"บาร์เบนไฮเมอร์" เมื่อ ภาพยนตร์ ท้าทาย คนดู เมื่อ นักวิจารณ์ ท้าทาย อินฟลูฯ...

ผมดู "Barbie" ช้ากว่าคนอื่นๆ ไป 2-3 สัปดาห์ แต่ยังรู้สึก "สนุกเท่ากัน" หรือเผลอๆ อาจจะมากกว่าบางคน ตรงที่ "เห็นความเคลื่อนไหว" ของวงการหนังที่ดราม่ากับตุ๊กตาแหววๆ สีหวานๆ ที่อยู่คู่มานานกับ "วัฒนธรรมป๊อป" อเมริกัน

ประการแรก, ดราม่าที่ The Guardian จั่วไว้ว่า นี่คือหนังที่กลับมายกระดับ "นักวิจารณ์" อีกครั้ง ว่า คนที่เป็นนักวิจารณ์หนังนั้น ต่างจาก "อินฟลูเอนเซอร์" ที่คอย "เชียร์หนัง" จนไม่ต่างอะไรกับ เป็นแผนก "ประชาสัมพันธ์" ของบริษัทหนังเสียเอง

ผมคิดว่าที่ มานูเอลลา ลาซิช เขียนนั้น อาจมีที่มาจาก "กระทู้" ที่ว่า อินฟลูฯ หลายคนบ่นว่า ดูบาร์บี้ไม่รู้เรื่อง! ทั้งที่มันเป็นหนัง "ทั่วๆ ไป"

หนัง Barbie ถูกนำไปผูกกับ Oppenheimer ของ โนแลน ในลักษณะเปรียบเทียบ ว่ามาในช่วงเวลาเดียวกัน แม้จะอยู่กันคนละตระกูล คนละบุคลิก คนละสายทางเดิน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ

...

มันร่วมกันท้าทายคนดู ท้าทายอินฟลูฯ ว่า ตัวหนังเองไม่ต้องการเป็น "ซาก" ทางวัฒนธรรม เคี้ยวง่าย ดูง่าย แล้วก็ออกจากโรงไป 

มีนัยยะคำพูดบางฉาก แดกดันการที่คนเสพหนัง เหมือนฟาสต์ฟู้ด-ด้วยเหตุนี้ บาร์บี้ 2023 จึงวางตัวเอง ให้เป็นหนัง "เรียกร้องความเสมอภาคให้เพศชาย" ไปในตัว อย่างแสบสัน

ประการต่อมา, เราจะเห็นว่า ฟอนต์ชื่อ Barbie นั้น หนาแบน และหนักแน่นกว่า ฟอนต์เดิม ที่ดูบอบบาง ในยุคแรกๆ ของตุ๊กตา

ความหนาแบน มีพลัง ก็คล้ายๆ กับที่นางเอก ต้องลงมาติดดิน เดินดิน ไม่มัวแต่ยืนเดินเขย่ง โก่งขา อยู่บนรองเท้าส้นสูง

ผมคิดว่าหนังแดก "รองเท้าส้นสูง" ในลักษณะ ที่เป็น "อะไรสักอย่าง" ที่กดทับ เพศหญิงไว้ในสังคม...รองเท้าแตะ จึงเป็นตัวปลดปล่อย ในขณะเดียวกัน ก็เปรียบเทียบ อยู่ในที

หนังบาร์บี้ สนุกมากครับ ยิ่งมีคำว่า "Barbenheimer" คือ ผสมกันระหว่าง "Barbie" กับ "Oppenheimer" โดยมีนัยยะว่า เป็นหนังน้ำดี หนีออกจากกรอบ "ดูง่าย" 

เพื่อท้าทายคนดู ท้าทายอินฟลูฯ ท่วมโลก ว่า จะมองภาพยนตร์เหล่านี้อย่างไร...ที่มากกว่า "ดี สนุก"

มีฉากหลายฉากที่หนังแตะ จับ ขยำ เรื่องเพศในความเท่าเทียม ที่ตลกร้ายคือ ภาพ เคน นั่งหลังรถ แล้วมีสาว มาร์โก ขับ

ถ้าดูดีๆ จะพบว่าในโปสเตอร์ นั้น เคน ถูกเบียดตำแหน่งจนติดขอบ เหลือพื้นที่นิดเดียว เป็นการสลับขั้วว่า กลายเป็นเพศผู้ ที่ไม่มีพลังอะไร ไม่เสมอภาค ไม่เท่าเทียม เพราะนี่คือโลกของ บาร์บี้ ที่มาเอาคืน มนุษย์เพศชายในปี 2023

พล็อตหนังบาร์บี้ ไม่ได้เดินตามสิ่งที่ควรจะเป็นแบบ ตุ๊กตาที่เห็นได้ เดาได้ จับต้องง่าย 

ผมว่าตอนที่ ค่ายหนังและผู้อำนวยการสร้างไปคุยกับค่ายแมทเทลนั้น เขาคงเสนอว่า ต้องการทำหนังให้พลิกโฉม "ภาพจำบาร์บี้" ไปเลย

เพราะคนทั่วไป แม้แต่ผมด้วย-ก็ยังรู้สึกว่า หนังบาร์บี้เรื่องนี้ ก็คงมานำเสนอเรื่องของตุ๊กตาสีหวานๆ ที่ไม่มีอะไรมากกว่านี้...แต่ผิดคาด!

...

เพราะหนังพูดถึงการเรียกร้องสิทธิ์ของเพศผู้ ลากบาร์บี้ออกจากส้นสูง แถมด้วยการท้าทายกันหลายระดับ โดยเฉพาะ ระดับของ อินฟลูเอนเซอร์ ระดับของ พีอาร์หนัง และระดับของ นักวิจารณ์ภาพยนตร์

หน้าที่ของหลายสถานะนี้ ถูกนำเปลี่ยน ก่อนแล้ว ด้วยหน้าที่ทางสังคม ที่เปลี่ยนไปของ บาร์บี้...1 ใน 10 หนังเยี่ยมของผม ในปี 2023 

อ่านบทความ "นันทขว้าง สิรสุนทร" เพิ่มเติม :