กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง สำหรับ กรณี “คนตายแล้วฟื้น” กับเรื่องราวของ “นายจ่อย” หรือ นายบุญมาก คล้ายทอง (เดิมชื่อ ด.ช.พิฆเนศ คล้ายทอง) ที่ล่าสุด เวลานี้เขาได้อายุ 20 ปีแล้ว และบอกเรื่องราว “ชีวิตหลังความตาย” และ อ้างว่า ช่วงที่หมดลมหายใจ มี “ท้าวหิรัญพนาสูร” มาช่วย และพากลับมา เพื่อให้มีชีวิตอีกครั้ง

น้องจ่อย อ้างว่า ช่วงที่ตาย เขาไปโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้ มีแต่หมอกควัน พบเห็นคนโบราณนั่งล้อมวงกินข้าวเป็นกลุ่มๆ บางคนก็ไม่ได้กิน อาจจะเป็นเพราะคนที่กินได้ ต้องเป็นคนมีบุญ หรือ มีญาติทำบุญไปให้ กระทั่งไปพบ ตากับพี่ชายของตนเอง ที่ตายไปนานแล้ว จึงได้คุยกัน

นายจ่อย ระบุว่า ยังได้พบกับ “ท้าวหิรัญพนาสูร” ที่มีรูปร่างใหญ่ ขี่ม้าเข้ามาหา พร้อมพูดว่า “จะช่วยให้ฟื้น จากนั้นให้บอกกับจ่อยว่า ให้ไปบอกพ่อ ให้เอาขนุนมาแก้บนที่รูปปั้น “ท้าวหิรัญพนาสูร” ที่หลังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าด้วย จากนั้นพี่ชายก็มาส่ง เมื่อฟื้นขึ้นมา ก็ไม่เคยป่วยอีกเลย

...

หากให้เท้าความเมื่อ 10 ปีก่อน เรื่องราวของน้องจ่อย กลายเป็นข่าวขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์หลายฉบับ โดยเรื่องราวถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 54 น้องจ่อย ในวันนั้น ถูกส่งตัวทำการผ่าตัดด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว

นางสมคิด คล้ายทอง เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เกิดมา จ่อยก็ป่วย ด้วยโรคประจำตัวหลายโรค ทั้ง กระบังลมรั่ว ฝาพนังหัวใจรั่ว ลิ้นหัวใจรั่วทั้ง 4 ห้อง จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลในอ่างทอง กระทั่งมีการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็ก จนกระทั่งหมอได้ทำการผ่าตัดให้ ซึ่งก่อนผ่าหมอก็บอกให้ทำใจไว้ เพราะถ้าไม่ผ่าตัด ก็เท่ากับ “ไม่ได้ทำอะไรเลย”

หลังผ่าตัด อาการอยู่ในห้อง “วิกฤติ” นาน 14 วัน กระทั่งพยาบาลเดินมาบอกว่า “น้องเสียชีวิตแล้ว” เพราะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย ตัวเย็น ไม่หายใจ ไม่มีความดันในร่างกาย

“ได้บอกกับหมอว่า อย่าเพิ่งถอดเครื่องช่วยหายใจ เพราะได้ไปบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายที่ หมอก็บอกว่าเด็กเสียชีวิตแน่ๆ เนื่องจากแขนขาเริ่มเขียวช้ำ นิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มหงิกงอ โดยเฉพาะนิ้วเท้าด้านขวา แห้งจนหลุดออกมา อย่างไรก็ตาม ก็ได้ขอร้องหมอว่า ขอเวลาหมออีก 1 วัน”

หลังจาก 1 วัน หมอได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก จึงได้นำดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมเงินจำนวนหนึ่ง ใส่ในมือลูก แต่หมอก็บอกให้เอาออก เพราะต้องทำความสะอาดศพ

