ตอนนี้มีคดีหนึ่งที่ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กำลังให้ความร่วมมือกับ ตำรวจของอังกฤษ ในการคลี่คลายคดีปริศนากับการตายของหญิงไทยคนหนึ่ง เมื่อ 19 ปี ก่อน และจนถึงบัดนี้ ก็ยัง "ปิดคดี" ไม่ได้เสียที
คดีที่ว่า คือ คดี "สตรีแห่งขุนเขา" หรือ "ลำดวน สีกันยา"
จุดเริ่มต้นของคดีนี้ ต้องย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2547 เมื่อ 5 นักเดินทางจากหมู่บ้านฮอร์ตัน ในเมืองริบเบิลส์เดล ได้เดินทางไปเที่ยวชม อุทยานแห่งชาติยอร์กเชียร์ เดลส์ ทางตอนเหนือของอังกฤษ แต่จากสภาพอากาศเลวร้าย ฝนตกลงมาอย่างหนัก
พวกเขา จึงล่าถอย ยอมละจุดหมายยอดเขา "เพนนีเกนต์" เดินอ้อมมาที่เส้นทาง "เพนไนน์ เวย์" แล้วมาหยุดพักที่ถ้ำ "เซลล์ กิลล์ โฮลส์"
หนึ่งในนักเดินทาง ออกสำรวจริมลำธารเล็กๆ ตรงนั้น และก็พบความผิดปกติ เมื่อเข้าไปดูก็พบร่างหญิงสาวชาวเอเชีย คนหนึ่งในสภาพนอนคว่ำ ไม่สวมเสื้อ ใส่เพียงกางเกงยีนส์ แหวนทองคำที่เชื่อว่าเป็นแหวนแต่งงาน และถุงเท้าคู่หนึ่งเท่านั้น ขณะที่พบเสื้อของเธอตกอยู่ในบริเวณใกล้เคียง แต่ไม่เจอรองเท้า
...
ตอนแรก ไม่มีใครรู้ว่า ศพหญิงนิรนาม คือ ใคร รู้แต่เพียงว่า เธออาจจะเป็นคนไทย เพราะมีแหวนแต่งงานที่มาจาก กรุงเทพมหานคร โดยมีความสูงที่ 149 เซนติเมตร น้ำหนัก 63 กิโลกรัม และคาดว่าน่าจะมีอายุ 25-35 ปี
ด้วยความสงสารของคนในท้องถิ่น ที่เห็นเธอเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ในต่างแดน จึงร่วมกันทำหลุมศพ ฝังไว้ในชื่อ "สตรีแห่งขุนเขา" หรือ THE LADY OF THE HILL
การสอบสวน ของ ตำรวจคลีฟแลนด์และนอร์ทยอร์กเชียร์ ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เธอคือผู้หญิงที่แต่งงานกับชายผิวขาวแล้วย้ายมาอาศัยอยู่ด้วยกันในสหราชอาณาจักร และเธออาจถูกฆาตกรรมจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งที่เมืองริบเบิลส์เดล ด้วยการรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ขณะที่แพทย์นิติเวชที่นั่น ไม่ได้ระบุ "สาเหตุการตาย" ทุกอย่างจึงยากขึ้น...
คดีนี้ ถือเป็นคดี ที่ "ปิดไม่ลง" และค้างคามานานหลายปี กระทั่ง ปี 2559 วิวัฒนาการการสืบสวนได้พัฒนาขึ้น และเริ่มขุดค้นความจริง ว่าเธอ อาจจะคือ “ลำดวน สีกันยา” หญิงสาวชาวอุดรธานี ที่แต่งงานกับสามีฝรั่ง และอาศัยอยู่กินในดินแดนผู้ดี
ในปี 2562 นายบัวสา และนางจูมศรี สีกันยา ชาว ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พ่อแม่ของ "ลำดวน" เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือไปยังสมาคมเครือข่ายภาคีหญิงไทยในสหราชอาณาจักร เพื่อให้ติดตามหาลูกสาว คือ นางลำดวน สีกันยา ที่ขาดการติดต่อไปตั้งแต่ 15 ปีก่อนหลังจากไปอยู่อังกฤษกับสามี โดย 2 ตายายได้ทราบข่าวเรื่องสตรีแห่งขุนเขา และคิดว่าอาจเป็นลูกสาวของตัวเองก็เป็นได้ แม้ว่าใจหนึ่งจะไม่อยากให้ใช่ก็ตาม
คำบอกเล่าของญาติ และความขัดแย้งสามีฝรั่ง ?
