เรียกว่าเป็นวันเวลาของคนรุ่นใหม่ที่แท้จริง สำหรับ การเมืองไทยในวันนี้ ที่มีเหล่าวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษาร่วมแสดงพลังต่อต้านรัฐบาล นำโดย กลุ่มเยาวชนปลดแอก คณะราษฎร 2563 ..

และหลังจากวันที่ 16 ตุลาคมเป็นต้นมา หลังรัฐบาลตัดสินใจฉีดน้ำสลายการชุมนุม สิ่งที่ตามมาคือ “แฟลชม็อบ” ที่เริ่มบานปลายตามสายรถไฟฟ้า รวมไปถึงหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีมหาวิทยาลัยใหญ่

ในฐานะที่เคยทำงานสายปรองดองมายาวนาน การเมือง THE SERIES โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงขอเข้าพูดคุยกับ ศ.ดร.คณิต ณ นคร อดีต ส.ส.ร. รัฐธรรมนูญปี 2540 และอดีตคณะกรรมการปรองดอง เพื่อร่วมผ่าทางตันให้ประเทศ

ศ.ดร.คณิต กล่าวว่า นิสัยคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยฟังกัน เรียกว่า ประสาทการรับฟัง ถ้าเรารับฟังแล้วมาแยกแยะ จากนั้นให้ถูกทุกอย่างก็จะดี เรียกว่าพอใครพูดผิดหู ก็จะเปรี้ยงเลย..แบบนี้ไม่ถูก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเวลานี้คือต้องอดทน ทำให้ถูกหลักกฎหมาย ไม่ใช่ถูกใจ

“เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง สื่อสารกันให้ดี แล้วสังคมไทย เหมือนเป็นสังคมอำนาจนิยม ไม่ใช่สังคมประชาธิปไตย ไม่ใช่เสรีนิยม เรียกว่าพูดผิดหูก็เอาเรื่องเลย”

เมื่อถามว่า รากฐานสำคัญที่ทำให้คนไทยเกิดความขัดแย้ง และมีทางไหนไหมที่จะทำให้เกิดการปรองดอง อาจารย์คณิต กล่าวว่า เนื่องจากกฎหมายที่เราใช้ทุกวันนี้ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร มีคนทำผิด ทำถูกเยอะแยะ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ถ้าหากทำไม่ได้ เราก็ทำให้บ้านเมืองสงบไม่ได้

...

“ที่มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ที่สุดก็คือรัฐธรรมนูญ 2540 เรียกว่าเป็นกฎหมายดีที่สุดก็ว่าได้ แต่ประเด็นปัญหาคือ นักกฎหมายของประเทศเรายังไม่เข้าใจกฎหมายดีเท่าที่ควร...ซึ่งนักกฎหมายของประเทศเราก็มาจากมหาวิทยาลัยทั้งนั้น ทั้งธรรมศาสตร์ที่รักยิ่งของผม จุฬาฯ หรือแม้แต่รามคำแหง”

สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุด คือ เรื่องการจับกุมที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการออกหมายจับ ซึ่งตามกฎหมายแล้ว จะออกหมายจับได้ต้องมีเหตุ คือ 1. หลบหนี 2. ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ไปก่ออันตรายประการอื่น สิ่งที่เกิดขึ้นมีไหม..ไม่เห็นมี สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คือ สื่อ โซเชียลมีเดีย ไปเร็ว ก็ส่งผลให้เกิดม็อบ

นอกจากนี้ อาจารย์คณิต ยังฝากคำพูดไปถึงนายกรัฐมนตรี ส่วนจะพูดอะไรนั้น สามารถติดตามได้ในคลิปนี้

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่น่าสนใจ