ไทยรัฐออนไลน์ ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จาก “คุณนก ศศิตา” สาวไทยในสหรัฐอเมริกา วอนไทยรัฐออนไลน์ช่วยเป็นกระบอกเสียงช่วย นายยุทธศักดิ์ ธนวรรณ หรือ “เชฟแต่ง” เจ้าของเพจดัง “ครัวแต่งศรีมณีเด้ง” ที่มีคนติดตามสองแสน และยูทูบเบอร์สอนทำอาหารชื่อดังกลับไทย หลัง “เชฟแต่ง” ป่วยกะทันหัน “เส้นเลือดในสมองแตก”
หากไม่ได้ความช่วยเหลือเร็วๆ นี้ ทางโรงพยาบาลของสหรัฐอเมริกาที่ให้การรักษาอยู่ อาจจะถอดเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากอาการที่รักษาไม่หายและเรื้อรัง อีกทั้งอเมริกาต้องการเตียงผู้ป่วยให้กับผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือได้ไม่มาก เพราะเชฟแต่งไม่มี ประกันภัย (insurance) และอาศัยในอเมริกา 16 ปี โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายอเมริกา
: ย้อนไทม์ไลน์ เชฟแต่ง อายุ 18 มาอยู่อเมริกา :
...
หลังได้รับข้อมูล ผู้สื่อข่าว โทรถามความคืบหน้าอาการ “เชฟแต่ง” จาก น.ส.สุดสวาท หรือ สวย พี่สาวของเชฟแต่ง เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า แม่มีลูก 3 คน พ่อทำงานคนเดียว ตอนนั้นลูกๆ เรียน ป.ตรีทั้งสาม “เชฟแต่ง” สงสารพ่อ กลัวส่งลูกๆ เรียนไม่ไหว เชฟแต่งขณะนั้นอายุ 18 ปี จึงตัดสินใจไปทำงานร้านอาหารในอเมริกา หลังเพื่อนบ้านที่เคยมาทำชักชวน โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว หลังจากนั้นเชฟแต่งก็อยู่อเมริกานานถึง 16 ปี
กระทั่ง ต.ค. 63 เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด “เชฟแต่ง” ป่วยเส้นเลือดในสมองแตกกะทันหัน ไม่สามารช่วยเหลือตัวเองได้ทั้งหมด มีเพียงยกแขนได้นิดหน่อย อ้าปาก กำมือได้เล็กน้อยเท่านั้น ด้วยเชฟแต่งอาศัยเพียงลำพัง ไม่มีญาติ อีกทั้งช่วงนี้มีสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในอเมริกา ทำให้ต้องรักษาตัวเพียงลำพังในโรงพยาบาลในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และงดเยี่ยม
เมื่อน้องชายป่วยหนัก ในสภาวะการระบาดใหญ่ของโควิดทำให้ทุกอย่างยากลำบากเกินคาดคิด น.ส.สุดสวาท พยายามทุกทางเพื่อพาน้องกลับมารักษาที่ไทย แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติวีซ่า ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นการอยู่เกินกำหนดวีซ่า (overstay) ของน้องชายทำให้การพิจารณาช้า เพราะนามสกุลเดียวกัน
รวมถึงขอความช่วยเหลือจากกงสุลไทยในอเมริกา ช่วยเจรจา แปลภาษา พูดคุยกับ รพ. และขอความช่วยเหลือจากกองคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ เพื่อกู้ยืมเงินฉุกเฉิน พา “เชฟแต่ง” กลับมารักษาตัวที่ไทยซึ่งต้องใช้เงินมากถึง 8 ล้านบาท แต่กู้ยืมเงินฉุกเฉินของกองคุ้มครองฯ ให้ได้เพียงหลักแสน เนื่องจากงบประมาณรายปีมีจำนวนจำกัด
: เดดไลน์สิ้นเดือน ทางรอดเดียว Air Ambulance :
3 เดือนกว่าที่ “เชฟแต่ง” ป่วยเพียงลำพัง หากรอความช่วยเหลือทางภาครัฐอย่างเดียว คงไม่ทันการ เนื่องจากทางโรงพยาบาลได้แจ้งผ่านกับทางเจ้าหน้าที่กงสุลไทย ที่ได้เข้ามาช่วยแปลภาษาว่า อาจจำเป็นนำสายเครื่องช่วยหายใจออก ถ้าไม่ย้ายไปพักฟื้นที่บ้าน เนื่องจากอาการเชฟแต่งทรงตัว พ้นวิกฤติ แต่อยู่ในช่วงพักฟื้น จำเป็นต้องแจ้งขอให้ย้ายออกไป เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินรายอื่นใช้เตียงผู้ป่วย
หากส่งตัวน้องชายไปสถานพักฟื้นในช่วงการระบาดของโควิดความหวังก็ริบหรี่ น.ส.สุดสวาท บอกเนื่องจากน้องชายไม่มีหลักประกันสุขภาพขั้นพื้นฐาน การช่วยเหลือจากอเมริกาจึงจำกัด และต้องเสียค่าใช้จ่ายราว 15,000 เหรียญ หรือราว 400,000 บาทต่อเดือนทีเดียว
...
