ชีวิตสมรสที่ดูราวกับ DISTINY ระหว่าง 'กัปตันแจ๊ค สแปร์โรว์' จากจักรวาลโจรสลัด ที่แล่นเรือ BLACKPEARL ไปพบรักกับ 'เมร่า' จากจักรวาล DC ในทะเลแคริบเบียน จู่ๆ ก็พลันกลับกลายเป็นเส้นขนาน ชนิดงงงวยกันไปทั้งโลก แต่ที่มันดูร้ายไปกว่านั้นคือ ทั้ง 'กัปตันแจ๊ค สแปร์โรว์' ดันเปิด WAR กับ 'เมร่า' ในแบบที่เรียกว่า 'อภิมหาการวิวาทแห่งทศวรรษ' จนสั่นสะเทือนไปทั้ง 7 คาบสมุทรนี้น่ะสิ...
ทั้งๆ ที่คู่นี้ 'กัปตันแจ๊ค สแปร์โรว์' หรือ 'จอห์นนี เดปป์' (JOHNNY DEPP) วัย 57 ปี เข้าพิธีวิวาห์และอยู่กินฉันผัวเมียกับ 'เมร่า แอมเบอร์ เฮิร์ด' (AMBER HEARD) วัย 34 ปี กันได้เพียง 15 เดือน (เท่านั้น)
และทั้งหมดที่ 'คุณ' จะได้อ่านนับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป คือ "มหากาพย์การทะเลาะวิวาทแห่งทศวรรษ" ที่คน(เคยรัก) ต่างออกมา "แฉ" เรื่องคาวๆ ทั้งในมุ้งนอกมุ้ง เพื่อให้สาธารณชนได้รับสดับรับฟังอย่างเอร็ดอร่อยกันมาต่อเนื่องยาวนานหลายปี
เอาล่ะ...แต่ก่อนจะไปเรื่องคาวๆ เราไปเรื่องหวานๆ กันก่อนดีกว่า...
บันทึกชีวิตรักของ 'จอห์นนี เดปป์' และ 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งคู่ได้โคจรพบกันในภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ The Rum Diary เมื่อปี 2011
แต่...เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งใจร้อนไป เพราะแม้เมื่อปรากฏตัวในซีนเดียวกัน และทั้งคู่ดูเหมือนจะมีเคมีที่สุดลงตัว แต่ในเมื่อตอนนั้น 'พี่เดปป์' แกมี 'วาเนสซา พาราดีส์' (แฟนสาวคนที่ 3) พ่วงด้วยลูกอีก 2 คน อยู่ในเวลานั้น
...
ฉะนั้น แม้ว่าทั้งคู่อาจจะมีสปาร์กอะไรกันนิดหน่อย...(อยู่บ้างมั้ง?) แต่ก็ยังคงไม่มีอะไร...(หรือเปล่า?)
"การร่วมงานกับ 'จอห์นนี' ถึงแม้ว่ามันจะทรมานเอามากๆ แต่มันดีกว่าที่จินตนาการเอาไว้มากเช่นกัน" สาวสวยผมทองมากเสน่ห์กล่าวกับสื่อต่างประเทศถึงประสบการณ์ในการทำงานกับหนึ่งในสุดยอดนักแสดงของโลก
คือแบบว่า...ที่ผ่านมา 'ป๋าเดปป์' แกผ่านชีวิตรักกับหญิงสาวมาแล้ว 3 คน ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่มีความงามระดับ AAA ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น 'วิโนนา ไรเดอร์' 1989-1993 หรือ 'เคท มอส' 1994-1998 จนกระทั่งถึง 'วาเนสซา พาราดีส์' 1998-2012
ส่วนฝ่าย 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' เองก่อนจะได้แต่งงานกับ 'ป๋าเดปป์' ก็ควงอยู่กับ Tasya van Ree จิตรกรและช่างภาพสาวชื่อดัง ออกสื่อ ในช่วงระหว่างปี 2008-2012
จากนั้นต่อมาในปี 2012 เมื่อขาเตียงของ 'เดปป์' และ 'พาราดีส์' ที่อยู่กินกันมานานถึง 14 ปี เริ่มสั่น จนทำให้ทั้งคู่แยกกันอยู่ในบั้นปลาย ข่าวซุบซิบเรื่อง 'เดปป์' กำลังออกเดทกับ 'สาวคนใหม่' จึงเริ่มหนาหูขึ้นเรื่อยๆ (ซึ่งช่วงนั้น 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' ก็เพิ่งแยกทางจากสาวคู่ขาเช่นเดียวกัน)
จนกระทั่งในเดือนเมษายน ปี 2013 เมื่อทั้ง "คุณและเธอ" เกาะกุมมือกันไปดูคอนเสิร์ตวง Rolling Stones จนปาปารัสซีแอบถ่ายภาพได้ท่ามกลางฝูงชนนับพันๆ คน ทุกอย่างที่ลือกันมาจึงกลายเป็นเรื่องจริงในที่สุด WOWWW!!
