จากภาพยนตร์สารพัดปัญหารุมเร้า ไม่ว่าจะทั้งเกือบสร้างไม่เสร็จ เปลี่ยนผู้กำกับ ถ่ายซ่อม ปรับโทนเนื้อหา และเสียงติเตียนเปรอะไปทั่วทั้งเรื่อง ทำไมแบทแมนพุงพลุ้ย หนวดของซุปเปอร์แมน หรือหนังเรื่องนี้ CG มันยังทำไม่เสร็จแน่ๆ และแน่นอนทำเงินได้น้อยไปหน่อยนะ (ทุนสร้าง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำเงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) สู่การทำใหม่ให้มีความยาวถึง 4 ชั่วโมง เพื่อนำมาลงให้กับ HBO Max

ใช่แล้ว! ภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ Zack Snyder's Justice League ที่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมชุดใหญ่ขึ้นทั่วโลก พร้อมๆ กับคำถามที่ว่า "ดูหนังเรื่องนี้แล้วหรือยัง?"

มันคงมีไม่บ่อยนักหรอกนะ ที่จะมีภาพยนตร์สักเรื่องที่ตอนลงโรงเกิดกระแสน้อยกว่าตอนที่ถูกนำมาปล่อยใน "สตรีมมิง" ในอีก 4 ปีต่อมา

ว่าแต่...ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจาก Zack Snyder's Justice League มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างนะ รวมถึงมันได้สร้างแรงกระเพื่อมให้กับธุรกิจสตรีมมิงมากน้อยแค่ไหน เชิญเหวี่ยงสายตาลงไปอ่านในบรรทัดต่อๆ ไปกันดู

Zack Snyder's Justice League กับคู่แข่ง

...

จากข้อมูลการทำธุรกรรมของบรรดาผู้ใช้บริการซึ่งสามารถระบุได้ถึงข้อมูลวันที่สมัคร ยกเลิก หรือเปลี่ยนการใช้บริการกับบรรดาผู้ให้บริการธุรกิจสตรีมมิงในประเทศสหรัฐอเมริกาของ ANTENNA พบว่า Zack Snyder's Justice League ทำให้ HBO Max มีผู้สมัครใช้งานเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 18 มีนาคม - 21 มีนาคม ถึง 2.3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

นอกจากนี้ หากนำไปเปรียบเทียบกับบรรดาภาพยนตร์ หรือซีรีส์ฟอร์มใหญ่จากค่ายสตรีมมิงอื่นๆ ที่เปิดตัวรอบพรีเมียร์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน อย่าง The Little Things, Judas & The Black Messiah, Tom & Jerry ก็พบว่า Zack Snyder's Justice League สามารถเย้ายวนใจให้คนยอมกดสมัครใช้บริการได้มากกว่า ภายในช่วงระยะเวลา 4 วันหลังการเปิดตัว (18 มีนาคม - 21 มีนาคม) ด้วย

อ่อ...เกือบลืมบอกไป จำนวนผู้กดสมัครใช้บริการในช่วงเวลา 4 วันของการเปิดตัว ตามที่บอกไปในบรรทัดด้านบนของ Zack Snyder's Justice League ยังสูงกว่าการเปิดตัวของมหึมาซีรีส์สงครามอวกาศ อย่าง The Mandalorian Season 2 หนึ่งในแฟรนไชส์ของสตาร์วอร์ส จากค่าย Disney+ (30 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2020) อีกด้วยนะรู้ยัง!

อ่านๆ ดูผิวเผินจากตัวเลขที่เห็นไปในบรรทัดด้านบน อาจจะดูเหมือนว่า Zack Snyder's Justice League น่าจะทำให้ HBO Max ไปได้สวยใช่ไหม?

แต่ในความเป็นจริง คือ สงครามสตรีมมิงในยุคปัจจุบันไม่อาจมองเพียงยอดที่พุ่งขึ้นราวกับพลุไฟก่อนที่จะสูญสลายหายไปในอากาศได้เพียงด้านเดียว เพราะปัจจัยสำคัญของธุรกิจนี้ คือ หลังการยิงด้วยคอนเทนต์ไม้ตายก้นหีบไปแล้ว เมื่อผ่านไป 1 เดือน หรือเมื่อโปรโมชันดูฟรีสิ้นสุดลง จะยังเหลือจำนวนสมาชิกที่จะยอมกัดฟัน "จ่ายเงิน" เท่าไร? นั่นต่างหากคือประเด็นสำคัญ!

