บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด มีรายได้ และกำไรเติบโตทุกปีในช่วงปี 2558-2563 จากการเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจพัฒนา และดูแลศิลปิน เป็นผู้ผลิตซีรีส์ ละคร เพลง แต่ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้เป็นต้นไป จะยุติบทบาททั้งหมดนี้แล้ว
ย้อนหลังความเป็นมาของ นาดาว บางกอก นั้นถือว่าอยู่ภายใต้การบริหารโดย ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับมากฝีมือมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการผลิตซีรีส์ดังชุด Hormones วัยว้าวุ่น ในปี 2556 จนถึงภาคสุดท้ายในปี 2558 และยังมีการผลิตซีรีส์ไปยังแพลตฟอร์มอย่างไลน์ทีวี ทำให้ในปี 2558 ได้รายงานงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า มีรายได้ทะลุร้อยล้าน อยู่ที่ 117 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5.2 ล้านบาท
จากนั้นก็มีผลงานที่โดดเด่นเรื่อยมา พร้อมๆ กับรายได้และกำไร โดยปี 2559 มีรายได้ 165 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้นเป็น 17 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้เพิ่มเป็น 198 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท ปี 2561 รายได้ 246 ล้านบาท กำไร 21 ล้านบาท ปี 2562 รายได้ 392 ล้านบาท กำไร 40 ล้านบาท และปี 2563 แม้จะมีโควิดระบาด แต่ก็ยังสามารถทำรายได้ถึง 313 ล้านบาท และกำไร 29 ล้านบาท ส่วนปี 2564 ยังไม่พบข้อมูลรายงานในเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
...
ทั้งนี้บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท มีรายชื่อบุคคลที่มีบทบาทในการร่วมก่อตั้งบริษัทและเป็นกรรมการบริษัท ดังนี้ นางสาวบุษบา ดาวเรือง นางสาวจินา โอสถศิลป์ นางสาวรจเรข ลือโรจน์วงศ์ นางสาวจงจิตต์ อินทุ่ง นายทรงยศ สุขมากอนันต์ โดยจุดประสงค์เริ่มแรกนั้น เป็นบริษัทดูแลศิลปินของจีทีเอช จนมีการขยายธุรกิจในเส้นทางบันเทิง และก็ถึงเวลาที่นาดาวปิดตัวในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้
ในช่วงที่ผ่านมานาดาว บางกอกได้ปั้นศิลปินหลายคนเข้าสู่ถนนสายบันเทิงมาอย่างต่อเนื่อง จนปี 2565 มีศิลปินในสังกัดกว่า 20 คน ตั้งแต่รุ่น ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร จนมาถึง ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร เป็นต้น.