“โค้งร้อยศพ” ถนนอันตรายที่กลายเป็นตำนานการกลืนกินชีวิตผู้คนที่ใช้รถบริเวณถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับศาลอาญา หากยังจำได้ นางเอกสาว “โจ้ นิสา วงศ์วัฒน์” ก็เสียชีวิตจากโค้งนี้
3 นาทีคดีดัง โดยทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอย้อนความอันตรายของโค้งร้อยศพ และอุบัติเหตุกับดาราสาวชื่อดัง “โจ้ นิสา วงศ์วัฒน์” โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 6 เมษายน 2538 ตำรวจ สน.พหลโยธิน รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งนิสสันเซฟิโร สีบรอนซ์ ทะเบียน 5 อ-7522 กทม. สภาพรถประตูด้านซ้ายอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้ากลางถนนตัวถังด้านซ้ายยุบไปถึงกึ่งกลางรถ ส่วนประตูด้านคนขับมีสภาพปกติ
ส่วนผู้บาดเจ็บในรถมีทั้งหมด 3 คน คนขับบาดเจ็บเล็กน้อย เพื่อนสาวอีกคนบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนที่อาการหนักที่สุดคือ “โจ้” นิสา วงศ์วัฒน์ นางเอกสาวอายุ 28 ปี สิ่งที่น่าเสียใจคือ “โจ้ นิสา” ได้เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดี เนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก เพราะถูกแรงกระแทกอย่างแรง ทำให้เสียชีวิตในที่สุด
“โจ้ นิสา” เกิดเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2510 เดิมชื่อ “วณิชยา วงศ์วัฒน์” เติบโตในครอบครัวใหญ่ พื้นเพอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยที่พี่น้องหลายคน “โจ้” ต้องต่อสู้กับชีวิต เป็นลูกที่กตัญญูทำงานหาเลี้ยงชีพ แม้กระทั่งอาชีพ “พับถุงกระดาษ” ขาย เธอก็ทำมาแล้ว
...
กระทั่งมีโอกาส เข้าวงการบันเทิงในฐานะ “นางเอกนักบู๊” เล่นหนังคู่กับดาราดังแห่งยุค สรพงษ์ ชาตรี หลายเรื่อง อาทิ เดนมนุษย์ ลายพาดกลอน ต่อมาในช่วงปี 2531 เธอเข้าสู่วงการละคร มีละครหลายเรื่องยังเป็นที่จดจำ เช่น เพลิงพ่าย พ่อปลาไหล แม่พังพอน อีเปรี้ยวตลาดแตก กระทั่งละครเรื่องสุดท้ายที่ฝากผลงานไว้คือ “สาวรำวง”
สำหรับความอันตรายของโค้งร้อยศพ นายพิชัย ธานีรณานนท์ ประธานคณะอนุกรรมการสาขาป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและการเสียชีวิต วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุในรอบ 9 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงกันยายน มีอุบัติเหตุตรงโค้งรัชดาหน้าศาลอาญาทั้งสิ้น 293 ครั้ง เสียชีวิต 5 ศพ บาดเจ็บ 152 ราย
“ถนนรัชดา เป็นถนนกว้าง 8 เลน โดยในช่วงโค้งถนนถัดจากอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ผ่านซอยรัชดา 36 หรือที่เรียกกันว่า ซอยเสือใหญ่อุทิศ ถึงซอยรัชดา 32 มีรัศมีโค้งกว้างมาก รวมความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ลักษณะของอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน หรือในช่วงเวลาที่ทัศนวิสัยไม่อำนวย เช่น ขณะฝนตก ในยามดึกซึ่งถนนโล่งทำให้ผู้ขับขี่หลายคนใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด”
นายพิชัย ระบุว่า ปัญหาที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณทางโค้งรัชดาเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อาทิ
1.ลักษณะทางโค้งรัชดาแบบโค้งหลังหก หรือ Broken Back Curve คือโค้งที่มีสองรัศมีซึ่งเชื่อมด้วยเส้นตรงสั้น โดยธรรมชาติผู้ขับขี่เมื่อเข้าโค้งก็ไม่คิดว่าจะต้องปรับพวงมาลัย ทำให้ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
2. ไม่มีการยกโค้ง หรือ Superelevation ทำให้รถที่วิ่งเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็วสูงกว่าความเร็วบังคับ จนไม่สามารถควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นทางได้
3. ขาดกลไกชะลอความเร็วของรถยนต์ หรือ Traffic Calming ทำให้รถที่วิ่งจากอุโมงค์ทางลอดเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็วสูงกว่าความเร็วบังคับ จนไม่สามารถควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นทางได้
ที่ผ่านมา ได้มีความพยายามในการแก้ปัญหาทางโค้งนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งทำป้ายเตือน การเพิ่มแรงด้านข้างบนล้อรถ Sideway Force โดยการยกโค้งคันนอกให้สูง เพื่อให้บังคับล้อรถให้เร่งเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย และการปรับผิวจราจรให้ดี ได้มาตรฐาน
...
สิ่งสำคัญ ของการของการใช้รถใช้ถนน คือ ต้องมีสติ เมาไม่ขับ ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ยิ่งขับบนถนนที่ไม่ชินหรือคุ้นทาง ยิ่งต้องระมัดระวัง เพราะเพียงไม่กี่วินาทีที่เลินเล่อ ชีวิตคุณอาจไม่เหลือ หรือต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ชม 3 นาทีคดีดังที่น่าสนใจ