อย่างไรก็ดี HBO Max น่าจะพอ "อบอุ่นหัวใจ" ได้พอสมควร เพราะการที่ "Wonder Woman 1984" ภาพยนตร์ร่วมจักรวาล DC Extended Universe (DCEU) ของ Zack Snyder's Justice League นอกจากจะเปิดตัวรอบพรีเมียร์ (25 ธันวาคม 2020) เรียก "ยอดผู้สมัครใหม่" ให้กับ HBO Max ได้อย่างสวยหรู แถมยังมากกว่าสถิติที่ Zack Snyder's Justice League ทำได้แล้ว

เสน่ห์อันเย้ายวนของ กัล กาโดต์ (Ga Gadot) ในบท ไดอาน่า ปรินซ์ (Diana Prince) ยังทำให้ อัตราผู้ยอมจ่ายเงินของ HBO Max ในช่วงครึ่งปีหลังของ ปี 2020 คงอยู่ในระดับที่น่าพอใจด้วย ซึ่งน่าจะมีเหตุผลสำคัญมาจากความต้องการเสพเนื้อหาในจักรวาล DCEU เป็นหลัก

Zack Snyder's Justice League กับการหาสมาชิกให้ HBO Max

จากข้อมูลสถิติในปัจจุบันพบว่า สมาชิก Disney+ ถึง 69% ที่เข้าร่วมในเดือนมิถุนายน ปี 2020 ยอมจ่ายเงินเป็นสมาชิกต่อในอีก 3 เดือนต่อมา ในขณะที่ของ HBO Max อยู่ที่ 70% และ Netflix อยู่ที่ 77% ในช่วงเวลาเดียวกัน

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ สื่อบันเทิงชื่อดังอย่าง Variety รายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้วอร์เนอร์บราเธอส์ (Warner Bros.) ยอมตัดใจนำภาพยนตร์ที่รอลงโรงจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าน่าจะทำรายได้รวมไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ย้ายไปลงสตรีมมิงให้กับ HBO Max ในปี 2021 นี้

...

ซึ่งประเด็นนี้ ทำให้เว็บไซต์ไอทีชื่อดังอย่าง Stratechery ได้วิเคราะห์เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ปัจจุบัน HBO Max สามารถทำรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 12 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 144 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคนต่อปี ซึ่งนั่นจะเท่ากับว่า HBO Max จะต้องหาทางเพิ่มสมาชิกใหม่ (ที่ยอมจ่ายเงิน) อีกอย่างน้อยถึง 8.3 ล้าน Subscribers จึงจะสามารถถมช่องว่างรายได้ที่หายไปของ วอร์เนอร์บราเธอส์ ได้

...

อย่างไรก็ดี วอร์เนอร์บราเธอส์ยังคงมองทิศทางการหารายได้จากธุรกิจสตรีมมิง เอาไว้ในแง่บวกมากๆ โดยเห็นได้จากล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ปรับเป้าหมายประมาณการยอดสมาชิกของ HBO Max จาก 75-90 ล้าน Subscribers ไปเป็น 120-150 ล้าน Subscribers ภายในปี 2025 ซึ่งสอดคล้องกับทัศนะของบรรดานักลงทุนจากวอลสตรีทที่เชื่อมั่นในศักยภาพการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอของธุรกิจบอกรับสมาชิกที่สุดร้อนแรงในเวลานี้

และนี่อาจคือ หนึ่งในเหตุผลที่ว่า ทำไมวอร์เนอร์บราเธอส์จึงยอมให้ Zack Snyder กลับมาทำ Justice League อีกครั้ง สำหรับลง HBO Max!

Zack Snyder's Justice League กับสมาร์ทโฟน

Apptopia บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลจากแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน ที่รวบรวมข้อมูลทั้งการ Download App และรายได้จากการซื้อขายใน App รายวันของบรรดาผู้ใช้สมาร์ทโฟน พบว่า มีการ Download App HBO Max บนสมาร์ทโฟนถึง 1.48 ล้านครั้ง ในช่วง 1 สัปดาห์ หลังจากฉายรอบพรีเมียร์ของ Zack Snyder's Justice League ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้น 64% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าที่ยังไร้เงาขบวนการฮีโร่จาก DC

ในขณะที่ Disney+ มียอด Download ใหม่บนสมาร์ทโฟน เพียง 831,000 ครั้ง หรือเพิ่มขึ้นเพียง 8.9% ในช่วงสัปดาห์ที่มีซีรีส์เรียกแขก 2 ตอนแรก อย่าง The Falcon and the Winter Soldier ฉายรอบพรีเมียร์

นอกจากนี้ ตามรายงานของ Apptopia ยังพบว่า HBO Max กลายเป็น App ที่มียอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ในสมาร์ทโฟนเป็นลำดับที่ 2 ในช่วงสัปดาห์ที่ Zack Snyder's Justice League ออกฉาย โดยมียอดเปิด App สูงถึง 119.1 ล้านครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งถือเป็น Engagement ลำดับที่ 2 ต่อจาก App Netflix ที่มี Engagement 838.8 ล้านครั้ง ในขณะที่ Disney+ มี Engagement เพียง 69.7 ล้านครั้งเท่านั้น!

