“ทักษิณ” VS “เฉลิม” กลายเป็นรอยร้าวที่คอการเมืองต้องจับตา หลังออกมาโต้กันดุเดือด เพราะถ้าย้อนสัมพันธ์ของทั้งคู่ มีมานานกว่า 30 ปี ก่อนที่อดีตนายกฯ จะผันตัวเข้ามาเล่นการเมือง และในช่วง "ทักษิณ" ลี้ภัยในต่างประเทศ "ร.ต.อ.เฉลิม" กลายเป็นแกนนำสำคัญในการพยุงสมาชิกพรรคให้ผ่านวิกฤติ จึงไม่แปลก ที่ "ร.ต.อ.เฉลิม" จะออกมาให้สัมภาษณ์บางตอนว่า "...ใครมีบุญคุณต่อกัน ไม่มีใครรู้ แต่ผมรู้ ฟ้าดินรู้..."
“ชื่อยังไม่อยากได้ยิน ไม่มีแตกหัก เขาจะมาแคร์อะไรผม แต่พร้อมดีเบต ตอนที่อยู่ต่างประเทศก็คุยกันตลอด ไม่คุยกันก็ตอนที่กลับมา และผมไม่อยากเปิดประตูความสัมพันธ์ หากจะพูดว่าใครมีบุญคุณต่อกัน ไม่มีใครรู้ แต่ผมรู้ ฟ้าดินรู้ ใครมีบุญคุณกับใคร” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดบ้านให้สัมภาษณ์ถึงรอยร้าวกับอดีตนายก ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา
สงครามคารม “ทักษิณ” VS “เฉลิม”
ทันทีที่อดีตมิตรรัก ออกมาแสดงความคิดเห็น ทักษิณ ชินวัตร ออกมาโต้กลับทันที ในวันครบรอบวันเกิด 75 ปี วันที่ 26 ก.ค. 67 ณ บ้านจันทร์ส่องหล้า ถึงการให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวท้าดีเบต ได้ติดตามหรือไม่ ว่า "อย่าไปพูดถึงเขาเลย สงสาร ผมสงสารเขา เขาอายุเยอะแล้ว อย่าไปพูดถึงเขา ผมอายุเยอะแล้ว เขาก็อายุเยอะกว่า"
...
ย้อนสัมพันธ์ลึก จากนักธุรกิจสู่มิตรการเมือง
ย้อนเส้นทางความสัมพันธ์ของ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" และ "ทักษิณ ชินวัตร" เริ่มเห็นได้ชัดเจน ตั้งแต่สมัยนายกฯ ทักษิณ เป็นนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่งของเมืองไทย โดยยุคนั้น "ร.ต.อ.เฉลิม" นั่งเก้าอี้สำนักนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาล พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีอำนาจกำกับดูแล อสมท ซึ่งห้วงเวลานั้น ทักษิณ ได้รับสัมปทานเคเบิล และเป็นการพลิกชะตา ทำให้ธุรกิจด้านโทรคมนาคม ที่กำลังรุ่งโรจน์ สร้างผลกำไรอย่างมหาศาล
แม้ช่วงแรกสัมพันธ์ทั้งคู่จะต่างกันด้วยสถานะในการทำหน้าที่ แต่แล้ว หลังรัฐประหาร "ร.ต.อ.เฉลิม" จำต้องลี้ภัยทางการเมืองไปต่างประเทศ อยู่ที่สวีเดน และเดนมาร์ก และถูกยึดทรัพย์ไปกว่า 32 ล้านบาท ก่อนที่เหตุการณ์การเมืองสงบลง จึงกลับมาประเทศไทย และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาล บรรหาร ศิลปอาชา ถึง ปี พ.ศ. 2540 ได้เข้าร่วมกับพรรคความหวังใหม่ ของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
เส้นทางของทั้งคู่ได้มาบรรจบกันอีกครั้งเมื่อ "ร.ต.อ.เฉลิม" เข้าร่วมกับพรรคการเมืองของ "ทักษิณ” ซึ่งหลังการรัฐประหารปี พ.ศ. 2549 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทักษิณ ได้ไว้วางใจให้ "ร.ต.อ.เฉลิม" เป็นขุนพลสำคัญในการเลือกตั้ง ก่อนจะกวาดคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น เช่นเดียวกับ "ร.ต.อ.เฉลิม" ได้รับคะแนนเสียงให้เข้าสู่สภาหินอ่อนอีกครั้ง
...
ช่วงระหว่างที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ต้องลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในต่างประเทศ "ร.ต.อ.เฉลิม" กลายเป็นนักการเมืองแถวหน้าของพรรค ด้วยความไว้วางใจ และมีการกล่าวถึงการคุยกันของทั้งคู่อยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่า ความลับทางการเมืองของทั้งคู่ย่อมมีการแลกเปลี่ยนกันเสมอ
มาถึงการเลือกตั้งปี 2566 แม้ "ร.ต.อ.เฉลิม" จะลดบทบาทลงในพรรคเพื่อไทย ด้วยปัญหาสุขภาพ แต่ได้ผลักดันลูกชายให้เข้าไปช่วยทำงานทางการเมือง ซึ่งหลัง "ทักษิณ" เดินทางกลับมาประเทศไทย กลับไม่ค่อยเห็นภาพของทั้งคู่ร่วมเฟรมกัน จนล่าสุดรอยร้าวของอดีตมิตรรักชัดเจนมากขึ้น เมื่อ "วัน อยู่บำรุง" ลูกชายของ "ร.ต.อ.เฉลิม" ตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย หลังมีภาพเดินทางไปให้กำลังใจ "บิ๊กแจ๊ส" ในวันนับคะแนนเลือก อบจ.ปทุมธานี
...
แม้วันนี้ทั้งคู่จะแสดงออกชัดเจนถึงรอยร้าว แต่ขึ้นชื่อว่า "คนเคยรักกัน" ความลับบางอย่างก็ถูกเก็บงำไว้ภายในใจของทั้งคู่ ซึ่งไม่แน่ว่ารอยร้าวที่เกิดขึ้น อาจถูกสมานในเร็ววัน.