8 ปีมาแล้ว กับคดีสะเทือนขวัญสังคมไทย
ฆาตกรที่สร้างความหวาดกลัว ให้กับอาชีพ “คนขับรถรับจ้าง” ลงมืออย่างเลือดเย็น ก่อนปล่อยให้ตายอย่างสุดแสนทรมาน ความจริงอันน่าสะพรึง เปิดเผยสู่สาธารณชน เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 เมื่อตำรวจกองปราบร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา พยายามตามหาคนหาย จนสืบรู้พฤติกรรมเหี้ยมของฆาตกรรายหนึ่ง
3 นาทีคดีดัง โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอย้อนรอยเหตุการณ์สุดเหี้ยม คดีวางยาพิษเพื่อชิงทรัพย์ โดยมีผู้เสียชีวิต 5 ศพ หายสาบสูญ 1 และรอดชีวิต 3 ราย
เหตุการณ์นี้ เริ่มต้นจากเหตุการณ์ “คนหาย” เมื่อจู่ๆ คนขับรถรับจ้าง ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลายคน จนกระทั่งเริ่มมีเบาะแสมากขึ้น เมื่อตำรวจกองปราบลงพื้นที่ และได้พบเจอกับพยาน
...
สิ่งที่ค้นพบคือพฤติกรรมของคนร้ายมักจะว่าจ้าง “คนขับรถ” เดินทางไปที่ต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดในแถบภาคใต้ เมื่อตำรวจแกะรอย ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในที่สุด ก็ตามรวบ “ไอ้โหด” รายนี้ได้ ที่ห้องพักในอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ ใน ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ชายใจทมิฬรายนี้ คือ นายนิรุต หรือ จำลอง สอนคำหาร ชาวบ้านที่มีพื้นเพอยู่ในตำบลทุ่งตำเสา จ.สงขลา
สิ่งที่ทำให้ตำรวจและสังคมตกตะลึงคือ คำสารภาพและพฤติการณ์ที่ลงมือ ด้วยการวางยาพิษทำร้ายผู้คนมาแล้ว 9 ครั้ง สิ่งที่นายนิรุตทำคือ เขาอาศัยจังหวะช่วงแวะปั๊มน้ำมัน จะแอบเอายาพิษ ซึ่งก็คือยาฆ่าแมลงที่พกติดตัวมา ใส่ลงไปในกาแฟให้คนขับรถดื่ม เมื่อ “โชเฟอร์” ดื่มกาแฟพิษเข้าไปแล้ว ก็จะเกิดอาการหมดสติ จากนั้นก็ลากเอาร่างไร้สติไปทิ้งตามป่า หรือในที่เปลี่ยว ปล่อยให้ค่อยๆ ตายอย่างทรมาน แต่บางคนก็รอดมาได้
สาเหตุที่ฆาตกรเลือดเย็นผู้นี้เลือกใช้ยาฆ่าแมลง เพราะเคยเป็นเกษตรกรมาก่อน ค่อนข้างเชี่ยวชาญในการใช้สารพิษประเภทนี้ ส่วนวิธีการลงมือ “วางยาพิษ” เพราะคิดว่าสะดวก รวดเร็ว ง่ายต่อการชิงทรัพย์คนที่เสียชีวิต ส่วนใหญ่จะดื่มกาแฟปริมาณมาก หรือดื่มจนหมด
เหยื่อ 2 รายที่รอดชีวิต บอกกับตำรวจว่า หลังซดกาแฟเข้าไปก็สิ้นสติ ถูกนำร่างไปทิ้ง แต่ยังโชคดีที่ไม่ตาย ส่วนอีก 1 คนที่รอด คือ นายเจริญ ดาราน้อย โชคดีกว่าคนอื่น เพราะนายนิรุต เลือกใช้ยานอนหลับ แต่นายเจริญยังไหวพริบดี เมื่อเขาใกล้สิ้นสติ เขาไล่นิรุตลงจากรถก่อน
คนที่หายสาบสูญนั้น นายนิรุต ให้การว่าจำไม่ได้ว่านำร่างไปทิ้งที่ไหน เพราะเวลานั้นเป็นช่วงตกดึก เมื่อนำร่างไร้สติไปทิ้งแล้วก็ขับรถออกไปทันที
สำหรับทรัพย์สินที่ได้อย่างรถกระบะ จะนำไปขายให้แก๊งขโมยรถ ในราคา 50,000 บาท เมื่อได้เงินก็เอามาใช้จ่าย วันที่จับกุมตำรวจพบหลักฐาน เป็นเงินสดในตัวเกือบ 2 หมื่นบาท โทรศัพท์ 1 เครื่อง และ “ยาฆ่าแมลง” อีก 1 ขวด
สิ่งที่สังคมสงสัยอย่างมากในเวลานั้น คือ นายนิรุต เป็น “คนโรคจิต” หรือไม่? พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บังคับการกองปราบปราม (ขณะนั้น) เผยว่า จากการตรวจสอบสภาวะจิตใจ ทางตำรวจเชื่อว่าเขาไม่ใช่คนไข้โรคจิต แต่สาเหตุที่ทำให้ลงมืออย่างเหี้ยมโหด และต่อเนื่องนั้น เชื่อว่าเพราะแค่ต้องการทรัพย์
...
ขณะเดียวกัน เคยมีนักจิตวิทยา วิเคราะห์พฤติกรรมนายนิรุตว่า ไม่เข้าข่ายโรคจิต เพราะคนโรคจิตไม่สามารถวางแผนอะไรได้แต่อาจเข้าข่ายในลักษณะจิตเวช เรียกว่า sociopathic หรือ อาฆาตสังคม
คนกลุ่มนี้มักมีปัญหาในวัยเด็ก ส่วนมากจะเป็น “ผู้ถูกกระทำ” โดยไม่มีทางต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย จิตใจ จนกลายเป็นคนที่มีบุคลิกแปรปรวน
สำหรับนายนิรุตนั้น หลังถูกตำรวจควบคุมตัวได้ไม่นาน เขาก็ได้ก่อ “อัตวินิบาตกรรม” ในห้องขัง สภ.คลองวาฬ เรียกว่า คดีจบลงไปโดยปริยาย
แต่..สิ่งที่ต้องพึงระวังคือ คนในสังคม มีทั้งคนดีและคนชั่ว รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวัง อย่าประมาท เพราะ โจร ฆาตกร หรือ มิจฉาชีพ จะลงมือทำชั่วทันทีที่มีโอกาส..
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ชม 3 นาทีคดีดังที่น่าสนใจ
...