8 พลังหญิง ผงาด ครม. "แพทองธาร 1” ถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย จับตาภารกิจผลักดันนโยบายความเท่าเทียมผู้หญิงในสังคมไทย "นักวิชาการ" คาดหวังการเมืองผลัดใบ ลบภาพนอมินีตระกูลการเมือง
หลังโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีใหม่ของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร มีการตั้งข้อสังเกตถึงการเข้ามามีบทบาทของผู้หญิงมากถึง 8 คน ประกอบด้วย
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
...
จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ครม. แพทองธาร ถูกมองตัวแทนนอมินี
"รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช มองบทบาทผู้หญิง ในคณะรัฐมนตรี "แพทองธาร 1” ว่า การที่ผู้หญิงเข้ามาฝ่ายบริหารของคณะรัฐมนตรีของคุณ แพทองธาร ชินวัตร ถือเป็นเทรนด์ทั่วโลก ที่ผู้หญิงเริ่มมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น ที่ผ่านมาบทบาทผู้หญิงทางการเมือง มีการเรียกร้องมานาน
“ที่ผ่านมาสภาผู้แทนราษฎร มีข้อจำกัดเรื่องบทบาทของผู้หญิง โดยจะเห็นว่ามี สส.ผู้ชาย มากกว่าผู้หญิง ซึ่งในรัฐธรรมนูญปี 40 มีการะบุว่า ให้พรรคการเมืองต่างๆ พิจารณาถึงความเสมอภาคและเท่าเทียมในทุกมิติ รวมถึงเพศสภาพ”
แม้หลายคนมองว่า คณะรัฐมนตรีหญิงที่เข้ามาในชุดนี้ยังมาอายุไม่มาก โดยเฉพาะคุณซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกของคุณชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่จริงแล้วที่ผ่านมา คุณซาบีดา ก็ช่วยพ่อทำงานการเมืองมาระยะนึง จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงในการทำงาน
การมีผู้หญิงในคณะรัฐมนตรีมากขึ้น มีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบายเกี่ยวกับผู้หญิงให้มีความเท่าเทียม แต่ประเด็นสำคัญคือ นโยบายเกี่ยวกับผู้หญิงที่ผลักดัน ควรเป็นไปอย่างเท่าเทียม ให้กับผู้หญิงในทุกระดับ ไม่ใช่เป็นไปเพื่อใครเพียงบางกลุ่ม
...
สิ่งน่ากังวลคือ การเมืองแบบคัดออก เพราะ 10 ปีที่ผ่านมา มีการศึกษาพบว่า ตระกูลการเมือง มีผลต่อการตัดสินใจในเชิงนโยบาย ทำให้การเมืองแบบนอมินีเข้ามาแทน เนื่องจากมีการยุบพรรค หรือตัดสิทธิทางการเมืองมากมาย รวมไปถึงการเอาผิดเกี่ยวกับจริยธรรมทางการเมือง ถือเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดวิกฤติทางการเมือง แต่หลายคนมองว่า เป็นคณะรัฐมนตรีแบบเครือญาติ ซึ่งเป็นปลายเหตุ เลยทำให้การเมืองแบบตัวจริงถูกคัดออก