ยังเป็นปริศนาถึงทุกวันนี้ สำหรับคดีคนหายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 2 คน เมื่อช่วงปลายปี 2553 ถึงต้นปี 2554...

เหตุการณ์แรกเกิดขึ้น เมื่อคณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เดินทางเข้าป่าเขาใหญ่เพื่อทำวิจัยเรื่องหมีควาย บริเวณเส้นทางคลองปลากั้ง ทางไปน้ำตกวังเหว ซึ่งเป็นป่ารอยต่อระหว่างจังหวัดนครราชสีมา และปราจีนบุรี โดยคณะได้เดินทางไปวันที่ 27 ธันวาคม และกลับลงมาในวันที่ 30 ธันวาคม 2553

แต่..มีหนึ่งคนในคณะไม่ได้กลับลงมาด้วย คือ นายอุทัย ไชยกุฉิน อายุ 28 ปี คณะวิจัย ระบุว่า นายอุทัย ได้ลงมาจากป่าเขาใหญ่ก่อน เพื่อนำเสบียงกลับขึ้นไป

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่.. นายอุทัย หายไปไหน

3 นาทีคดีดัง โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาย้อนรอยบุกป่า "เขาใหญ่" กับเหตุการณ์ลึกลับที่มีคนหายไปในป่าถึง 2 คน โดยคนแรกคือ นายอุทัย ซึ่งเรื่องนี้ นายพฤกษ์ แก้วสีขาว หัวหน้าเขตอนุรักษ์ที่ 2 ซึ่งเป็นหัวหน้านายอุทัย ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่า

นายอุทัย เป็นลูกจ้างกรมอุทยานฯ มาประมาณ 5 ปี ถือเป็นผู้ชำนาญเส้นทางบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขาได้หายไปจากเส้นทางในวันที่ 30 ธันวาคม เมื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริเวณป่าดงดิบรอยต่อจังหวัดนครราชสีมา-ปราจีนบุรี พบรองเท้ากับถุงยาเส้นของนายอุทัย บริเวณน้ำตกแก่งหัวหมู แต่กลับไม่พบตัว

...

แต่เมื่อสอบถามคณะวิจัย กลับได้ยินเรื่องเล่าแปลกๆ ระบุว่า เห็นนายอุทัยมีท่าทีคล้ายคนเป็นไข้มาลาเรียขึ้นสมอง ไม่ยอมกินข้าว 3-4 วัน ดูมีอาการเบลอๆ ก่อนจะหายตัวไป นายอุทัย บอกว่า จะออกไปตามหาผู้หญิง 3 คน ซึ่งไม่รู้ว่าผู้หญิง 3 คนนี้คือใคร อาจจะเป็นภาพหลอนจนทำให้นายอุทัยหายตัวไปในที่สุด

ที่ผ่านมา เคยเกิดเรื่องประหลาด เมื่อปี 2552 จู่ๆ เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ได้หายตัวไปนาน 4 วัน เจ้าหน้าที่พยายามหาตัวเท่าไรก็ไม่พบ แต่เมื่อมาจุดธูปสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ จากนั้นก็พบตัวที่โขดหินบริเวณน้ำตกกองแก้ว ทั้งที่เจ้าหน้าที่เดินหารอบบริเวณนั้นอยู่ตลอด แต่กลับไม่พบตัว ในขณะที่เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ระบุว่า เธอนั่งอยู่บริเวณดังกล่าว 4 วัน ก็ไม่เห็นหรือได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ เห็นแต่สัตว์นานาชนิดผ่านไปมา

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแปลกเรื่องหนึ่งที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้พานพบ

กลับมาที่ชะตากรรมของนายอุทัยก็ยังมืดมน หลังเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหา 10 กว่าวันก็ยังไม่พบ หลักฐานสุดท้ายที่พบคือ เป้และปืนลูกซองของนายอุทัย พบตกอยู่ห่างจากน้ำตกแก่งหัวหมู ราว 500 เมตร ภายในเป้พบเสื้อผ้าชุดป่าไม้ในสภาพเปียกชื้น พร้อมเครื่องยังชีพ สบู่ ยาสีฟัน แต่ไม่มีอาหาร ที่สำคัญคือ ยังพบนั่งร้านที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยแก๊งลักลอบตัดไม้ ซึ่งคาดว่าอาจจะถูกแก๊งมอดไม้เหล่านี้จับตัวไป เพราะบริเวณนั้นอุดมไปด้วย “ไม้หอมกฤษณา” ที่มีราคาสูง

