ต้องถอดบทเรียนไม่ให้เกิดซ้ำอีก จากเหตุการณ์เพลิงไหม้บ้านและพังถล่มลงมา ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 เขตทวีวัฒนา กทม. ทำให้อาสาสมัครกู้ภัยพลีชีพ 4 คน และเหยื่อในบ้านเสียชีวิตอีก 1 รวม 5 ศพ คาซากปรักหักพัง หลังเพลิงเริ่มสงบลงและเกิดเสียงปูนดังลั่น ขณะเจ้าหน้าที่กำลังฉีดน้ำไม่ให้ไฟปะทุขึ้นอีก กระทั่งอาคารพังถล่มลงมา จนเกิดเหตุโศกนาฏกรรม

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564 เกิดเพลิงไหม้อาคารถล่ม
เหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564 เกิดเพลิงไหม้อาคารถล่ม
เหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564
เหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564

...

ย้อนไปในปี 2548 เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน ในช่วงบ่ายของวันที่ 9 ม.ค. 2548 เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริษัท ยูไนเต็ด ยูเนียนพาร์ท จำกัด จำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 7 ชั้น จำนวน 5 คูหา ภายในซอยวัดดวงแข ถนนพระราม 6 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.

ขณะเกิดเหตุซึ่งเป็นวันหยุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสวนมะลิ ได้นำกำลังประมาณ 10 นาย แต่งชุดผจญเพลิงพร้อมหัวฉีดดับเพลิงครบชุด พังประตูอาคารเข้าไปภายใน เพื่อค้นหาผู้ที่ติดอยู่ ท่ามกลางกลุ่มควันที่ยังหนาทึบ อีกส่วนหนึ่งขึ้นไปฉีดน้ำบนทางด่วนที่อยู่ใกล้ๆ ลงมาเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้ลุกลาม จนกระทั่งเวลา 15.35 น. ความร้อนระอุของเปลวไฟ ทำให้ตัวอาคารแตกร้าวอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะผนังตึกด้านข้างร้าวปริส่งเสียงดังลั่น

ย้อนเหตุโศกนาฏกรรม ปี 2548 ไฟไหม้ตึกถล่มพังครืน กลางกรุง เจ้าหน้าที่พลีชีพ
ย้อนเหตุโศกนาฏกรรม ปี 2548 ไฟไหม้ตึกถล่มพังครืน กลางกรุง เจ้าหน้าที่พลีชีพ

ทันใดนั้นตึกสูง 7 ชั้น ทั้งหลังได้พังครืนถล่มลงมาในพริบตา พร้อมกับเศษเหล็กเศษปูนหล่นใส่กระเช้าดับเพลิงจนหักได้รับความเสียหาย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงถูกเศษอาคารหล่นใส่อีก 4-5 คน ทั้งหมดถูกนำส่ง รพ.เลิดสิน ขณะเดียวกัน รถกระบะอีซูซุ สีน้ำเงิน ของบริษัทที่จอดอยู่ด้านหน้าอาคารอีก 3 คัน พังยับเยินไปทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ถูกซากอาคารทับเสียชีวิต และอีก 5-6 คนไม่ทราบชะตากรรม

เหตุการณ์วันนั้นเจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือ ร.ต.อ.สุรเดช เชื้อทิน อายุ 51 ปี รอง สว.ดับเพลิงบรรทัดทอง ช่วยราชการดับเพลิงสวนมะลิ ซึ่งเข้าไปสำรวจตัวอาคารพร้อมกับลูกน้องอีก 4 คน ได้ใช้โทรศัพท์มือถือแจ้งกับเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงสวนมะลิที่อยู่ด้านนอก ว่าถูกตึกถล่มทับบาดเจ็บอยู่บริเวณตัวอาคารชั้น 2 เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันใช้เครื่องมือเจาะกำแพงตึกด้านข้างเข้าไปช่วยเหลือ แต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะไม่สามารถหาตำแหน่งที่แน่นอน อีกทั้งซากปรักหักพังกองพะเนินสูงเท่าตึก 2 ชั้น ทำให้ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ จนในที่สุดเมื่อเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ติดต่อไปอีกครั้ง ร.ต.อ.สุรเดช ไม่รับสายแล้ว

ย้อนเหตุโศกนาฏกรรม ปี 2548 ไฟไหม้ตึกถล่มพังครืน กลางกรุง เจ้าหน้าที่พลีชีพ

...

ย้อนเหตุโศกนาฏกรรม ปี 2548 ไฟไหม้ตึกถล่มพังครืน กลางกรุง เจ้าหน้าที่พลีชีพ

แม้เวลาผ่านไปยาวนานจนถึงค่ำคืน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังคงค้นหาผู้ติดอยู่ในซากอาคาร และผูกตัวด้วยลวดสลิงโรยตัวจากรถยกลงไปบนกองซากอาคาร เพื่อใช้ไฟฉายส่องหาผู้บาดเจ็บ ตามซอกอาคาร ก่อนใช้รถยกยกเศษซากอาคารบนกองตึก เพื่อเปิดพื้นที่ด้านบน แล้วค่อยๆ ลงไปค้นหาผู้ที่ติดอยู่ด้านใน โดยนำซากเศษอิฐเศษปูนออกทีละชิ้นทีละแผ่น ตั้งแต่ข้างบนลงไปด้วยความยากลำบาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการถล่มซ้ำอีก

ย้อนเหตุโศกนาฏกรรม ปี 2548 ไฟไหม้ตึกถล่มพังครืน กลางกรุง เจ้าหน้าที่พลีชีพ

...

ย้อนเหตุโศกนาฏกรรม ปี 2548 ไฟไหม้ตึกถล่มพังครืน กลางกรุง เจ้าหน้าที่พลีชีพ

ก่อนไปเจอร่างเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยรายแรก ในสภาพไร้วิญญาณ ถูกคานคอนกรีตหล่นลงมาทับเสียชีวิต ในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งยืน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เหลืออีก 5-6 คน ยังหาตัวไม่พบ โดยวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 10 ม.ค. 2548 ได้พาดหัวข่าว "ไฟไหม้ตึก 7 ชั้นถล่มฝังทั้งเป็น ตร.ดับเพลิง 10 ชีวิต." ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุโศกนาฏกรรมในอดีต มีการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจดับเพลิง และอาสาสมัครกู้ภัยได้พลีชีพขณะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ โดยมีธงชาติห่อร่างออกมาจากซากปรักหักพังอย่างสมเกียรติ.

ย้อนเหตุโศกนาฏกรรม ปี 2548 ไฟไหม้ตึกถล่มพังครืน กลางกรุง เจ้าหน้าที่พลีชีพ

...