ช่วง "วันหยุดยาว" และอากาศหนาวๆ หลายคนเลือกไปท่องเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติ ภูเขา หรือยอดดอย เพื่อไปสัมผัสอากาศหนาว ชม "ทะเลหมอก" สีขาวพราวเสน่ห์ยามเช้า บางยอดเขายังมี "ทุ่งดอกบัวตอง" เหลืองอร่ามให้ได้ชมความงามกันอีกด้วย

เมื่อเดินทางไปถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ปักหมุดไว้บนยอดดอยตามจังหวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กิ่วแม่ปาน ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์  จ.เชียงใหม่, ดอยผาตั้ง ภูชี้ดาว ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย, เขาค้อ ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ หรือ ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน ได้เห็นความงามธรรมชาติเบื้องหน้า นักท่องเที่ยวหลายคนต้องแชะภาพ ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศแห่งความสุขที่มีทิวทัศน์สวยงามแล้วลงโพสต์ในโลกโซเชียลเพื่อให้เพื่อนได้เห็นและอาจตามรอยเที่ยวได้

: สถิตินักท่องเที่ยว พลัดตกหน้าผา 3 ปี เสียชีวิต 13 ราย :

เบื้องหลังภาพถ่ายสวยๆ กว่าจะได้ภาพแต่ละภาพที่ถูกใจ สวยงามบนจุดชมวิวต่างๆ ผู้ที่ชอบ "เซลฟี่" "ไลฟ์สด" ก็ต้องหามุมกันให้วุ่น จนลืมระมัดระวังความปลอดภัยที่อาจเกิดอุบัติเหตุพลัดตกหน้าผาได้ เพราะจากข้อมูลของกรมควบคุมโรคเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 63 ระบุไว้ จากการเฝ้าระวังข่าวจากสื่อตั้งแต่ปี 2560-2562 เกิดเหตุคนพลัดตกหน้าผาในไทยทั้งสิ้น 22 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 13 ราย

...

สำหรับปี 2563 ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน เกิดเหตุทั้งสิ้น 8 ครั้ง โดยมีเสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย พบร้อยละ 75 เป็นเพศชายและเพศหญิง ร้อยละ 25 ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-39 ปี ร้อยละ 66 และร้อยละ 83 เป็นนักท่องเที่ยว เดินป่า ส่วน 3 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่เกิดเหตุพลัดตกมากที่สุด ได้แก่

1. หน้าผาจุดชมวิว ร้อยละ 60

2. หน้าผาน้ำตก ร้อยละ 30

3. สันเขา และลานกางเต็นท์ ร้อยละ 3

สำหรับสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการลื่นไถลดังนี้ 1. ก้าวพลาด 2. สะดุดก้อนหิน 3. มีพฤติกรรมไม่ปลอดภัย ไปถ่ายรูปหรือเซลฟี่ริมหน้าผา ซึ่งสาเหตุนี้ทำให้เสียชีวิตมากถึงร้อยละ 80

: เซลฟี่ ไลฟ์สด สาเหตุหลักลื่นล้ม พลัดตกเขา :

แล้วจะมีวิธีปฏิบัติอย่างไรบ้าง เพื่อให้ถ่ายรูปและท่องเที่ยวธรรมชาติบนภูเขาหรือยอดดอยอย่างปลอดภัย ไม่เสี่ยงพลัดตกเขา นพ.สรฤทธิ์ เกียรติเฟื่องฟู แพทย์เวชศาสตร์การบิน ผู้มากประสบการณ์ด้านการช่วยเหลือกู้ชีพ และเป็นแพทย์ประจำทีมปีนเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งมีประสบการณ์บนภูเขาสูงมา 8 ปี ให้ข้อมูล แต่ก่อนการถ่ายภาพจากมือถือยังไม่นิยมมากเช่นปัจจุบัน ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ ข่าวนักท่องเที่ยวพลัดตกเขา ตกที่สูงหรือพื้นที่ราบในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพราะสมัยก่อนมีเพียงกล้องถ่ายรูป ความปลอดภัยค่อนข้างสูง ทั้งคนถ่ายรูปและคนถูกถ่ายช่วยกันดูความปลอดภัย