ลำดวน เป็นลูกสาวคนที่ 6 ของครอบครัว เคยมีลูกกับสามีคนไทยแล้ว 1 คน ก่อนจะเลิกรากันไป จากนั้นก็ไปพบ หนุ่มสอนภาษาชาวอังกฤษที่กรุงเทพฯ ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานในแบบอีสาน และย้ายไปอยู่ที่สหราชอาณาจักร
เธอมีลูกกับครูชาวอังกฤษ 2 คน ทำงานหาเงินส่งมาให้ครอบครัว เคยโทรมาเล่าให้ครอบครัวฟังว่า มีปัญหากับทางสามี กระทั่ง ปี 2547 ก่อนหายตัว เธอบอกกับครอบครัวว่า สามีไม่ให้เงินใช้ ก่อนจะ "ขาดการติดต่อ"
หลังผ่านไป 15 ปี กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการประสาน เพื่อตรวจอัตลักษณ์บุคคล และเมื่อส่งผลกลับไปที่อังกฤษ ก็ได้รับการยืนยันว่าศพ "สตรีแห่งขุนเขา" คือ "ลำดวน สีกันยา" หรือ ลำดวน อาร์มิเทจ (สกุลสามี) คือ เดวิด อาร์มิเทจ โดยเธอย้ายมาอยู่ที่สหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 2534 และใช้ชีวิตที่เมืองพอร์ตสมัต, รักบี และเพรสตัน
...
ลูกชายตามหาแม่ ถึงเมืองไทย
สิ่งที่เป็นเรื่องค้างคาใจของครอบครัว "สีกันยา" คือ การมาของลูกชายลำดวน (ลูกชายกับสามีชาวอังกฤษ) โดยในปี 2559 ลูกชายเธอมาหา "ยาย" ที่เมืองไทย เพื่อจะมาบอกข่าวดี ว่าเขากำลังจะแต่งงาน
สิ่งที่ ยายและครอบครัว "สีกันยา" รู้สึกมึนงง เพราะไม่รู้ว่า นายเดวิด สามีลำดวน บอกลูกชายของเขาเกี่ยวกับ "แม่" ของเขา เขาถึงต้องมาตามหา...
ขณะที่ นายเดวิด เองได้ย้ายกลับมาอาศัยในประเทศไทย รายงานล่าสุด พบว่าได้ทำงานเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใน จ.กาญจนบุรี และต่อมา หนังสือพิมพ์เดอะซัน ได้สัมภาษณ์เขา เขายืนยันว่า ไม่ได้ฆ่าภรรยา และรู้ว่ามีความพยายามเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับตัวเขาในสื่อไทย แต่เขาเพียงต้องการใช้ชีวิตต่อไปเท่านั้น
...
ทำไม "ลูกชาย" ไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิต
"สามี" รู้หรือไม่ว่า "เมีย" กลายเป็น "สตรีแห่งขุนเขา..." และทำไมไม่ตามหา...?
นี่คือคำถามคาใจ
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ ตำรวจอังกฤษ ได้เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว โดยเบื้องต้น ได้เข้าพบ นางจูมศรี เพื่อบอกขั้นตอนนำกระดูกกลับเมืองไทย ซึ่งปัญหาคือ เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ ถึงแม้คดีการตายอย่างปริศนาของ "ลำดวน สีกันยา" ยังไม่มีข้อสรุป แต่ครอบครัวก็หวังว่าจะเถ้ากระดูกกลับบ้าน เพื่อไม่ให้เธอเปลี่ยวเหงาและโดดเดี่ยว...
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่น่าสนใจ