แต่...นาทีนั้น จู่ๆ ก็เห็นลูกเริ่มเหงื่อออก ขาเริ่มกระดิกได้ ฉันรีบตะโกนสุดเสียงให้หมอกับพยาบาลมาดู ซึ่งหมอกับพยาบาล ล้วนพูดไปเสียงเดียวกันว่า เป็นเรื่องอัศจรรย์

แม่ของนายจ่อย ยังบอกว่า หลังลูกชายฟื้น จึงรีบไปแก้บน โดยบอกว่า ได้ไปบนกับ “ท้าวหิรัญพนาสูร” ด้วยลูกขนุน 2 ลูก และไข่ไก่ 50 ฟอง โดย ลูกยังเล่าเรื่องประหลาดอีกว่า ช่วงที่นอนอยู่ เห็นคนแก่ยืนที่ปลายเตียง น้ำหมากไหลเต็มปาก เห็นท้าวหิรัญพนาสูร ยืนอยู่ปลายเตียง บอกว่า “กูจะเอาชีวิตคืนให้มึง แต่มึงต้องให้แม่มึงแก้บนให้กูด้วย”

ด.ช.จ่อย ในวัย 10 ขวบ วันนั้น ได้เล่าคล้ายที่เป็นข่าวในเวลานี้ แต่ที่แตกต่างคือ ในสถานที่หมอกควันนั้น เห็นคนโดนแทง กระทะทองแดง จากนั้น ได้เจอตา ที่ตายไปกว่า 6 ปี ตาถามว่า “มายังไง” สักพัก ก็มีชายหญิงเดินมาบอกว่า เด็กคนนี้ยังไม่ถึงเวลา

“จากนั้นจู่ๆ มือข้างหนึ่งก็มีเงินเต็มไปหมด ผมจะแบ่งให้ตา ตาก็ไม่เอา สักพัก ตาก็มาส่งที่โรงพยาบาล และบอกว่าให้รีบเดี๋ยวไม่ทัน เมื่อถึงโรงพยาบาล ตาก็หายไป”

เรื่องที่เล่าอยู่นี้ โปรดอ่านโดยใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ

...

มาฟังในมุมการแพทย์กันบ้าง...

หลังจากเป็นข่าวดัง นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ ได้ให้ข่าวว่า เด็กชายจ่อย มีความบกพร่องที่หัวใจตั้งแต่แรกเกิด 3 อย่าง คือ 1.เส้นเลือดที่ทำหน้าที่ ส่งเลือดจากห้องด้านขวาล่าง เพื่อส่งให้ปอดฟอกตีบตัน 2.พนังกั้นหัวใจห้องล่างมีรูรั่ว 3.หลอดเลือดหัวใจเกิน

จ่อย ได้รับการผ่าตัดรวม 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่ออายุ 14 วัน ครั้งที่สองตอน อายุ 10 ขวบ และได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง

“ขอยืนยันว่าเด็กรายดังกล่าวไม่เคยเสียชีวิต มีบันทึกการรักษาอย่างชัดเจน ส่วนอาการที่เกิดขึ้นกับมือเท้า เป็นเพราะ ตอนนั้นอยู่ในภาวะวิกฤติ เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายไม่ทัน เลือดแห้งค้าง และอวัยวะจึงค่อยๆ หลุดไป แต่ไม่มีอาการจะลุกลามไปส่วนอื่นๆ” หมอเรวัตยืนยัน หนักแน่น

เหตุการณ์ “ตายแล้วฟื้น” ยังมีในข่าวมาโดยตลอดต่อเนื่องเกือบทุกปี ส่วนมากจะเกิดกับ “ผู้สูงอายุ” เช่น มีอาการป่วยจนเสียชีวิต ไม่มีลมหายใจ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง กระทั่ง 1-3 ชั่วโมง ต่อมาก็ฟื้น ซึ่งส่วนมาก หากฟื้นแล้วก็จะอยู่ได้อีกไม่นานก็จะเสียชีวิตอีกครั้ง

...

