**ภาพประกอบเนื้อหา ไม่ใช่ภาพในคดี**
ต้องยอมรับว่าเหตุอาชญากรรมในสมัยก่อน (ก่อนมีกล้องวงจรปิดอย่างแพร่หลาย) มีหลายคดีเกิดขึ้น และจับตัวคนร้ายได้ยาก ยิ่งมีการลงมือในที่เปลี่ยว ไร้ผู้คน ไม่มีพยาน ก็ยากที่จะจับกุม จึงทำให้คนร้ายเหิมเกริม และลงมืออย่างเหี้ยมโหด
ในอดีตมี 1 คดีที่ถือเกิดขึ้น และจากการแกะรอยของเจ้าหน้าที่ จึงทำให้สามารถรวบคนร้ายใจทมิฬได้ยกแก๊ง
3 นาที Short Story โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาทุกท่านไปย้อนรอยคดีเก่า 1 คดี ที่ตำรวจสามารถคลายทุกข์ให้กับเหล่าบรรดาโชเฟอร์ “แท็กซี่”
คดีนี้ต้องย้อนไปไกลถึงปี 2529 ได้มีคดีปล้น ฆ่า โชเฟอร์แท็กซี่เกิดขึ้นหลายคดี ทำเอาเหล่าโชเฟอร์ที่หาเช้ากินค่ำต้องขวัญผวา ไม่กล้ารับผู้โดยสาร
เฉกเช่นเดียวกับ นายอำพล ฟักเทศ โชเฟอร์แท็กซี่ ที่ถูกชายฉกรรจ์ 3 คน วางแผนปล้นรถ โดยลวงให้ขับไปถึง ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จากนั้นก็ฉวยโอกาสใช้เชือกรัดคอนายอำพล โชเฟอร์แท็กซี่ แต่ยังดีที่นายอำพลยังไม่ถึงที่ตาย แต่ก็เจ็บสาหัส
...
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่อง ตำรวจได้ตามรวบแก๊งโจรใจโหดได้ 3 คน ซึ่งหัวโจกในการลงมือครั้งนี้อายุเพียง 24 ปี คือ นายทองเจือ ศรีเมือง (นามสกุลพ้องกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่ประการใด) ส่วนลูกน้องอีก 2 คน เป็นพี่น้องกัน ไอ้ณรงค์ กับ ไพรัช อายุ 24 ปี กับ 17 ปี
แต่เรื่องราวไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เดินหน้าขยายผลและตามรวบลูกสมุนที่เหลือได้อีก 4 คน โดย 1 ใน 4 คือ นายเกษียร วัย 47 ปี ทำหน้าที่รับซื้อรถยนต์และอะไหล่ต่างๆ ซึ่งเป็น “ของกลาง” ที่ปล้นได้ แล้วกระจายขายต่อในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง
สิ่งที่หลุดจากปากไอ้ทองเจือ ทำให้ตำรวจตกตะลึง เมื่อมันรับสารภาพว่า จริงๆ แล้วมันมีอาชีพหลัก คือ การเป็น “มือปืนรับจ้าง” รับจ้างยิงคนมาแล้ว 7 ศพ โดยได้ค่าจ้าง 30,000-50,000 ถือเป็นเงินจำนวนมากในสมัยปี พ.ศ.2529
และเรื่องที่น่าสะพรึงยิ่งกว่า เมื่อไอ้ทองเจือ มันบอกว่า มันร่วมกับแก๊งปล้นรถแท็กซี่มาแล้ว 25 ครั้ง และ 9 ใน 25 ครั้ง เป็นการ “ปล้นฆ่า” โดยตัวไอ้ทองเจือ มันบอกว่า เป็นคนลงมือฆ่าด้วยตัวเอง พร้อมสาธยายความชั่ว ว่าลงมือในพื้นที่ไหนบ้าง ประกอบด้วย บางขุนเทียน 5 ศพ ที่ถนนจตุจักร 1 ศพ ริมถนนสายเอเชีย เขต จ.พระนครศรีอยุธยา 1 ศพ ที่ดงอ้อยย่านบางโป่ง 1 ศพ และอีก 1 ศพ ในซอยพาณิชยการธนบุรีอีก 1 ศพ
นอกจากคดีนี้ยังมีลักษณะเดียวกันอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา กระทั่งยุคสมัยเริ่มเปลี่ยน การสื่อสารทั่วถึง ทำให้คดีลักษณะนี้ลดน้อยลง แต่ก็ยังไม่หายไป
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