เทคโนโลยีการถ่ายรูปปัจจุบัน ถือว่า “ล้ำ” ไปไกลมาก อยากได้ภาพแนวไหน ใส่ลูกเล่นอะไร สามารถทำได้หมด นี่จึงเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ ที่มีของเล่นให้เล่นมากมาย เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนในมือเครื่องเดียว
ในวันว่างของผู้เขียน มีโอกาสแวบผ่านย่านอารีย์ และไปเจอสถานที่สุดชิค แหล่งท่องเที่ยวเล็กๆ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ คล้ายกับ Santorini ที่น่าสะดุดตาคือ ที่นี่เราจะพบเด็กวัยรุ่น หนุ่มสาวมัธยมยันมหาวิทยาลัย แต่งตัวเท่ๆ แนวๆ มารวมตัวกัน
บ้างมาเป็นกลุ่ม บ้างมาเป็นคู่ เมื่อสอดส่ายสายตาก็จะเห็นว่า หญิงชายเหล่านี้ต่างหามุมสวยๆ ถ่ายรูปกัน แถมภายในยังมีให้เช่ากล้อง “โพลารอยด์” ให้บริการด้วย
แต่ที่โดดเด่นเป็นสง่า คือ แถวที่ต่อยาวเรียงรายจนเกือบไปถึงถนน สิ่งนี้เองมันคือเครื่องยืนยันได้ว่า “วัยรุ่นยุคนี้” กำลังฮิต สิ่งที่ทุกคนอดทนรอเป็นชั่วโมงเพื่อจะได้ใช้บริการคือ “ตู้สติกเกอร์”
...
ภาพสมัยตัวเองวัยรุ่นราว 20 ปีก่อน flashback กลับมา ซึ่งสมัยนั้นผู้เขียนยังใช้กล้องฟิล์มถ่ายรูป ไปหมกตัวอยู่ตามร้านตู้เกม และไปเที่ยวถ่ายรูป “สติกเกอร์” กับเพื่อนๆ
รู้ไหมว่าต้นกำเนิดตู้สติกเกอร์มาจากไหน คงต้องย้อนกลับไปยุค 90 ในปี 1995 หรือ เมื่อ 26 ปีก่อน ตู้สติกเกอร์เครื่องแรกได้ถือกำเนิดขึ้นที่แดนอาทิตย์อุทัย
โดยก่อนหน้านั้น 1 ปี หรือ 1994 "ซาซากิ มิโฮะ" ลูกจ้างสาวคนหนึ่งของบริษัท Atlus ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเกม ได้ปิ๊งไอเดียคิดตู้สติกเกอร์ PURIKURA ขึ้น จากการคิดว่าถ้าการถ่ายรูป สามารถทำเป็นสติกเกอร์ได้ มันจะดีแค่ไหนนะ แต่เมื่อมาเสนอไอเดียกับทางบริษัท กลับถูกตีตกไป แต่แล้วสักพักผู้บริหารเปลี่ยนใจนำไอเดียนี้มาทำในปีถัดมา
ตู้สติกเกอร์สุดจ๊าบ (คำฮิตวัยรุ่นยุค 90) กลายเป็นสิ่งที่วัยรุ่นยุคนั้นถวิลหา.. ใครจะคาดคิดว่า สิ่งบันเทิงที่ใช้เพื่อ "ฆ่าเวลา" จะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหมู่นักเรียนหญิงและวัยรุ่นสาวๆ ที่มักแลกเปลี่ยนภาพสติกเกอร์ มาตกแต่งในสมุดไดอารี
การมาของ “คอสเพลย์” กับ “พุริคุระ”
"ตู้สติกเกอร์" รุ่นแรกทำได้เพียงการถ่ายภาพแบบง่ายๆ โดยมันจะตั้งอยู่ตามศูนย์เกม สวนสนุก ช็อปปิงมอล์ และสถานีรถไฟทั่วประเทศ และที่รู้จักกันดี คือ ถนนสายช็อปปิ้งชื่อดัง “ทาเคชิตะ” (Takeshita-dori) ที่รู้จักกันดีว่าเป็นศูนย์กลางวัยรุ่น “ฮาราจูกุ” (Harajuku) ซึ่งมีร้านค้าชื่อ 'พุริคุระ แลนด์ โนอา' (Purikura Land Noa) เป็นแหล่งรวม "ตู้สติกเกอร์" โดยเฉพาะ มีมากกว่า 25 เครื่อง แถมยังมีห้องให้แต่งตัวและแต่งหน้าได้ด้วย เพราะแบบนี้เองจึงเป็นแรงดึงดูดให้เด็กนักเรียนสาวๆ และคู่รักวัยรุ่นมาใช้บริการ โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดเทศกาลต่างๆ
และแน่นอน...มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการผสมผสานกันระหว่าง “คอสเพลย์” (Cosplay) ซึ่งบางร้านก็ให้บริการยืมชุด จึงเป็นที่มาของชื่อที่เรียกรวมกันว่า “โคะซุพุริ” (Kosupuri) ซึ่งบางร้านไม่ให้ผู้ชายเข้าใช้บริการด้วยนะจ๊ะ เพราะเขาเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย
ตู้สติกเกอร์พุริคุระ ในปัจจุบัน ถูกพัฒนาไปจากเดิมมาก ตู้สติกเกอร์รุ่นแรกๆ เพิ่มสีสันได้แค่เติมกรอบรูป หรือ คนดัง เหมือนกับว่าเราได้ถ่ายภาพคู่กับคนที่ชื่นชอบ แต่ตู้สติกเกอร์ยุคนี้มัน “อลังการ” กว่านั้นเยอะ เรียกว่าเติมเต็มจินตนาการได้หมด คงไม่อาจสาธยายได้หมด
...
