จากผลกระทบโควิด เศรษฐกิจตกต่ำ และอีกหลายๆ ปัจจัย เป็นตัวกระตุ้นทำให้ขณะนี้ผู้คนจำนวนมาก พุ่งความสนใจไปยัง "คริปโตเคอร์เรนซี" สินทรัพย์ดิจิทัลในโลกยุคใหม่ หรือเรียกว่า "สกุลเงินดิจิทัล" ทำงานอยู่บนระบบ "บล็อกเชน" ถูกสร้างเมื่อปี 2552 โดย "บิตคอยน์" เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เก่าแก่มากสุด กลายเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักลงทุนชอบความท้าทาย เพราะได้ผลตอบแทนสูง มีราคากลางในการซื้อขาย ซึ่งแปรผันตามกลไกตลาด สามารถแลกเปลี่ยนมูลค่าผ่านอินเทอร์เน็ต

แน่นอนการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด พึงระวังอย่าตกเป็นเหยื่อนักต้มตุ๋น และทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องหาแนวทางออกเกณฑ์ในการกำหนดคุณสมบัติผู้ลงทุนใน "คริปโตเคอร์เรนซี" ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีความผันผวนสูง ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถรับความเสี่ยงจากการได้รับผลขาดทุนจากการลงทุนได้

ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นแนวทางการกำกับดูแลการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะเงินสกุลโทเคนต่างๆ และคริปโตเคอร์เรนซี และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ได้สรุปผลการรับฟังความคิดเห็น จะไม่มีการกำหนดฐานะการเงินหรือรายได้ขั้นต่ำ 1 ล้านบาทตามเกณฑ์เดิม แต่จะให้ผู้ประกอบการ ต้องมีการแนะนำจัดพอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนคริปโตฯ ให้มีความเหมาะสมตามความเสี่ยงของผู้ลงทุน

และกรณีผู้ลงทุน มีความประสบการณ์ในการซื้อขายคริปโตฯ อยู่แล้ว สามารถลงทุนได้ แต่หากไม่มีความรู้ในการลงทุน จะต้องเข้าคอร์สอบรมความรู้ หรือผ่านการทดสอบความรู้ โดยก.ล.ต. จะมีการจัดหลักสูตรการให้ความรู้ และจะจับมือกับผู้ประกอบธุรกิจ จัดทำแบบทดสอบมาตรฐานต่อไป.

...