24 มกราคม 2554 ก็มีข่าวใหญ่คึกโครมอีกครั้ง เมื่อมีผู้เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสาวรายหนึ่งได้หายไปจากรีสอร์ตดังเขาใหญ่นานนับเดือนแล้ว! สาวที่หายตัวไปคือ น.ส.ลำดวน คณะวาปี หรือปุ๊ก อายุ 25 ปี นักวิชาการสาธารณสุข ตำบลหนองเลิง จ.หนองคาย โดยเดินทางร่วมคณะมาประชุมที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขาใหญ่

กลางดึกวันที่ 14 ธันวาคม 2553 เพื่อนร่วมห้องเห็น “ลำดวน” สวดมนต์ก่อนนอน ซึ่งสวดเสียงดังและนานมาก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นก็นอนหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมา “ลำดวน” ได้หายออกจากห้องไปแล้ว ทิ้งกุญแจรถ กุญแจสถานีอนามัย และโทรศัพท์มือถือไว้ เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบ “ลำดวน” ออกจากห้องช่วงตี 4 เธอเดินวนเวียนอยู่ในรีสอร์ตหลายรอบ

กระทั่งเดินหายออกไป เมื่อคุยกับเพื่อนร่วมงานก็พบว่า เธอเพิ่งทำงานได้แค่ 1 ปี ช่วงหลังเห็นว่าไปถือศีลกินเจ จึงออกตามหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะศาลเจ้าแม่กวนอิม ในพื้นที่ใกล้ๆ กับเขาใหญ่จนทั่วแต่ก็ไม่พบ กระทั่งถึงเวลาเดินทางกลับหนองคาย คณะทุกคนจำเป็นต้องกลับ จากนั้นญาติของนางสาวลำดวนจึงได้เข้าแจ้งความเพื่อค้นหาตัว

...

ญาติได้พึ่งร่างทรง ระบุว่า เธอยังมีชีวิตอยู่ โดยอยู่บริเวณทิศตะวันตกของศูนย์เฝ้าระวังไฟป่าเขาใหญ่ เมื่อไปตรวจสอบพบจุดดังกล่าวเป็นเหว ด้านล่างพบรอยเท้าหญิงสาว แต่ระบุไม่ได้ว่าเป็นของใคร เจ้าหน้าที่แบ่งทีมค้นหา 3 ชุด พบชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งคล้ายกับ “ลำดวน” เมื่อเข้าไปทัก ผู้หญิงคนดังกล่าวก็แสดงอาการหวาดกลัวแล้วก็วิ่งหนีไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรองเท้าส้นสูง และกระเป๋าสตรี 1 ใบ ภายในกระเป๋าพบกระดาษฉบับหนึ่ง ซึ่งพ่อแม่ลำดวนยืนยันว่าเป็นกระเป๋าของเธอ และลายมือที่เขียนก็เป็นของลูกสาว เนื้อหาในกระดาษเขียนว่า “เธอถูกไสยศาสตร์ครอบงำ จำเป็นต้องไปกำจัดออก” สิ่งที่เกิดขึ้นกับ “ลำดวน” ไม่มีใครหาคำตอบได้ว่าเธอ “หายไปไหน” เจ้าหน้าที่พยายามปูพรมค้นหา ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่หาเท่าไรก็ไม่พบ

มีเพียงเสียงโทรศัพท์สายหนึ่งที่โทรมาหาญาติ อ้างว่าเป็นพระธุดงค์ บอกว่า ตอนนี้เธอยังมีชีวิต หายไปอยู่ในเมือง “บังบด” ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองลับแลที่มีแต่ผู้หญิง

...

แต่นั่นก็เป็นเพียงคำพูดลอยๆ ยังพิสูจน์ความจริงไม่ได้ แต่ที่เป็นเรื่องจริงคือ ทั้งสองหายตัวไปและยังหาไม่พบ

ซึ่งถึงวันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะยังมีชีวิต หรือตายไปแล้ว...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ 

ชม 3 นาทีคดีดังเรื่องอื่นๆ