...

จากข้อมูลของ TV Time แอปฯ ที่ใช้สำหรับการติดตาม ค้นหา และแจ้งเตือน การออกอากาศของซีรีส์และภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ รวมถึงผู้ให้บริการสตรีมมิงค่ายต่างๆ ซึ่งมีผู้ใช้งานเกิน 1 ล้านคนต่อวัน พบว่า Zack Snyder's Justice League เป็นภาพยนตร์ที่มีผู้ชมสูงสุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีคนดูคิดเป็น 7.6% ของจำนวนภาพยนตร์ทุกเรื่อง ทั้งที่เปิดตัวและอยู่ในโปรแกรมก่อนหน้านี้ ในระหว่างการออกอากาศช่วงสุดสัปดาห์ 18-21 มีนาคม 2021 ในขณะที่ อันดับที่ 2 คือ Yes Day! ภาพยนตร์ ที่นำทีมโดย เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ (Jennifer Garner) ของ Netflix

แต่เดี๋ยวก่อนนะ...แม้ตามการจัดอันดับที่ว่านี้ Yes Day! จะได้ลำดับที่ 2 แต่ทาง Netflix ออกมาแย้งว่า มียอดวิวทะลุ 53 ล้านวิว ภายในเวลาเพียง 1 เดือน นับตั้งแต่เปิดรอบพรีเมียร์ (นะจ๊ะ) ฉะนั้น การจัดลำดับของ แอปฯ เพียงแอปฯ เดียว จึงเป็นเรื่องที่บ่งบอกถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง

ว่าแต่...53 ล้านวิว ภายใน 1 เดือนที่ว่านี้ จำนวนสมาชิกทั้งหมดของ Netflix มีเท่าไรกันหนอ? Oops!

ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ด้วยนั่นแหละ ทาง Amazon Prime Video จึงต้องออกมาบลัฟกลับว่า Coming 2 America หนังภาคต่อของ เอ็ดดี้ เมอร์ฟี (Eddie Murphy) ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 3 ตามลิสต์ของ TV Time นั้น แท้ที่จริงแล้ว มันคือ ภาพยนตร์สตรีมมิงอันดับหนึ่งที่เปิดตัวในช่วงสุดสัปดาห์ (เปิดรอบพรีเมียร์ 5-7 มีนาคม 2021) รวมถึงอันดับหนึ่งของหนังสตรีมมิงทุกเรื่องที่เปิดตัวช่วงสุดสัปดาห์ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมานี้ (ต่างหาก) โดยอ้างข้อมูลของ Screen Engine/ASI บริษัทวิจัยข้อมูลทางการตลาดในอุตสาหกรรมบันเทิงมายืนยัน

อืม...แต่เดี๋ยวก่อนนะ....ที่ผ่านมา Screen Engine/ASI ไม่เคยเปิดเผยจำนวนผู้ชมที่ทำการสำรวจ เพื่อนำมาจัดทำข้อมูลเรตติ้งที่ว่านี้เลยน่ะสิ เช่นเดียวกับการรายงานเรตติ้งทีวีอันลึกลับซับซ้อนของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศหนึ่งที่ไม่เคยเปิดเผยที่มาของข้อมูลเช่นเดียวกัน Oops!

ฉะนั้น ก็เอาเป็นว่า หากอ้างอิงข้อมูลของ TV Time ดั่งที่ว่าไป Zack Snyder's Justice League ก็คืออันดับหนึ่ง! (แล้วกัน)

Zack Snyder's Justice League กับ Google Trends

แม้ว่า Google Trends จะไม่ใช่การให้คะแนนการรับชมภาพยนตร์ไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม แต่ ณ ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า มันคือ ปริมาณการค้นหาในอินเทอร์เน็ต คือ ภาพสะท้อนความสนใจของคนในสังคมต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ณ ช่วงเวลา นั้นๆ

ซึ่งจากข้อมูลของ Google Trends เห็นได้ชัดว่า ปริมาณการค้นหาทั้ง "Justice League" "Snyder Cut" และ "Zack Snyder’s Justice League" (เพื่อให้ครอบคลุมภาพยนตร์ความยาว 4 ชั่วโมงเรื่องนี้) พบว่า Zack Snyder's Justice League อยู่เกาะกลุ่มเดียวกับ Coming 2 America ของ Amazon Prime Video และมากกว่า รายากับมังกรตัวสุดท้าย (Raya and the Last Dragon) ของ Disney+ แต่ยังคงแพ้ให้กับอัศจรรย์วิญญาณอลเวง (Soul) ของค่ายพิกซาร์ (Pixar) รวมถึง อืม...Wonder Woman 1984 ด้วยนะ

