Side by Side ต่างเจน ต่างยุค ต่างคิด ต่างมอง สู่เจ็บป่วยภายใน จึงต้องเลือกชำระด้วย Heal movies...

ในโลกของการตลาดยุคใหม่ ที่มิลเลนเนียมกลายเป็น "เรื่องเก่า" ไปแล้วนั้น สินค้าต่างๆ แยกตัวเองแบบ "ยิบย่อย" ยิ่งกว่า Specific ยิ่งกว่าเมล็ดรากสายพันธุ์ ที่แตกตัวลงไป  

หนังก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น - มันมีแนวทางเกิดขึ้นใหม่ๆ มากมาย แต่ไม่ได้ไปต่อก็เยอะ กรณีนี้ ก็เช่นเดียวกับงานกลุ่ม Heal movies ที่เกิดขึ้นมาในช่วง 5 ปีหลัง

Heal movies มักเกี่ยวกับแง่มุมดีทอกซ์จิตใจและร่างกาย เพราะสารพิษชีวิตนอกบ้านนั้นท่วมถนน ท่วมออฟฟิศ และบางทีก็ไหลเข้าบ้านเราเอง ผ่านความขัดแย้งทางจิตใจความคิด (กรณีการเมือง สามสี ก็น่าจะนับรวมเข้าไป ต่างเจน ต่างยุค ต่างคิด ต่างมอง) แน่นอนว่าหนังญี่ปุ่นอย่าง Side by Side ก็จัดอยู่ใน Heal movies ในทางหนึ่ง

...

ก่อนจะไปคุยถึง Side by Side - มีหนังดีๆ กลุ่มนี้ออกมา "จำนวนหนึ่ง" ไม่ว่าจะเป็น Heal ปี 2017 หรือซีรีส์ Heal and Mind ปี 2013

มิยามะ (เคนทาโร่ ซาคากุจิ) ใน Side by Side คล้ายๆ ตัวหลักหรือตัวเดินเรื่องหลัก (protagonist) ที่พาคนดูไปพบกับ "ผู้ป่วย" ทางจิตใจหลายๆ แบบ

"มิยะมะ" มีพลังพิเศษ ที่จะสัมผัสล่วงรู้ได้ถึง "ความทรมานทางใจ" ของคนทั่วๆ ไป เช่น การที่ใครคนหนึ่ง โดนทอดทิ้งและตกค้างในอดีต หรือใครที่กำลังบาดเจ็บจากความสัมพันธ์ มิยะมะ ก็จะเข้าไปช่วยเหลือ และทำให้พวกเขารู้สึก "สบายขึ้น"

หนังมีฉากคล้ายๆ illusion เพื่อสะท้อนถึงภาวะกึ่งจริงกึ่งหลอน เพื่อบ่งบอกถึงสภาพจิตใจ มีการใช้กล้องแบบมุมอับ สะท้อนถึงการถูกกดทับจากอดีต จากโรค และจากความทรงจำที่ตามหลอน

ภายหลังพาตัวเองเข้าไปช่วยเหลือ ใครต่อใครหลายคน มิยะมะ ก็ถูกอดีตตามมาเล่นงานเสียเอง ทีนี้ ที่ฮีลคนนั้นคนนี้ ก็ถึงเวลาไถ่ถอนตัวเอง (atonement)

ผมสังเกตเห็นว่า น้ำหนักหลักๆ ของฉากต่างๆ ตกอยู่การจัดแสงที่เรียกว่า low key เยอะมาก การจัดไลต์ติ้งแบบนี้ สะท้อนถึง "มุมมืด" หรือสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ ตัวละครหลายคน โดนความหลังที่ไม่ดี "ครอบงำ" และบางทีก็เคลื่อนตัวเชื่องช้า ราวกับถูก "ปิศาจสิงร่าง" 

แซม เมนเดส เคยใช้แนวทางนี้กับ American Beauty ในปี 2000 ก่อนจะให้ เบิร์นแฮม ทำการฮีลตัวเอง ด้วยการปลดปล่อยตัวเอง (เขาถูกภรรยายิงตาย แต่ศพนั้นยิ้ม...)

...

Side by Side เด่นที่เนื้อหา แม้ว่าการมีพลังพิเศษจะทำให้หนังดูเบาลงไป ในแง่เหตุผลและน้ำหนัก นักแสดงก็เล่นหลายคน โดยเฉพาะการแสดงที่น้อย เล่นให้น้อย เพื่อเข้ากับแนวทางของ Heal movies สิ่งหนึ่งที่หนังทิ้งไว้ให้เราขบคิดตีความคือ ท่ามกลางเทรนด์และการตลาด ที่เราเที่ยวไป ฮีลคนนั้นคนนี้ 

เรานั้น กำลังเจ็บป่วยอยู่ข้างใน เหมือนตัวเอกของ Side by Side อยู่หรือเปล่า? ...ขอต้อนรับเข้าสู่ยุคสมัยของ Heal เริ่มจากหนังเรื่องนี้ 

อ่านบทความ “นันทขว้าง สิรสุนทร” เพิ่มเติม :