• จะเพศไหนก็มาเล่นพระเครื่องได้ อยู่ที่ว่าชอบจริงไหม เรื่องพระเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

• ความอยากรู้ อยากเห็น นำไปสู่ความสนใจอยากค้นคว้าศึกษาพระเครื่องที่มีหลายประเภทอย่างไม่สิ้นสุด

• ถึงเป็นลูกไม้ใต้ต้น ถูกบีบหดเหลือตัวนิดเดียวในวงการพระเครื่อง แต่หากมุ่งมั่น พยายาม เกิดความสำเร็จได้เสมอ

การทำธุรกิจภายใต้ร่มเงา “พ่อ” ที่ประสบความสำเร็จจนรวยและมีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของประเทศ แน่นอนว่าเมื่อทายาททำธุรกิจเดียวกับพ่อ ย่อมมีความกดดันค่อนข้างสูง นั่นเพราะเมื่อประสบความสำเร็จอาจถูกมองว่า “พ่อคอยช่วยหนุนหลัง” หรือตรงกันข้าม อาจโดนต่อว่า “ลูกไม้หล่นไกลต้น ไม่เห็นเก่งเหมือนพ่อ” หากล้มเหลว

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทายาทธุรกิจไทยบางคนจึงเลือกหันไปทำธุรกิจอื่นต่างจากครอบครัว แต่ ปุ๊ก หรือ สุธาศิณี งิ้วงาม ทายาทคนโตของ "ป๋อง สุพรรณ" หรือ นายเสมอ งิ้วงาม เซียนพระชื่อดังของไทย ที่ “มาดามริชชี่” พาไปรู้จักในวันนี้ เธอกลับคิดต่าง หันมาเป็น “เซียนพระ” ตามรอยพ่อ เพราะความท้าทาย และตอบโจทย์ชีวิตที่สุดแล้ว

...

: เรียนจบ ลุยทำธุรกิจด้วยตัวเอง :

ปุ๊ก ย้อนเล่าความทรงจำในวัยเด็ก เห็นพ่อทำงานหนักทุกอย่างเพื่อครอบครัวมาตลอด ตั้งแต่ปั่นสามล้อ ทำมูลนิธิเก็บศพที่สุพรรณบุรี จากนั้นหันเหเข้าวงการ “พระเครื่อง” พ่อยิ่งทำงานหนัก ไม่เคยได้เจอพ่อเพราะพ่อออกบ้านแต่เช้า กลับดึกถึงบ้านปุ๊กก็หลับไปแล้ว งานพระสมัยก่อนต้องวิ่งไปหาลูกค้าถึงบ้าน บางวันวิ่ง 5 จังหวัด

เพราะเติบโตจากการเห็นพ่อทำงานหนัก เธอจึงรู้สึกอยากเป็นแม่ค้าเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อ หลังเรียนจบการศึกษา ปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ, ปริญญาโท คณะการจัดการมหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาบริหารองค์กร ม.ศรีปทุม เธอจึงก้าวเดินตามฝัน เปิดร้านขายไอศกรีมเป็นธุรกิจแรกในชีวิต 2 ร้าน มีรายได้เดือนหลายแสน ผ่านไป 2 ปีต้องหยุดกิจการ เพราะหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าแฟรนไชส์ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ แล้วแทบไม่เหลือกำไร

ถึงธุรกิจแรกไม่สมหวัง แต่เธอไม่คิดหยุดความตั้งใจ หันมาผลิตโฟมล้างหน้าขาย เป็นยุคแรกๆ ที่ธุรกิจการทำสินค้าแบรนด์ตัวเองกำลังบูม ทำให้ออเดอร์ยอดจำหน่ายพุ่งกระฉูด ธุรกิจรุ่งโรจน์ตลอด 1 ปี แต่ต้องหยุดขายเนื่องจากสูตรโฟมล้างหน้าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกับบริษัทรับผลิต ทั้งสองธุรกิจ ทำเธอสูญเงินไปหลายล้าน เธอจึงเริ่มมาสนใจทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องรางตะกรุด

“อยากประสบความสำเร็จด้วยตัวเองเหมือนพ่อ เลยหันมาทำเครื่องรางตะกรุด ผ่านพิธีปลุกเสกจริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ศรัทธา ทำอยู่เกือบปีธุรกิจไปได้ดี ก็เลยสนใจพระเครื่องไปด้วย”

: ถูกเปรียบเทียบพ่อตลอดชีวิต แต่ไม่หยุดมุ่งมั่น  :

การหันมาเป็น “เซียนพระหญิง” แม้อาจต้องถูกเปรียบเทียบกับพ่อตลอดชีวิต เธอก็ไม่หวั่นและท้อถอย เพราะถือคติ “มีวินัย มุ่งมั่น ตั้งใจจริงก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจด้วยตัวเองได้” เธอจึงทุ่มเวลาทุกวินาที ขวนขวายเรียนรู้ ศึกษาข้อมูลพระรุ่นต่างๆ ด้วยตัวเองอย่างถ่องแท้จากการอ่านหนังสือ ศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญรอบตัว เพราะมีเป้าหมายเป็น “เซียนพระหญิงมือหนึ่ง” ของไทย และเพื่อพิสูจน์ให้คนเห็นว่า เธอพัฒนา ก้าวหน้าได้โดยไร้เงาพ่อ

“จะเพศไหนก็มาเล่นพระเครื่องได้ อยู่ที่ว่าชอบจริงไหม เรื่องพระเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พอปุ๊กมาศึกษาพระเครื่องแล้ว มันยากมาก ปุ๊กบอกตัวเองเสมอยังไงก็ต้องทำได้ เพราะเราชอบไปแล้ว ต้องทุ่มเทหาความรู้ เพราะไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ”

: หนทางสู่ เซียนพระหญิง :

ถึงจะมีความยากในหนทาง “เซียนพระ” ต้องศึกษาอย่างละเอียดให้รู้จริงถ่องแท้ และต้องจำให้ได้ว่าพระเครื่องรุ่นไหน ราคาเท่าไรแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่เธอให้ความสำคัญและนำมาใช้ คือ ความอยากรู้ อยากเห็น ซึ่งนำไปสู่ความสนใจอยากค้นคว้าศึกษาพระเครื่องที่มีหลายประเภทอย่างไม่สิ้นสุด อาทิ พระเนื้อดิน เนื้อผง สร้างด้วยการหล่อ หรือปั๊ม

...

