ถึงแม้ประเทศไทย จะโดน “ครหา” มากมาย จากคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศ การเสียชีวิตของชาวต่างชาติหลายคดี แต่สำหรับคดี “โทโมโกะ คาวาชิตะ” ถือได้ว่า อาจจะช่วย “ล้างมลทิน” (ได้ระดับหนึ่ง) ให้คนไทยได้ หลังการพิสูจน์ว่า “ฆาตกร” อาจจะไม่ใช่คนไทย และชี้ชัดว่า อาจจะเป็นชาวเอเชียตะวันออก
**เอเชียตะวันออก ประกอบด้วย ญี่ปุ่น จีน เกาหลีเหนือ-ใต้ มองโกเลีย รวมถึงมาเก๊า และฮ่องกง**
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ อยากชวนท่านผู้อ่าน ย้อนรอยคดี "โทโมโกะ คาวาชิตะ" กับคอลัมน์ "สามนาที Short Story"
“โทโมโกะ” เป็นใคร...เกิดอะไรขึ้นกับเธอ...
โทโมโกะ มีอาชีพเป็นนักแสดงละครเวทีชาวญี่ปุ่น เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเพียงลำพัง ถูกคนร้ายฆ่าปาดคอ บริเวณเนินเขาทางขึ้นวัดสะพานหิน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550
สิ่งที่หายไป คือ กล้องถ่ายรูป และหนังสือเดินทาง แต่เงินกลับไม่หาย...?
...
“ฉันอยากให้คิดผิด”
ยาสึอากิ ผู้เป็นบิดา ได้รับการแจ้งข่าวจากทางการไทย แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ที่หวังก็ไม่เกิดขึ้น
สถานที่เกิดเหตุค่อนข้างเปลี่ยว ไร้พยาน เหลือเพียงหลักฐานไม่กี่ชิ้น ได้แก่ เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงสามส่วนสีน้ำเงิน เสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำตาล ไม้กวาดทางยาว ขวดน้ำตราช้างศึก (ที่ไม่ค่อยมีใครเคยพบเห็น) นี่คือความยากของคดีนี้
ความหวังที่มีคือ พยานวัตถุ จากการตรวจสอบพบหลักฐานสำคัญ 2 อย่าง
1. ไม้กวาดหัก พบคราบเลือด แต่ก็มีน้อยเกินไป
2. พบ DNA บุคคลปริศนาที่บริเวณด้านหลังขอบกางเกง ของโทโมโกะ
ต่อมา ได้มีการไล่ตรวจ DNA บุคคลที่อยู่ใกล้เคียงในวันนั้น 375 คน แต่ก็ไม่พบความเกี่ยวข้อง...และคว้าน้ำเหลว
คดีนี้...ค่อยๆ ถูกเวลากลืนกิน สำหรับคนไทยอาจจะหลงลืมไป แต่สำหรับคนที่เป็น “พ่อแม่” นั้น บาดแผลไม่เคยจางหาย
ทุกๆ ปี ครอบครัวจะเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ เพื่อไว้อาลัยแด่ลูกสาวที่จากไป
กระทั่งปี 2555 นายยะสุอากิ คาวะชิตะ พ่อของ น.ส.โทโมโกะ คาวะชิตะ เดินทางมายังกองบังคับการสุโขทัย เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดี เพราะเกรงว่าลูกสาวจะตายฟรี
ปีถัดมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้รับคดี “โทโมโกะ” เป็นคดีพิเศษ พร้อมให้รางวัลแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในเวลานั้น สืบจนได้เบาะแส ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่เคยสอบปากคำ...แต่ไม่เคยตรวจ DNA
ปี 2563 มีการค้นพบหลักฐานและ “จุดเปลี่ยน” สำคัญ โดย นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ ผอ.กองมาตรฐานนิติวิทยาศาสตร์ และ ผอ.กองสารพันธุกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยว่า
ตอนสกัดหารูปแบบสารพันธุกรรม ว่ามีการใช้น้ำยาใหม่ชื่อ Yfiler Plus มีระดับความแม่นยำ 99.99% พบว่า ลักษณะพันธุกรรมที่มีเอกลักษณ์ DNA บริเวณขอบกางเกงของ “โทโมโกะ” มีลักษณะพันธุกรรมเป็นคนประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออก ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ
“ข้อเท็จจริงด้านพันธุกรรมทำให้ผู้เกี่ยวข้องอาจไม่ใช่คนไทย ส่งผลให้ต้องมีการประสานข้อมูลครั้งใหญ่ และแจ้งผลพิสูจน์ล่าสุด เพื่อวางแนวทางสืบสวนกับทางการญี่ปุ่น”
...
คดีนี้คงต้องหาความจริงกันต่อไป ว่าใครคือฆาตกร ซึ่งหน้าที่ของตำรวจไทย ได้สิ้นสุดลง คงต้องส่งไม้ต่อให้กับตำรวจญี่ปุ่น และ ตำรวจสากล และหวังว่า ความจริงของคดีนี้จะได้รับคำตอบในเร็ววัน
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