สำหรับราคาการใช้บริการ ตู้สติกเกอร์ในญี่ปุ่น ถือว่าใกล้เคียงกับของไทย คือ 200-400 เยน หรือประมาณ 57-114 บาท (*อัตราแลกเปลี่ยน 0.29 บาท/เยน; 2564, 15 ก.พ.) ส่วนของไทย ราคา 100 บาท ตามที่จะเลือกได้ 2 แบบ รูปเล็ก รูปใหญ่ ถ่ายได้ 3-4 แอ็กชัน โดย 3 แอ็กชัน ได้ 2 ใบ 4 แอ็คชัน 1 ใบ
นอกจากนี้ ผู้เขียนยังได้เข้าไปพูดคุยกับสาวๆ ที่ต่อแถวเป็นชั่วโมงเพื่อถ่ายภาพกับตู้สติกเกอร์ ที่สถานที่เที่ยวสุดฮิตย่านอารีย์ โดยพวกเธอบอกกับผู้เขียนว่า สาเหตุที่กลับมาฮิตการถ่ายสติกเกอร์อีกครั้ง อาจจะมาจากกระแสการถ่ายรูปโพลารอยด์ นอกจากนี้ ยังมีการรีวิวและพูดถึงในโลกทวิตเตอร์ และได้พบเห็นในงานเทศกาลต่างๆ
กลุ่มวัยรุ่นสาวๆ วัย 18-19 ปี กลุ่มหนึ่ง บอกความรู้สึกกับผู้เขียนว่า ถึงแม้โทรศัพท์จะสามารถถ่ายรูปและแต่งรูปได้สวยงามตามปกติแล้ว แต่ที่มาถ่ายเพราะถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ถ่าย
“ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ในกล่องอะไรสักอย่าง ช่วงที่ถ่ายข้างในก็รู้สึกสนุกดี เหมือนกับมันจำกัดเวลา พอเรากดถ่ายปุ๊บ มันก็จะเริ่มแบบ 3 แอ็กต่อกันเลย มันก็จะได้รูปแบบบ้าๆ บอๆ หรือเผลอๆ หน่อย คิดว่าถ้าเจอตู้สติกเกอร์อีกก็คงถ่ายอีก แต่คงไม่ถ่ายบ่อย”
...
ในขณะที่กลุ่มสาวๆ อีกกลุ่มหนึ่ง อายุ 23-25 ปี บอกความรู้สึกว่า การถ่ายสติกเกอร์ มันเหมือนกับการเก็บภาพเป็นความทรงจำ ถามว่าต่างกับการถ่ายกล้องมือถือไหม ก็คงไม่ต่าง แต่ภาพมันน่ารัก น่าสะสมเก็บไว้
“เรียกว่าถ่ายครั้งแรกในชีวิตเลย แม้จะเคยเห็นมาบ้างตอนเด็กๆ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปถ่าย พอไปถ่ายแล้วรู้สึกเบียดเสียดกัน แต่ก็สนุกมาก ที่สำคัญคือ มันดูยุค 90 ดี” กลุ่มสาวๆ หัวเราะเสียงดังอย่างสนุกสนาน
ตู้สติกเกอร์ ถือเป็นเทรนด์ฮิตอย่างหนึ่งของวัยรุ่นยุคนี้ และความรู้สึกที่ได้ถ่ายภาพก็คงไม่แตกต่างจากคนยุค 90 เพราะมันสื่อถึงมิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ ที่สามารถจับสัมผัสมันได้
ผู้เขียน : อาสาม
กราฟิก : เทพอมร แสงธรรมาพิทักษ์
ข้อมูลอ้างอิง
- “Purikura”: Photos with Friends
- 10 Facts You Probably Didn't Know About Purikura by tsunagu Japan
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
...