“พระแต่ละองค์มีตำหนิไม่เหมือนกัน ราคาแต่ละองค์ก็ไม่เท่ากัน ต้องเป็นคนความจำดี แค่ในตู้ก็มีเป็นร้อย ต้องจำให้ได้ ปุ๊กก็จะจดโน้ตไว้ พระรุ่นไหน ประวัติเป็นอย่างไร ก็อ่านทบทวน ศึกษาทุกวันจากหนังสือ ยูทูบ และดูจากพระของจริง”

: 4 เคล็ดลับ ดูพระเครื่องแท้ หรือเก๊ :

ชั่วโมงบินในวงการพระที่สั่งสมมาเกือบ 2 ปี เธอบอกมาดามริชชี่ ยังไม่เคยผิดพลาด เมื่อถามถึงเคล็ดลับ เธอบอกแบบไม่กั๊กตามสไตล์หญิงยุคใหม่ กล้าคิด กล้าทำ ดังนี้ 1. ดูของจริงบ่อยๆ 2. ศึกษาพระเครื่องให้เชี่ยวชาญทีละองค์ที่วงการพระยอมรับให้รู้ลึก รู้จริง 3. ตั้งสติและใช้ตาดู มากกว่าใช้หูดู เพราะพระเครื่องต่างๆ มีเรื่องราว และราคามักสูงตามประวัติ 4. ศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือเซียนพระคนอื่นๆ

ในวงการพระ ปุ๊กบอก ถ้ารู้งูๆ ปลาๆ อาจไปไม่รอดและเสียชื่อเสียง เธอจึงยึดมั่นถือมั่นเรียนรู้จดจำให้มากที่สุด โดยไม่กดดันตัวเองว่าต้องเก่งเหมือนพ่อ แต่เธอให้กำลังใจตัวเองตลอด “ต้องทำได้เหมือนพ่อ”

...

: ปล่อยเช่าพระ ราคายุติธรรม :

ราคาของพระเครื่องนั้นมีมูลค่าหลักหมื่น แสน หลายล้านถึงร้อยล้าน ยิ่งเก่าแก่ราคายิ่งแพง ตัวเธอเองนั้นสามารถตีราคาปล่อยเช่าอย่างยุติธรรม เพราะยึดหลักความซื่อสัตย์ ไม่หลอกคนอื่น อีกทั้งเชื่อว่าหากตั้งอยู่ในสุจริตแล้ว พุทธคุณของพระเครื่องต่างๆ ที่ถือครอง ย่อมคุ้มครอง และเกื้อหนุนให้เจริญก้าวหน้า อีกทั้งพระเครื่องที่คนนิยมเล่น มีราคามาตรฐาน

ปัจจุบัน ปุ๊ก เป็นหุ้นส่วน บ. ป๋อง สุพรรณ การันตี จก. เธอบอกมาดามริชชี่ แม้ต้องอยู่ใต้ร่มเงาพ่อ “ป๋อง สุพรรณ” ที่สร้างอาณาจักรธุรกิจ “เซียนพระ” ไว้อย่างยิ่งใหญ่

ถึงเธอจะเป็นลูกไม้ใต้ต้น และถูกบีบให้หดเล็กลงเหลือตัวนิดเดียวในวงการพระเครื่อง แต่เธอเชื่อมั่นเสมอ “หากมุ่งมั่น พยายาม เกิดความสำเร็จได้เสมอ” แม้ยังไม่ได้เป็นเซียนพระมือหนึ่ง แต่เธอก็สร้างรายได้จากการปล่อยเช่าพระเครื่องให้บริษัท มีรายได้สูงเดือนละหลายหลัก

การคิดจะทำธุรกิจใดๆ เธอบอกว่าสิ่งแรกที่สำคัญ คือ "เป้าหมาย" นอกจากนี้ต้องยึดมั่นถือมั่นความซื่อสัตย์ในอาชีพนั้นๆ ซึ่งเป็นอีกกุญแจสำคัญนำไปสู่การประสบความสำเร็จ

...

“ทำธุรกิจหากไม่มีเวลาทุ่มเทก็ไม่ประสบความสำเร็จ การจะเป็นเซียนพระก็เหมือนกัน มันยากมากกว่าเรียนหนังสือที่มีครูสอน เราต้องเรียนรู้พระเครื่องด้วยตัวเอง เพราะไม่มีหลักสูตร เก่งอย่างเดียวไม่พอต้องแกร่ง ทุ่มเทศึกษาให้มากๆ ต้องรู้จักขวนขวาย ตั้งใจ มีเป้าหมายชัดเจน จำไว้เลยว่าอยากมีความรู้ต้องทุ่มเท และไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ”

ผู้เขียน : มาดามริชชี่

ภาพ : ชุติมน เมืองสุวรรณ

กราฟิก : ธีรพงศ์ ไชยเทพ

ข่าวน่าสนใจ