“อี ซูมาน (Lee Soo man) จะไม่มีสิทธิในการบริหารหรือการผลิตผลงานเพลง และจะไม่ได้รับค่าลิขสิทธิ์อีกต่อไป” พัค จีวอน (Park Ji-won) CEO ของ HYBE Corporation ประกาศถึงความชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของ "The Godfather of K-pop" เป็นครั้งแรก หลัง HYBE ประกาศว่าสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการซื้อหุ้น 14.8% ของ SM Entertainment จากอดีตผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์กับพนักงานของ HYBE วานนี้ (13 ก.พ. 23)

อี ซูมาน (Lee Soo man) ผู้ร่วมก่อตั้ง SM Entertainment (กลาง)
อี ซูมาน (Lee Soo man) ผู้ร่วมก่อตั้ง SM Entertainment (กลาง)

ขณะเดียวกัน CEO ของ HYBE ยังได้กล่าวถึงอนาคตของ SM Entertainment ที่กำลังก้าวเข้าสู่การควบรวมกิจการที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าวงการ K-POP ในอนาคตเอาไว้ว่า...

...

“เราให้ความเคารพต่อมรดกทางดนตรีของ SM Entertainment และ HYBE จะรับประกันความเป็นอิสระของ SM Entertainment พร้อมกับจะช่วยรักษาและขยายมูลค่ากิจการให้กว้างไกลออกไป และเสาหลักของอุตสาหกรรม K-POP (HYBE และ SM) จะได้รับประโยชน์จากผลของการทำงานร่วมกันในครั้งนี้”

อย่างไรก็ดี คำประกาศที่ราวกับว่า HYBE Corporation กำลังจะกลายเป็นผู้ชนะในสงครามการยื้อแย่ง SM Entertainment กับ กลุ่มผู้บริหาร SM ที่เป็นขั้วตรงข้ามกับ “อี ซูมาน” และ พันธมิตร KaKao Corp. จะได้ผลสรุปเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่นั้น...จนถึงวันนี้ บรรดานักวิเคราะห์ยังไม่มีใครที่กล้าฟันธงได้อย่างชัดเจน เนื่องจากยังมีทั้งขั้นตอนการพิจารณาของศาลในประเด็นที่ “อี ซูมาน” ยื่นคำร้องให้พิจารณาการซื้อหุ้น SM Entertainment ในสัดส่วน 9.05% ให้เป็น “โมฆะ” รวมไปจนกระทั่งถึงการไล่ซื้อหุ้นในมือผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างดุเดือดระหว่าง HYPE และ KaKao Corp. เพื่อแย่งชิงสิทธิในการบริหาร ก่อนที่จะถึงวันประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นครั้งต่อไปในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

ฉะนั้น “อะไรๆ ย่อมสามารถเกิดขึ้นได้” แม้ว่าจนถึงตอนนี้ HYPE ดูจะเป็นฝ่ายได้เปรียบในแง่มีสัดส่วนหุ้นในมือมากกว่าฝ่ายตรงข้ามก็ตาม!

“บัง ชีฮยอก” (Bang Si hyuk) เจ้าของบริษัท HYBE Corporation
“บัง ชีฮยอก” (Bang Si hyuk) เจ้าของบริษัท HYBE Corporation

พันธมิตร HYBE-SM :

หากการควบรวมกิจการระหว่าง HYBE และ SM เกิดขึ้นจริง แม้ในด้านหนึ่งอาจทำให้ ทั้ง 2 บริษัทมีขนาดใหญ่โตในตลาดนอกประเทศเกาหลีใต้ ในระดับลีกเดียวกับ 3 บริษัทดนตรียักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Sony, Universal และ Waner Music แต่ในอีกด้านหนึ่งนักวิเคราะห์ในเกาหลีใต้ มองว่า การควบรวมดังกล่าวอาจกลายเป็นการ “ผูกขาด” วงการ K-POP มากเกินไป จนทำให้ “ความหลากหลาย” ในการผลิตผลงานเพลงอาจลดน้อยถอยลง

...