หลังขอประวิงเวลากับ รพ. ได้ น.ส.สุดสวาท จึงต้องรีบพาน้องชายกลับไทยด่วน แต่ด้วยช่วงวิกฤติโควิดสายการบินพาณิชย์ทุกสายไม่สามารถรับตัวน้องชายกลับได้ และแพทย์ที่อเมริกาแจ้งว่า จะเซ็นอนุญาตให้กลับเมื่อ ‘เชฟแต่ง’ กลับด้วยสายการบินส่วนตัว ที่มีหมอ พยาบาล และเครื่องมือแพทย์ครบ หรือ กลับโดยเครื่องบินพยาบาล (Air Ambulance) เท่านั้น ที่จะพาน้องชายกลับมาสู่อ้อมกอดพ่อแม่ได้เร็วที่สุดในสิ้นเดือนนี้ตามกำหนดเดดไลน์ที่ขอไว้กับ รพ.
: วอนช่วย 8 ล้าน ความหวังเดียวพา "เชฟแต่ง" กลับไทยสู่อ้อมกอดพ่อแม่ :
การเดินทางการระหว่างประเทศในช่วงมีการระบาดของโควิด-19 ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มจากสภาวะปกติเหลายเท่า ซึ่งการพาน้องชายกลับไทยต้องใช้เงิน จำนวนมากถึง 8,000,000 บาท จ่ายเป็น ค่าเครื่องบิน แบบ Air Ambulance ,หมอ 1 คน, พยาบาล 1 คน, น้องชายที่ป่วยอยู่, รถพยาบาลทั้ง 2 ฝั่งคือไทยและอเมริกา, เครื่องมือเเพทย์ และค่าใช้จ่าย ASQ เป็นเวลา 14 วัน
...
ด้วยค่าใช้จ่ายมากขนาดนี้ น.ส.สุดสวาท จึงตัดสินใจขอรับบริจาคในวันที่ 26 ธ.ค. 63 เพื่อความโปร่งใสเพื่อไม่ให้เกิดกระแสดราม่าเหมือนกรณีเคสเปิดขอบริจาคเหมือนคนอื่นๆ ที่เคยเป็นข่าว น.ส.สุดสวาท ได้แจ้งยอดบริจาคล่าสุดทุกวันหน้าเพจ “ครัวแต่งศรีมณีเด้ง” แทนน้องชาย และหากได้รับเงินบริจาคครบ 8 ล้าน จะปิดรับบริจาคทันที
“น้องชอบทำอาหาร เรียนจบคหกรรม อาชีวศึกษาสุพรรณบุรี ตอนเด็กชอบเอาใบไม้มาเล่นทำเป็นกับข้าว น้องจึงไปทำงานร้านอาหารในอเมริกา ตอนนี้น้องชายป่วย เลยเป็นแอดมินเพจแทนน้องไปก่อน สวยตั้งใจไว้ จะอัปเดตยอดบริจาค และอาการของน้องไปเรื่อยๆ จนกว่าน้องจะหายดี เพราะหมอในไทยบอกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์น้องมีโอกาสกลับมาดีขึ้น แต่ไม่เหมือนเดิม อยู่ที่การกายภาพ แต่ถึงน้องอาจไม่เหมือนเดิม แต่ก็ยังดีกว่าให้น้องสู้อาการป่วยเพียงลำพังที่อเมริกา” น.ส.สุดสวาทกล่าว
...
ล่าสุดยอดบริจาค ณ วันที่ 9 ม.ค. 63 ยอดเงินกว่า 4 ล้าน พี่ชายฝาแฝดของเชฟแต่ง ขอเป็นตัวแทนครอบครัว ขอบคุณความเมตตากรุณาของทุกคนที่ช่วยบริจาคสมทบทุน และในพรุ่งนี้ จะอุปสมบทอนุโมทนาบุญให้กับผู้บริจาค และขอให้น้องชายได้กลับเมืองไทยไวๆ สำหรับรายละเอียดผู้ที่ต้องการร่วมสมทบทุน พาเชฟแต่งกลับบ้าน มีรายละเอียดในเพจ “ครัวแต่งศรีมณีเด้ง”
: ข่าวน่าสนใจ :