ตะลึง! เด็กขวบเศษ ตายไป 3 ชั่วโมง ฟื้นขึ้นมายิ้มให้

แต่ก็มีกรณี “ตายแล้วฟื้น” กับเด็กอายุเพียงขวบเศษก็มี เรื่องนี้ถูกเปิดเผยใกล้เคียงกับ “น้องจ่อย” คือ วันที่ 23 พ.ย. 53 ที่ จ.ชัยภูมิ

พ่อแม่ครอบครัวหนึ่ง อายุใกล้ 40 ปี ต้องเจอกับเรื่องเสียใจที่สุดในชีวิต หลังพบว่าลูกสาววัยเพียง 1 ขวบ 1 เดือน ได้เสียชีวิตจากโรคประจำตัว “รูจมูกไม่ทะลุเพดาน” ตั้งแต่แรกเกิด หมอได้ทำการเจาะคอให้หายใจ จนหนูน้อยสามารถหายใจได้ดีขึ้น จนนำกลับมาเลี้ยงดูที่บ้าน

กระทั่งกลางเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา อาการป่วยโรคเดิมกำเริบ มีเสมหะติดลำคอ และอาการหอบ จึงได้รีบน้ำส่ง รพ.หนองบัวระเหว อาการโคม่าอยู่ 2 วัน จากนั้นจึงถูกส่งตัวมารักษาที่ รพ.ชัยภูมิ แต่ยังไปไม่ถึง รพ.ชัยภูมิ ระหว่างทางหนูน้อยขวบเศษเกิดอาการช็อก หมดสติ จึงต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.บ้านเขว้า หมอพยายามช่วยเหลือ ปั๊มหัวใจจนยื้อชีวิตได้ กระทั่งได้มารักษาต่อที่ รพ.ชัยภูมิ

อีก 2 วันถัดมา หมอแจ้งว่าไม่สามารถยื้อชีวิตได้ ได้เสียชีวิตในเวลา 16.30 น. วันที่ 16 พ.ย. 53 ทาง รพ. ยืนยันการเสียชีวิต และเตรียมออกใบมรณบัตรให้ ขณะที่ ครอบครัวหนูน้อยเสียใจมาก ก็ให้มูลนิธิสว่างคุณธรรมช่วยส่งศพ เพื่อมาทำพิธีทางศาสนา

ตอนมูลนิธิมารับศพ ก็อยู่ในสภาพตัวเย็น ผิวซีดเหลือง ไม่มีลมหายใจ จึงจัดการห่อผ้าขาว นำร่างมาส่งถึงบ้านในเวลา 20.00 น. กระทั่งมาถึงบ้าน ผู้เป็นย่า เห็นห่อผ้าขาวก็เสียใจมาก เข้ามากอด และจะ “ขอดูหน้าหลาน” เป็นครั้งสุดท้าย

แต่เมื่อเปิดห่อผ้า ทุกคนก็ต้องตกตะลึง เมื่อหนูน้อย 1 ขวบ 1 เดือน ยิ้มให้ทุกคนแบบงงๆ ตอนแรกญาตินึกว่า “ผีหลอก” เพราะแทบไม่เชื่อในสายตาตัวเอง สุดท้าย ก็ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อไป

...

สาวใหญ่ ตายแล้วฟื้น อ้าง “หลวงพ่อคูณ” ช่วย เกจิดัง บอก “กูไม่ใช่เทวดา มึงอุปทานไปเอง”

ข่าวนี้ เป็นข่าวที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ นางเลี้ยง ศรีภูมิ สาวใหญ่ วัย 51 ปี อยู่ อ.วังสะพุง จ.เลย ได้เดินทางมากราบ “หลวงพ่อคูณ” ที่วัดบ้านไร่ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 42

นายเลี้ยงเล่าว่า เมื่อกลางปีที่แล้ว ได้ไปงานศพ เพื่อนบ้าน พอกลับถึงบ้านก็เข้านอนปกติ แต่พอวันรุ่งขึ้นสามีมาปลุกก็ไม่ตื่น ทำอย่างไรก็ไม่ตื่น จึงนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.วังสะพุง ก่อนจะถูกส่งตัวต่อไปที่ รพ.เลย