นอกจากนี้ หาก HYBE ไม่สามารถกลายเป็น “ผู้ชนะที่เด็ดขาด” ในสงครามแย่งชิง SM Entertainment ในบั้นปลายได้ “ความยุ่งเหยิง” ที่จะเกิดขึ้นจากความขัดแย้งภายใน อาจทำให้ทั้งการผลิตผลงานเพลง รวมถึงกำลังใจของบรรดาศิลปินในค่าย “ลดน้อยถอยลงตามลำดับได้อีกเช่นกัน”

การควบรวมที่ต้องทั้งสมดุลและปรองดอง :

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า HYBE และ SM มีความโดดเด่นเฉพาะตัวในการสร้างผลงานเพลงในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึงมองว่า การควบรวมครั้งนี้ควรจะต้องดำเนินไปในแบบการสร้างความสมดุล และแสวงหาความปรองดองระหว่างกันและกัน

นั่นคือ...ข้อแรกควรให้ “อิสระ” กับ SM เรื่องการสร้างผลงานเพลงในแบบฉบับของตัวเองต่อไป ในขณะที่ HYBE ควรจะมีหน้าที่หลักในการดูแลเรื่องการจัดจำหน่ายและการทำการตลาด โดยเฉพาะในตลาดอเมริกาเหนือ ซึ่ง HYBE สามารถวางรากฐานเอาไว้ได้อย่างแข็งแรงเพื่อขยายขอบข่าย K-POP ให้กว้างไกลออกไปมากกว่าเดิม

...

ส่วนในประเด็นเรื่องการแสวงหาความปรองดองในการควบรวมกิจการนั้น เป็นเพราะประเด็นสำคัญที่ต้องไม่ลืม คือ K-POP เป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย “แฟนคลับ” เป็นสำคัญ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ “ความเปลี่ยนแปลงใดๆ” หลังจากการควบรวมกิจการ จะต้องไม่กระทบต่อจิตใจของเหล่าแฟนคลับมากเกินไปด้วย

ส่องอาณาจักร HYBE Corporation และ SM Entertainment :

HYBE Corporation :

Market Cap. : 8.1 ล้านล้านวอน

ผู้ถือหุ้นใหญ่ : “บัง ชีฮยอก” (Bang Si hyuk) ผู้ก่อตั้ง 31.80%, Netmarble (บริษัทผู้พัฒนาเกมมือถือเกาหลีใต้) 18.21%, National Pension Service (กองทุนบำเหน็จบำนาญของเกาหลีใต้) 6.62%, Dunamu Inc. (บริษัทฟินเทคของเกาหลีใต้) 5.57%

รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2022 :

...

รายได้ : 445,499 ล้านวอน (+30.6% YoY) กำไรสุทธิ : 94,924 ล้านวอน (+91% YoY) โดยในจำนวนนี้เป็น ยอดขาย Albums : 129,198 ล้านวอน : และรายได้จากการแสดงคอนเสิร์ต : 47,232 ล้านวอน

สำหรับ New Artists Highlights ปี 2023 ของบริษัท คือ Le Sserafim , Newjeans และ &TEAM

SM Entertainment :

Market Cap. : 2.7 ล้านล้านวอน

ผู้ถือหุ้นใหญ่ (ก่อนสงครามระหว่าง HYBE และ KaKao) : “อี ซูมาน” (Lee Soo man) ผู้ร่วมก่อตั้ง 18.45%, National Pension Service (กองทุนบำเหน็จบำนาญของเกาหลีใต้) 8.96%

แผนงานปี 2023 : มีกำหนดปล่อย 40 อัลบั้มในปี 2023 โดยแยกเป็นการเปิดตัว 7 อัลบั้มในไตรมาสแรกของปีนี้, ส่วนไตรมาส 2 และ 3 จะมีการเปิดตัวรวม 24 อัลบั้ม และไตรมาส 4 เปิดตัวอีกรวม 10 อัลบั้ม

รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2022

รายได้ : 238,100 ล้านวอน (+65.4% YoY) : กำไรสุทธิ : 29,200 ล้านวอน (+129.5% YoY) โดยในจำนวนนี้เป็นยอดขาย Albums : 72,000 ล้านวอน และรายได้จากการแสดงคอนเสิร์ต : 10,900 ล้านวอน

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง