เปิดสถิติ 10 เดือน คดีค้ามนุษย์ เข้าสู่กระบวนการศาล พบ การแสวงหาผลประโยชน์จากค้าประเวณี มากที่สุด 369 คดี ผกก.กก.ดส. เผย น่าห่วง เมื่อเด็กและเยาวชน ถูกล่อลวงจากคำชวนของเพื่อน...
ต้องยอมรับความจริงว่า สมัยนี้คนเรามีการหากินกันแปลกๆ บางคนเลือก “ทำนาบนหลังคน” ด้วยการ ค้ามนุษย์ และ “แสวงหาประโยชน์” ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การล่อลวงหลอกให้ไปเป็นโสเภณี, บังคับใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมาย
จากข้อมูล สำนักงานคดีค้ามนุษย์ พบว่า ในปี 2565 มีการแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณี เป็นปัญหามากที่สุด โดยมีการแจ้งความเป็นคดี 238 คดี รองลงมา คือ การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ (ไม่เกี่ยวกับประมง) 61 คดี และอีก 23 คดี มาจากการเผยแพร่วัตถุจากสื่อลามก ที่เหลือ คือ การแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบอื่น, การเอาคนลงเป็นทาส, ขอทาน, บังคับใช้แรงงานในเรือประมง หรือคล้ายคลึงกับการขูดรีดบุคคล
ในขณะที่ ข้อมูลจาก ส่วนระบบข้อมูลและสถิติ สำนักแผนงานและงบประมาณ ศาลยุติธรรม ณ วันที่ 17 พ.ย.66 พบว่า ความผิด พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ 2551 สู่การพิจารณาสู่การพิจารณาของศาลทั่วราชอาณาจักร มีทั้งสิ้น 502 คดี แบ่งเป็น ดังนี้
1. แสวงหาประโยชน์ค้าประเวณี 369 คดี (ร้อยละ 73.1)
2.เผยแพร่สื่อลามก 47 คดี (ร้อยละ 9.36)
3. แสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น 14 คดี (ร้อยละ 2.79)
4.เอาคนลงเป็นทาส 18 คดี (ร้อยละ 3.59)
5.นำคนมาขอทาน 13 คดี (ร้อยละ 2.59)
6.บังคับใช้แรงงานบริการ 36 คดี (ร้อยละ 7.1) **เกี่ยวกับประมง 3 คดี**
7.ตัดอวัยวะเพื่อการค้า 0 คดี
8.อื่นใด หรือ คล้ายคลึงการขูดรีดบุคคล 5 คดี (ร้อยละ 1)
...
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสพูดคุยกับ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผู้กำกับกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) เผยว่า ในรอบปีที่ผ่านมา มีคดีที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ในการดูแลของ กก.ดส. จะไม่มาก ส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับการนำเด็กมาแสวงหาผลประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่นำมาแสวงหาผลประโยชน์ มักจะเป็นผู้ปกครอง หรือ คนในครอบครัว
อย่างไรก็ดี ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ คือ การไม่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เพราะเห็นว่าเป็นครอบครัวด้วยกัน ฉะนั้น กว่าจะเป็นคดีความ เรื่องราวจึงบานปลายใหญ่โตไปแล้ว หรือ เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนนำเสนอ ดังนั้น การแก้ปัญหาต่างๆ จึงทำได้ยาก
คดีในแต่ละปี ที่เข้ามา กก.ดส. จะมีประมาณ 30-50 คดี ค่าเฉลี่ย คือ เดือนละ 3-4 คดี มากที่สุด คือการค้ามนุษย์ แสวงหาผลประโยชน์ด้วยการนำเด็กไปขอทาน โดยมักจะเป็นเด็ก อายุ 3-10 ขวบ ซึ่งถือว่ารู้เรื่องพอสมควรแล้ว บางคดีมีการทำร้ายร่างกายเด็ก ข่มขู่เด็กให้หาเงิน ซึ่งเท่าที่ศึกษาข้อมูลมักจะมีการกดดันให้เด็ก หาเงินให้ได้อย่างน้อย 400-1,000 บาท หากทำไม่ได้ บางรายถูกทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตี
“ขอทานที่เราพบ ส่วนมากจะเป็นชาวกัมพูชา บางคนเข้ามาทำงานในประเทศไทย มีลูก ก็ไม่เลี้ยงลูก ให้ปู่ย่าเลี้ยง บางครั้ง ก็ไปปล่อยให้ขอทาน โดยมีการวางจุดขอทานตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ชานเมือง เช่น มีนบุรี หนองจอก ลำผักชี มักจะเป็นตะเข็บพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล โดยเฉพาะในพื้นที่ตลาดนัด โรงงาน”
เพื่อนชวนเพื่อน ตั้งตัวเป็นแม่เล้า อายุต่ำสุด 14 ปี
เมื่อถามถึง ปัญหาทางเพศ เกี่ยวกับการค้าประเวณี ที่พบในเด็กและเยาวชน ผู้กำกับศานติ ยอมรับว่า ปัจจุบันโลกมันเปลี่ยนไปเยอะ เด็กที่จะมาค้าประเวณี ส่วนมากจะมีลักษณะ “เพื่อน” ชวน “เพื่อน” บางคนตั้งตัวเป็นแม่เล้า ตั้งสำนักค้าประเวณี โดยใช้เงินทองมาล่อ หรือ เป็นลักษณะในการตั้งกลุ่มไลน์ หาเด็กไปส่ง ส่วนมากก็จะอายุเกิน 18 ปีแล้ว
แต่ก็มีบางรายที่อายุไม่ถึง โดยใช้เรื่อง “เงิน” หรือ “ทรัพย์สิน” ต่างๆ มาล่อใจ อ้างว่ามีรายได้ครั้ง 2,000 -3,000 บาท โดยต้องโอนเงินผ่านแม่เล้า จากนั้นก็เอาเงินมาแบ่งกัน เมื่อตกลงกันผ่านไลน์ ก็พาไปส่งตามสถานที่ต่างๆ เช่น โรงแรมม่านรูด
...
เมื่อถามว่า ที่พบว่ามีการค้าประเวณี อายุต่ำสุด อยู่ช่วงวัยไหน คำตอบของคำถามนี้ คือ อายุ 14-17 ปี โดยจับได้ประมาณ 13-14 เคส
“บางคนน่าสงสาร เป็นเด็ก ถูกล่อลวงมาจริงๆ เพราะความอยากได้เงิน อยากได้โทรศัพท์ อยากได้เงินไปจ่ายค่าห้อง ซื้อกระเป๋า เสื้อผ้า เป็นต้น จึงทำให้ตกเป็นเหยื่อ”
ผู้กำกับ กก.ดส. เผยว่า คนที่ถูกหลอกมา จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ขณะที่ บางคน ราว 50% ก็เป็นการค้าประเวณีอย่างเต็มใจ ซึ่งกลุ่มนี้ ถือว่าจับกุมได้ยาก ยกเว้น กรณี มีการล่อลวง แสวงหาผลประโยชน์ จนผู้ปกครองออกตามหา เช่น หนีออกจากบ้านไปอยู่กับแฟน หรือ เพื่อน โดนเพื่อน หลอกไปขาย แบบนี้ ถึงจะตามได้
“เคสลักษณะนี้ เราจะตามตัวได้ไม่ยาก กลับกัน หากเป็นกรณี ที่ผู้ปกครอง กลายร่างเป็นคนทำผิดเสียเอง แบบนี้จะดำเนินการค่อนข้างยาก ต้องวางแผนดำเนินการจับกุม เพราะเด็กไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งเราจะพบมากในครอบครัวที่แตกแยก การหย่าร้าง เด็กขาดที่พึ่งพิง และช่วงจังหวะนี้ เด็กก็มาเจอสิ่งเร้า เพื่อน แฟน ชวนกันไปเที่ยว เห็นเพื่อนทำ และทำตามอย่าง”
...
เมื่อถามว่า เคยมีลักษณะการ “แบล็กเมล์” บ้างหรือไม่ โดยใช้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาแสวงหาประโยชน์ พ.ต.อ.ศานติ ยอมรับว่า เรื่องลักษณะนี้ เข้ามาไม่ถึง ดส. เท่าที่ทราบ ส่วนมากจะมีการแจ้งความตาม โรงพัก หรือมูลนิธิต่างๆ
ปัจจุบัน ทาง ดส. มีนโยบายในการช่วยเหลือและปราบปราม กลุ่มที่แสวงหาประโยชน์ จากเด็กและเยาวชน ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ จะเดินหน้าขยายผล ถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เส้นทางการเงินในทุกมิติ
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่น่าสนใจ
...