แต่ปัจจุบันคนนิยมใช้มือถือเซลฟี่ถ่ายรูป เพราะสะดวกสบาย แถมถ่ายเสร็จโพสต์แชร์ในเฟซบุ๊ก ไอจีได้เลย ซึ่งกว่าจะถ่ายได้แต่ละภาพ ร่างกายไม่สมดุล ต้องเอี้ยวตัว โน้มตัวยื่นแขนถือมือถือเดินหามุมถ่าย ตาจ้องแต่จอ แต่ไม่ได้มองพื้นที่โดยรอบ เกิดความระมัดระวังตัวลดลง ทำให้โอกาสเกิดอุบัติเหตุพลัดตก ลื่นหกล้มสูงมากขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายรูปจากยอดเขา หรือพื้นราบ เนื่องจากสะดุดรากไม้ หรือพื้นลื่น

...

: 10 วิธีถ่ายรูปเซลฟี่ ไลฟ์สดอย่างปลอดภัย ไม่พลัดตกเขา :

เพื่อให้ท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยตลอดทริป นพ.สรฤทธิ์ เน้นย้ำ สิ่งสำคัญคือ “ต้องมีสติ” และ “ระมัดระวัง” ให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ข้อคำนึงและหลักปฏิบัติในการถ่ายรูปให้ปลอดภัยด้วยการเซลฟี่ หรือไลฟ์สด นพ.สรฤทธิ์ แนะนำดังนี้

1. ไม่ควรเดินหามุมและถ่ายรูปเซลฟี่ไปด้วย ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอันตรายมากขึ้น
2. หาพื้นที่มั่นคง ปลอดภัย แล้วยืนหยุดนิ่งๆ เพื่อเซลฟี่ถ่ายภาพ หรือไลฟ์สดพูดคุย
3. เว้นระยะห่างหน้าผา หรือจุดอันตราย กะระยะจุดยืนถ่ายรูปให้ปลอดภัย กรณีเกิดล้มลื่นแล้วไม่พลัดตกหล่นหน้าผา
4. เลือกจุดถ่ายรูปที่มีราวกั้น สังเกตป้ายเตือน ไม่ออกนอกเส้นทางที่แหล่งท่องเที่ยวกำหนดอย่างเคร่งครัด   
5. ใช้ขาตั้งกล้องและตั้งเวลาถ่ายภาพแทนการเซลฟี่

...


6. ให้นักท่องเที่ยวคนอื่น ช่วยถ่ายรูปให้ มีความปลอดภัยสูง
7. หลีกเลี่ยงการใช้ไม้เซลฟี่ เพราะยิ่งเพิ่มความอันตรายมากกว่าใช้มือเซลฟี่ถ่ายรูป ความระวังตัวยิ่งลดไปอีก เนื่องจากยิ่งยื่นไม้เซลฟี่ไปไกลเท่าไร สายตาและสมาธิยิ่งจับจ้องที่จอมือถือ
8. ผู้ที่มีเป้สัมภาระพึงระวังมากขึ้น ขณะหามุมถ่ายภาพ เป้สัมภาระอาจไปชนนักท่องเที่ยวคนอื่นได้รับอุบัติเหตุ ลื่นล้ม พลัดตกหน้าผาได้
9. ใส่รองเท้าให้เหมาะสม เป็นรองเท้าเดินป่า เดินเขา รองเท้าหุ้มส้น รองเท้ากีฬา หรือรองเท้าผ้าใบที่ยึดเกาะได้ดี เพราะบางจุดด้วยความชื้นของอากาศ ทำให้ดินลื่น หินลื่นได้
10. เลี่ยงใส่รองเท้าแตะ เพราะจังหวะเดิน รองเท้าแตะอาจติดพื้นดิน ยิ่งทำให้ลื่นล้มได้ง่าย

รู้เทคนิคการถ่ายภาพกันแล้ว หากไปท่องเที่ยวที่ใดอย่าลืมนำความรู้เหล่านี้ไปใช้นะคะ

จะได้เที่ยว "ฉลองปีใหม่" กับคนรัก ครอบครัวอย่างมีความสุข

...

: ข่าวน่าสนใจ :