33 ปีก่อน เกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินโบอิ้ง 767-300ER สายการบินเลาดาแอร์ เที่ยวบิน NG004 เส้นทางฮ่องกง-กรุงเทพฯ-เวียนนา ตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพุเตย อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กลางดึกวันที่ 26 พ.ค. 2534 หลังบินมาจากฮ่องกง มาท่าอากาศยานดอนเมือง อย่างปกติ และกำลังมุ่งหน้าต่อไปเวียนนา ประเทศออสเตรีย

เพียง 18 นาที หลังบินออกจากสนามบินดอนเมือง ใกล้พรมแดนไทย-เมียนมา สัญญาณเรดาร์เครื่อง หายจากจอมอนิเตอร์ของศูนย์ควบคุม เครื่องบินร่วงจากความสูง 31,000 ฟุต ระเบิดกลางอากาศ ตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพุเตย ชิ้นส่วนเครื่องบินแตกกระจาย การค้นหาศพผู้โดยสารและลูกเรือ รวม 223 คน ยากลำบาก โดยมีคนไทย 39 คน ในจำนวนนี้มี ดร.ไพรัตน์ เตชะรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนั้นและภรรยา

ทีมค้นหาทำงานอย่างหนัก แต่พิสูจน์ศพผู้โดยสารได้เพียง 72 ศพ ชิ้นส่วนอวัยวะศพของผู้โดยสารจำนวนมากเกลื่อนทั่วบริเวณ หลายศพตกลงเหวลึก ยากต่อการค้นหา บางส่วนปะปนเศษซากเครื่องบิน

ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ เข้าตรวจสอบ พบร่องรอยถูกไฟไหม้ เกิดขึ้นบนอากาศก่อนเครื่องตกพื้นดิน จากการฉีกขาดของปีกที่มีน้ำมันบรรจุอยู่ แล้วสาดกระจายมา โดนเครื่องยนต์ที่กำลังทำงาน เกิดไฟลุกไหม้ แต่ลุกลามไม่ถึงปลายปีก 2 ข้าง และพื้นผิวด้านขวาของลำตัวบางช่วง

แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่า ทรัสต์ รีเวิร์สเซอร์ (Thrust Reverser) กางออก เป็นสาเหตุทำให้สายไฟ หรือระบบไฟฟ้าขัดข้องหรือไม่ ส่วนเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน ถูกความร้อนเผาเสียหาย ไม่สามารถถอดข้อมูลได้ แต่เครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน ได้รับความเสียหายไม่มาก

การคลี่คลายปมเครื่องบินตก พบกัปตันเครื่องบิน ได้เห็นสัญญาณเตือนทรัสต์ รีเวิร์สเซอร์ บริเวณปีกด้านซ้ายกำลังทำงาน จึงร่วมกับผู้ช่วยนักบินตรวจสอบคู่มือของโบอิ้ง เพื่อดูคำแนะนำ ก่อนสิ้นเสียงสุดท้ายของผู้ช่วยนักบิน ร้องเสียงดังว่า "รีเวิร์สเซอร์ กางแล้ว" ตามด้วยเสียงระเบิดตูม!

ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐาน ความผิดพลาดจากคอมพิวเตอร์ ทำให้ทรัสต์ รีเวิร์สเซอร์ของปีกซ้ายทำงานขึ้นเอง ส่วนปีกขวา มีแรงยกมากกว่าปีกซ้าย ในการจะวิ่งไปข้างหน้า แต่ปีกซ้ายกลับเบรกต้านลม ทำให้แพนหางที่ปรับทิศทางปริหลุดออก ก่อนเครื่องบินหมุนดิ่งหัวลง และปีก 2 ข้างหลุดออก ทำให้ถังน้ำมันระเบิด.