ถือเป็นปีหฤโหดอีก 1 ปี สำหรับ ปี 2563 โดยตลอดทั้งปีมีข่าวอาชญากรรม เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะต้นปีที่ผ่านมา ได้เกิดคดีสะเทือนขวัญ 2 ครั้งติดต่อกัน
3 นาทีคดีดัง โดยทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะขอพาย้อนรอยข่าวร้ายที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และถือเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกในสังคมไทย
9 มกราคม 2563 เกิดเหตุคนร้ายแต่งชุดลายพราง บุกชิงทองในห้างใจกลางเมืองลพบุรี โดยโจรใจทมิฬผู้นี้เปิดฉาก ไล่ยิงผู้คนตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในห้าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ ได้แก่ เด็กชายวัย 2 ขวบ ที่โดนคมกระสุน เจ้าหน้าที่ รปภ. และพนักงานสาวร้านทอง ที่ถูกจ่อยิง นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย ถูกยิงที่ท้อง 1 ราย บริเวณหน้าอกอีก 3 ราย สิ่งที่สังคมตกตะลึงมากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ คนร้ายที่ลงมือกลับเป็น นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นครู และ ผอ.โรงเรียนประถม ที่คลุกคลีกับเด็กๆ
คดีนี้ตำรวจต้องใช้ทีมสืบสวนชั้นเซียน ถึงจะลากคอคนผิดมาลงโทษได้ โดยเริ่มต้นสืบจากท่อเก็บเสียง และแกะรอยจากรูปพรรณสัณฐาน อาวุธปืน เครื่องกระสุน กระเป๋าเป้ ท่าเดิน สืบถึงขั้นเบอร์รองเท้า ที่ทิ้งรอยไว้บนตู้กระจกร้านทอง เมื่อได้หลักฐานครบ ทีมหนุมานของกองปราบปราม จึงบุกเข้าจับกุม เมื่อวันที่ 22 มกราคม หลังก่อเหตุ เกือบ 2 สัปดาห์
...
27 สิงหาคม 2563 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตสถานเดียว รวมความผิด 9 ข้อหา แม้จำเลยจะสารภาพผิด แต่เพราะจำนนด้วยหลักฐานและไม่เป็นประโยชน์ หลังอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ผู้เป็นแม่ของ ผอ.กอล์ฟ ถึงกับร้องไห้เข้ากอดสามี ในขณะที่ ผอ.กอล์ฟ ได้ก้มกราบผู้เสียหายทีละคน พร้อมพูดว่า “ขอโทษ”
จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ชายที่โหดเหี้ยมที่สุดในปี 2563
ตั้งแต่เวลาบ่ายสามโมง ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา “ทหารเลวสุดเหี้ยม” รายนี้ ก่อเหตุฆาตกรรม พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส อายุ 48 ปี และ นางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา จากนั้นได้ชิงปืนสงคราม จากทหารเวรประจำการ ที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และใช้อาวุธยิงทหารเวรจนได้รับบาดเจ็บ
ต่อมา ได้ขับรถฮัมวี่ทหาร ปะทะกับตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ยิงกราดใส่ประชาชนรายทาง ก่อนที่จะไปยึดห้างเทอร์มินอล 21 เอาไว้ และมีตัวประกันในห้างหลายพันคน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานทยอยช่วยเหลือตัวประกันออกมา
ถึงแม้คนร้ายจะมีเพียงรายเดียว แต่เนื่องจากใส่ชุดเกราะและมีอาวุธสงครามครบมือ เจ้าหน้าที่จึงเข้าปิดล้อม และระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยระหว่างปิดล้อม ก็มีเสียงยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง 17 ชั่วโมงผ่านไป เสียงปืนเริ่มเงียบ และได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่า “วิสามัญ” จ่าคลั่งรายนี้แล้ว ในเวลา 9 โมงของอีกวัน (9 กุมภาพันธ์ 2563)
เหตุกราดยิงครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 20 ศพ (รวมคนร้าย) และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 40 ราย ถือเป็นฝันร้ายที่สุดของชาวโคราช เป็นบาดแผลในใจของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์..
ขอไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ชม 3 นาทีคดีดังที่น่าสนใจ
...