อดีตผู้กำกับโจ้ เสียชีวิตในคุก ย้อนรอย 4 ปี คดีสะเทือนขวัญ เหตุใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต สู่คำพิพากษาสุดท้ายของอดีตนายตำรวจ

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 7 มี.ค. 68 พ.ต.ท.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ สว. (สอบสวน) สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุนักโทษชายอดีตนายตำรวจชื่อดังผูกคอตายในเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. รายงานให้ พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น ทราบ มีรายงานว่าที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 พบศพนักโทษชาย (นช.) พ.ต.อ.ธิติสวรรค์ อุทธนผล อายุ 43 ปี อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือโจ้ คลุมถุงดำ สภาพศพผูกคอตาย

ย้อนรอย “ผู้กำกับโจ้” 4 ปี คลุมถุงดำ สู่คำพิพากษาสุดท้าย

ภายหลังเกิดเหตุเรือนจำแจ้งข่าวร้ายให้ภรรยาผู้เสียชีวิตทราบ ภรรยาผู้ตายตั้งข้อสังเกตการตายว่าสามีตัดสินใจฆ่าตัวตายเองหรือการตายมีเงื่อนงำอะไรหรือไม่ ด้าน พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวว่า ศพยังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม วันนี้เวลา 09.00 น. ตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อัยการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จะเข้าไปร่วมชันสูตรศพต่อไป

...

จากคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินประหารชีวิต “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ แต่ลดโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุกตลอดชีวิต กรณีร่วมกับพวกอีก 6 คน ใช้ถุงดำคลุมศีรษะ “จิระพงษ์ ธนะพัฒน์” หรือมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนถึงแก่ความตาย

คดีนี้สร้างความสั่นสะเทือน “วงการสีกากี” เนื่องจากมีคลิปขณะผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายเผยแพร่ออกมา จึงเป็นหลักฐานสำคัญ และเป็นคดีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการซ้อมทรมานโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ

ย้อนรอย “ผู้กำกับโจ้” 4 ปี คลุมถุงดำ สู่คำพิพากษาสุดท้าย

จากจุดเริ่มต้นสู่การตัดสินคดีผู้กำกับโจ้

• 5 ส.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ จับกุมผู้ต้องหา 2 สามีภรรยา พร้อมด้วยยาเสพติด 1 แสนเม็ด ก่อนควบคุมตัวมายังโรงพัก เบื้องต้นของการสืบสวน มีการเรียกรับเงินจากผู้ต้องหา 2 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหาจะจ่ายเพียง 1 ล้านบาท

• เมื่อต่อรองสินบนไม่ได้ตามเป้าหมาย ผู้กำกับโจ้ พร้อมพวก ได้นำถุงดำมาคลุมหัว “มาวิน” ผู้ต้องหาจนเสียชีวิต จากนั้นนำศพไปยังโรงพยาบาล และปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิง โดยห้ามบอกเรื่องราวทั้งหมดกับผู้อื่น เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี

• ในวันถัดมา มีผลชันสูตรของโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ ระบุการเสียชีวิตของผู้ต้องหา เกิดจากพิษสารแอมเฟตามีน

ย้อนรอย “ผู้กำกับโจ้” 4 ปี คลุมถุงดำ สู่คำพิพากษาสุดท้าย

• หลังเกิดเหตุ มีตำรวจชั้นผู้น้อย ร้องเรียนต่อทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ จนมีการออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ นำไปสู่การสอบสวนตำรวจชุดดังกล่าว

• ต่อมามีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ย้ายผู้กำกับโจ้ ไปปฏิบัติราชการที่อื่น เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา ในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง หากมีการกระทำผิดจริง ต้องถูกดำเนินการทางวินัย

• ผู้กำกับโจ้ ยืนยันไม่มีการเรียกรับเงิน หรือซ้อมทรมานผู้ต้องหา โดยบิดาของผู้เสียชีวิต ไม่ติดใจการตาย และเชื่อว่ามาจากโรคประจำตัว

ย้อนรอย “ผู้กำกับโจ้” 4 ปี คลุมถุงดำ สู่คำพิพากษาสุดท้าย

...

• “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก"วินาทีผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหา จนเสียชีวิต" จากนั้นจเรตำรวจ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ผู้กำกับโจ้ พร้อมพวก นำมาสู่การจับกุมดำเนินคดี

• 8 มิ.ย.2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินประหารชีวิต ก่อนลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต ผู้กำกับโจ้ ในฐานะความผิด เช่น ร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่ โดยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต เป็นต้น

• ผู้ร่วมกระทำความผิด ส่วนหนึ่งได้รับโทษประหารชีวิต มีการลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ ด.ต.ศุภากร จำเลย 6 มีความผิดละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการใด ให้ลงโทษ จำคุก 8 ปี ลดเหลือจำคุก 5 ปี 4 เดือน