ตอนนั้น หมอบอกว่า ร่างกายไม่ตอบสนองอะไรแล้ว ที่ยังหายใจอยู่เพราะเครื่องช่วยหายใจ โดยนอนอยู่ห้อง ไอซียู 5 วัน จากนั้น สามีจึงตัดสินใจให้เอาเครื่องช่วยหายใจออก กระทั่งเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลจึงให้นำศพมาทำพิธีที่บ้าน แต่สามีไม่ให้ฉีดฟอร์มาลีน เพราะเห็นว่าร่างกายยังไม่แข็ง เหมือนคนตายอื่นๆ และเมื่อกลับไปบ้านได้ 2 วันก็ฟื้นขึ้นมา...

“ตอนที่ตาย เห็นชายตัวดำร่างใหญ่ มาดึงมือ จะพาไปที่ไหนไม่ทราบ แต่ “หลวงพ่อคูณ” ถือไม้กระบอง ตีหัวชายตัวดำคนนั้น 3 ครั้ง บอกว่า “จะเอาลูกกูไปไหน” ชายตัวดำคนนั้นก็หายไป จึงเชื่อว่า “หลวงพ่อคูณ” มาช่วย เพราะที่ผ่านมาเคยกราบนมัสการหลวงพ่อคูณ และเช่ารูปเหมือนไป"

ด้านหลวงพ่อคูณ ตอบว่า “มันอุปทาน กูจะไปช่วยอะไรมันได้ กูเป็นพระ ไม่ใช่เทวดา เหตุที่มึงไม่ตาย เพราะมึงยังไม่ถึงที่ตาย มันเป็นกุศลที่มึงสร้างสมมานั่นแหละ ส่วนรูปเหมือนที่เช่าไป ก็เป็นเหมือนเครื่องเตือนสติไม่ให้ทำชั่วเท่านั้น”

ตายแล้วฟื้น “หมอ” บอกอาจจะยังไม่ตาย คล้าย “กบจำศีล”

สำหรับ “การตายแล้วฟื้น” ที่เกิดขึ้นมาหลายเคสนั้น บางกรณี อาจจะยังไม่ตายก็ได้ เช่น กรณี นางเดิม วิมูลชาติ แม่เฒ่าวัย 86 ปี ที่เกิดเป็นลมเสียชีวิตเมื่อตอนบ่ายวันที่ 17 ธ.ค. 39 แล้วมาฟื้นตอนเย็นในวันเดียวกัน เพราะเห็นว่ามี “ลมวิ่งปั่นป่วนในช่องท้อง” และฟื้นคืนสติมาระหว่างอาบน้ำศพ

นพ.มานะชัย อิงสุรารักษ์ แพทย์ประจำ รพ.บางเลน เจ้าของไข้ ระบุว่า การตายแล้วฟื้น เช่น กรณี แม่เฒ่า คนนี้ ที่จริงแล้วอาจจะยังไม่ตายก็ได้ หัวใจอาจจะยังเต้นแผ่วอยู่ แต่ทางญาติอาจไม่ทันสังเกต หรือ มองเห็น อาการนี้คล้ายลักษณะ“กบจำศีล”

“ในรายของนางเดิม ถือเป็นเรื่องแปลก เกิดเป็นลม และมีลมในช่องท้องดังขึ้น จากนั้นก็มีการระบาย ทำให้หายไปลม”

เคสกรณีของนางเดิมเอง หลังจากฟื้นขึ้นมา ก็บอกเล่าเรื่องนรกสวรรค์ด้วย แต่สิ่งที่แปลกคือ ก่อนหน้านี้กินข้าวไม่ค่อยได้ หลังจากฟื้นมาก็กินข้าวได้ปกติ ร่างกายที่เคยป่วยกระเสาะกระแสะ ก็กลับดีขึ้น เหมือนได้ชีวิตใหม่...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