จากสถานการณ์ "ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน" กลับมาสร้างปัญหาสุขภาพให้กับประชาชนอีกครั้งในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และคนไทยโดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรม เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร คงต้องเผชิญกับฝุ่นพิษ PM 2.5 ไปอีกหลายวัน
ท่ามกลางปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก “PM 2.5” ที่คนไทยกำลังเผชิญ หากไม่รับมือและป้องกันดูแลตัวเองให้ดี โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ อาจก่อให้เกิดภาวะเสี่ยงในโรคระบบทางเดินหายใจต่างๆ และหากสะสมระยะยาวอาจก่อให้เกิดมะเร็งปอดได้
นอกเหนือจากการป้องกันตัวเองตามการแก้ปัญหาของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เลี่ยงกิจกรรมนอกบ้าน ในบ้านหากผู้มีฐานะซื้อเครื่องฟอกอากาศไว้ในบ้าน ปลูกต้นไม้ช่วยดูดฝุ่น หรือหากจำเป็นต้องออกนอกบ้านจริงๆ ควรใส่หน้ากากอนามัย N95 แล้ว อีกทางเลือกคือ รับประทาน “สมุนไพร” เพื่อช่วยดูแลและฟอกปอด ที่ฝุ่นพิษ PM 2.5 เข้าสู่ร่างกายทางทางเดินหายใจให้ช่วย “ผ่อนหนักให้เป็นเบา” ได้
...
สมุนไพรที่ว่านี้มีอะไรบ้าง เรามาเรียนรู้และทำความเข้าใจจาก แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มาให้ความรู้กันได้เลย
1. ขมิ้นชัน (Tumeric)
สมุนไพรยอดนิยม เป็นพืชที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อของเหง้ามีสีเหลืองเข้มไปจนถึงสีแสด เอกลักษณ์เด่นชัด คือ รสชาติจัดจ้านมีสรรพคุณหลายด้าน ขมิ้นชันมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเยื่อบุทางเดินหายใจให้แข็งแรงขึ้น นำมากินสดๆ หรือผลแห้ง ปัจจุบันมีการทำเป็นผงบรรจุแคปซูลทำให้รับประทานง่าย นอกจากนี้ขมิ้นชันยังช่วยระบบลำไส้ทำงานได้ดี ขับถ่ายดี และทำให้ผิวพรรณสดใส แต่มีข้อระวังและข้อห้ามในผู้ป่วย “ท่อน้ำดีอุดตัน” “นิ่วในถุงน้ำดี” หากต้องการใช้ควรปรึกษาแพทย์
2. หญ้าดอกขาว (Little Ironweed)
พืชต้นเล็กแต่มีสรรพคุณมากมาย มีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า หมอน้อย หรือหญ้าละออง ถือเป็นตัวถอนพิษ เนื่องจากมีงานวิจัยรองรับว่าสามารถช่วยลดคาร์บอนมอนอกไซด์ที่คั่งค้างในปอดของผู้สูบบุหรี่ได้ดี สามารถนำหญ้าดอกขาวมาล้างทำความสะอาดตามความเหมาะสม ผึ่งลมให้แห้งแล้วนำมาอบความร้อนด้วยอุณหภูมิ 40-45 องศาเซลเซียส นาน 4-6 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะแห้ง จากนั้นนำมาบดให้ละเอียดบรรจุซองเยื่อกระดาษ ซองละ 1 กรัม หรือห่อผ้าขาวใส่น้ำร้อน ดื่มเป็น “ชาหญ้าดอกขาว” จิบหลังอาหาร แต่ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคไตต้องล้างไต ต้องระวัง เนื่องจากยาหญ้าดอกขาวมีโพแทสเซียม (เกลือในร่างกาย) สูง
3. รางจืด (Laurel Clockvine)
อีกหนึ่งสมุนไพรที่โดดเด่นเรื่องการล้างพิษเช่นเดียวกับหญ้าดอกขาว เป็นพืชที่พบหาง่าย ขึ้นง่าย ปลูกได้ทุกที่ รางจืดเป็นสมุนไพรไทยที่ได้รับฉายา “ราชายาแก้พิษ” ช่วยแก้ร้อนแก้เย็น แก้ร้อนในได้ด้วย รางจืดสามารถปกป้องอวัยวะจากสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว จากการสูดดมเข้ามาสะสมในร่างกายและคั่งค้าง ช่วยขับพิษได้ นำมาชงดื่มเป็นชา หรือกินเป็นเม็ดแคปซูล ผู้ป่วยโรคตับ ไต ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ และต้องระวังปริมาณในการรับประทานด้วย
...
4. มะขามป้อม (Indian Gooseberry)
สามารถนำมากินได้ทั้งสดและแห้ง ปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นชาชงมะขามป้อม มีงานวิจัยระบุไว้ว่า ช่วยลดผลกระทบจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur dioxide) หรือ SO2 เป็นก๊าซที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อันเป็นแหล่งกำเนิดของ PM 2.5 มะขามป้อมช่วยขับเสมหะ บำรุงเส้นเสียง รักษาหลอดลมอักเสบ ซึ่งดีต่อระบบหายใจ ปัจจุบันไทยนิยมนำมะขามป้อมมาทำยาหลายตัวและทำสารสกัดเพื่อสุขภาพ ทำให้ต้องนำเข้ามะขามป้อมจากอินเดีย เพราะในไทยมีไม่เพียงพอ
...
5. อาหารสีขาวธรรมชาติ ตามตำราแพทย์แผนจีน
ซึ่งช่วยบำรุงปอด อาทิ สาลี่ ตำรับแพทย์แผนจีน มีฤทธิ์ช่วยแก้กระหายน้ำ คอแห้ง แก้ไอ ขับเสมหะ ดีต่อระบบทางเดินหายใจ, หัวไชเท้า ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยได้ดี, สมหวัง หรือชื่อเดิมว่า “แห้ว” แก้ไอ เจ็บคอ แก้ไขปัญหาเสมหะจากลมร้อนภายนอกมากระทบ นอกจากนี้ข้อแนะนำตามแพทย์แผนจีนให้ฝึกลมหายใจชี่กง ช่วยให้เส้นลมปราณไหลเวียนได้ดี มีผลดีต่อระบบทางเดินหายใจ
ทั้งหมดทั้งมวลที่แนะนำไว้ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ฝากทิ้งท้าย เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
สิ่งสำคัญคือต้องแก้ปัญหาที่ต้นทาง เพื่อจัดการ “ฝุ่นพิษ PM 2.5” ในระยะยาว
: ข่าวน่าสนใจ :
...