Zack Snyder's Justice League กับ สมาร์ททีวี

Samba TV บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลโฆษณาทุกแพลตฟอร์มและวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเก็บข้อมูลการรับชมบนสมาร์ททีวี (Smart TV) ผ่านเทคโนโลยีการจดจำเนื้อหาอัตโนมัติ (Automatic Content Recognition หรือ ACR) เพื่อนำมา "คาดการณ์" จำนวนผู้ชมโทรทัศน์ในระดับครัวเรือนของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า แอปฯ HBO Max ถูก Download บนสมาร์ททีวี ถึง 3.1 ล้านครั้ง ภายในช่วงระยะเวลา 1 เดือน

และจากข้อมูลของ Samba TV อีกเช่นกัน รายงานว่า มีจำนวนครัวเรือนในสหรัฐฯ ที่รับชม ภาพยนตร์ Zack Snyder's Justice League ประมาณ 1.8 ล้านครัวเรือน เป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาที บนแอปฯ HBO Max ในช่วงสุดสัปดาห์ของรอบพรีเมียร์

ซึ่งถือว่า...เป็นระยะเวลาการรับชมคอนเทนต์ที่ "นานกว่า" ค่าเฉลี่ยมาตรฐานในการรับชมคอนเทนต์ ของ Netflix ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2 นาที

ว่าแต่...Zack Snyder's Justice League มันยาวถึง 4 ชั่วโมงไม่ใช่หรือ? Oops!

แต่เอาเถอะ! เราไปดูการจัดลำดับการรับชมภาพยนตร์บนสมาร์ททีวีในช่วงสุดสัปดาห์ของชาวสหรัฐฯ ที่ Samba TV ได้จัดทำมากันดีกว่า

อันดับที่ 1 Soul (Disney+) 2.4 ล้านครัวเรือน
อันดับที่ 2 Wonder Woman 1984 (HBO Max) 2.2 ล้านครัวเรือน
อันดับที่ 3 Zack Snyder's Justice League (HBO Max) 1.8 ล้านครัวเรือน
อันดับที่ 4 The Falcon and The Winter Soldier (Disney+) 1.7 ล้านครัวเรือน
อันดับที่ 5 Wanda Vision (Disney+) 1.6 ล้านครัวเรือน

อย่างไรก็ดี หลังผ่านไป 1 สัปดาห์หลังการเปิดตัว Samba TV พบสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับความยาวของภาพยนตร์ 4 ชั่วโมงเรื่องนี้ว่า จำนวนผู้ชมทางโทรทัศน์เฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 400,000 ครัวเรือน ซึ่งน้อยกว่า ค่าเฉลี่ยของ Wonder Woman 1984 ซึ่งอยู่ที่ 800,000 ครัวเรือน และมีเพียงแค่ 36% ของครัวเรือนในสหรัฐฯ (792,000 ครัวเรือน) เท่านั้น ที่รับชม Zack Snyder's Justice League ความยาว 4 ชั่วโมงนี้ จนจบ!

ว่าแต่...อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว "คุณ" ดู Zack Snyder's Justice League ความยาว 4 ชั่วโมง จบแล้วหรือยัง? หรือถ้าหากดูจบแล้ว "คุณ" ดูแบบรวดเดียวจบ หรือค่อยๆ ทยอยดูทีละเล็กละน้อยกัน?

บทสรุปสำหรับ Zack Snyder's Justice League

แม้ว่า Zack Snyder's Justice League จะสามารถทำสถิติได้น่าพอใจ ดั่งข้อมูลตามที่ได้ร่ายยาวมามากมายด้านบน แต่บรรดานักวิเคราะห์มองเห็นเหมือนๆ กันว่า แม้มันจะสามารถ "สร้างปรากฏการณ์" ได้ในระดับหนึ่ง แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ คือ ยอดการรับชมของมัน "ตกลง" จาก "จุดสูงสุด" เมื่อตอนเปิดตัวอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น

ในขณะที่ธุรกิจคอนเทนต์ต้องการสร้างกระแสในระยะยาว ที่ถึงขั้นทำให้ ลูกค้า ยอมตัดใจ จ่ายเงินสมัครสมาชิกในเดือนต่อไป และต่อๆ ไป ในระยะยาวๆ มากกว่า

ฉะนั้น หลังจากนี้ คงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดกันต่อไปว่ากระแสที่เกิดขึ้นกับ Zack Snyder's Justice League มันจะยังคงยาวนานได้อีกต่อไปมากน้อยแค่ไหน?

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก: เทพอมร แสงธรรมาพิทักษ์

ข่าวน่าสนใจ: