไปในสนามเลือกตั้งปี 2016 การที่ทรัมป์สามารถเอาชนะ 'ฮิลลารี คลินตัน' จากพรรคเดโมแครต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา คนที่ 67 ในรัฐบาลประธานาธิบดี 'บารัก โอบามา' มาได้นั้น ก็ทำให้ทั้งโลกช็อกไปตามกัน!
สนามเลือกตั้งครั้งนั้นบรรดากูรูการเมืองระหว่างประเทศ และผลโพลทุกสำนักต่างฟันธงว่า คลินตันจะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ เพราะเธอมีคะแนนหยั่งเสียงนำโด่งมาตลอดช่วงหาเสียง 18 เดือน แม้หลังเลือกตั้ง คลินตันจะมีคะแนนป็อปปูลาร์โหวต เหนือทรัมป์ แต่เธอกลับต้องพ่ายแพ้ให้กับเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง ผลครั้งนั้นจึงเหนือความคาดหมาย และหักปากกาเซียนไปเป็นแถว
มาถึงตรงนี้คุณผู้อ่านอาจจะงงว่า เอ้า! ได้ป็อปปูลาร์โหวตแต่ทำไมถึงแพ้ แล้วคณะผู้เลือกตั้งคืออะไร ทำไมถึงมีผลขนาดนั้น เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราขอแนะนำให้คุณจิ้มลิงก์วิดีโอด้านล่างนี้ แล้วคุณจะเข้าใจระบบการเลือกตั้งที่มีความเฉพาะตัวของอเมริกามากขึ้น
เอาเป็นว่า...เราขอพาคุณผู้อ่านนั่งไทม์แมชชีนย้อนไปดูผลคะแนนเมื่อปี 2016 กันสักนิดดีกว่า!
ผลการนับคะแนนของคลินตัน เธอเริ่มคว้าชัยชนะในรัฐพื้นที่ตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฐานเสียงของเดโมแครต ด้วยคะแนนรวมเบื้องต้นรวม 182 เสียง ส่วนทรัมป์ได้รับชัยชนะจากพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ ฐานที่มั่นของรีพับลิกันรวมเบื้องต้น 180 เสียง
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันเดียวกัน (ตามเวลาประเทศไทย) ผลการนับคะแนนเริ่มเห็นความแตกต่างมากขึ้นเรื่อย ๆ จนนำไปสู่ความปราชัยของนางคลินตัน เนื่องจากคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งในรัฐ 'สวิงสเตท' หรือรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคใดอย่างชัดเจน ตกเป็นของมหาเศรษฐีวัย 70 ปีที่ชื่อ 'โดนัลด์ ทรัมป์' คะแนนเสียงหลั่งไหลหาเขาจนพุ่งเกิน 270 เสียง ส่วนคะแนนของคลินตันหยุดอยู่ที่ 218 เสียงเท่านั้น ถือว่าผิดความคาดหมายของบรรดาสำนักโพล
ชัยชนะของทรัมป์ครั้งนั้น สำนักข่าว CNN และ NBC ของสหรัฐฯ รายงานอ้างการเปิดเผยของทีมหาเสียงเดโมแครตว่า คลินตันได้ต่อสายตรงถึงทรัมป์ และประกาศยอมถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เสมือนเป็นการปิดฉากการเฟ้นหาประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45
...
ณ ตอนนี้ผลอย่างไม่เป็นทางการก็ออกแล้วว่า ทรัมป์คว้าเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียงอีกครั้ง หลังจากนี้ไทยก็ต้องจับตาและเตรียมรับมือ ต่อนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ต่อไป อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
ชมวิดีโอเพิ่มเติม : "ทรัมป์" ชนะเลือกตั้ง จะเกิดอะไรต่อโลกและไทยหลังจากนี้? | Thairath Explainer