เอาล่ะ แม้ทาง 'ป๋าเดปป์' แกจะจบกับอดีตเมียแบบลงเอยกันด้วยดี...
แต่ฝ่าย 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' นั้น มันต่างออกไป เมื่อ SHE ถูกจับและตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย Tasya van Ree หลังเปิดฉากทะเลากันกลางสนามบินในกรุงวอชิงตัน เมื่อปี 2009 (แต่แล้วหลังจากเคลียร์กันได้ จู่ๆ Tasya van Ree กลับกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุว่า "เข้าใจผิดและตื่นเต้นเกินเหตุ" กับเรื่องที่เกิดขึ้น (เอากับพวก SHE สิ)
เอาล่ะไปกันต่อดีกว่า...หลังบ่มเพาะความรักกันมาจนถึงเดือนมกราคม ปี 2014 ในที่สุดนิ้วนางข้างซ้ายของ SHE จึงมีประกายเพชรวิบวับๆ โชว์สื่อ เพื่อประกาศต่อชาวโลกว่า
ฉันกำลังจะเดินข้ามมหาสมุทรไปแต่งงานกับ 'กัปตันแจ๊ค สแปร์โรว์' แล้วนะจ๊ะ
จากนั้นในปี 2015 ทั้งคู่ก็เข้าสู่ประตูวิวาห์ท่ามกลางเพื่อนสนิทและครอบครัวที่ใกล้ชิดกันจริงๆ เพียง 100 คนเท่านั้น ที่บ้านพักของ 'ป๋าเดปป์' ในแอลเอ
แต่แล้วในวันที่ 23 พฤษภาคม 2016 มหาสงคราม(อดีต)ผัวเมียแห่งศตวรรษ ก็มาถึงจุดเริ่มต้น...
...
หลังแต่งงานกันได้เพียง 15 เดือน จู่ๆ 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' ก็ประกาศขอหย่ากับนักแสดงหนุ่มที่สาวๆ ทั้งโลกลุ่มหลง แบบชนิดอึ้งกันทั้งโลก พร้อมกับติดแคปชั่นสั้นๆ ว่า...
"ชีวิตรักหลังวิวาห์ไม่มีความสุขอย่างที่คิด เพราะเราต่างกันจนเข้ากันไม่ได้"
นอกจากนี้ SHE ยังกล่าวหานักแสดงหนุ่มมากฝีมือด้วยว่าเป็นพวกขี้เมา (ทั้งยาเสพติดและเหล้า) และเมื่อใดที่เมาได้ที่ก็มักจะชอบทำร้ายร่างกายและจิตใจในช่วงที่ใช้ชีวิตคู่ และร้องขอคำสั่งศาลไม่ให้ 'ป๋าเดปป์' เข้าใกล้เธอ พร้อมกับโชว์ใบหน้าที่มีรอยช้ำรอบตา ซึ่ง SHE อ้างว่า เกิดจากถูก 'กัปตันแจ๊ค สแปร์โรว์' ปาโทรศัพท์ใส่หน้า ออกสื่อและโซเชียลมีเดียจนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ในวันเกิดเหตุที่เธออ้างว่า มันเกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม 2016 นั้น ต่อมาตำรวจ LA ที่ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือและได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ กลับยืนยันว่า ไม่พบหลักฐานที่จะนำไปสู่การก่ออาชญากรรมใดๆ (รวมถึงรอยช้ำอันโด่งดัง ซึ่ง SHE อ้างว่ามี จู่ๆ ก็ดันอันตรธานไปซะเฉยๆ)
...
แต่สิ่งที่ทำให้กัปตันของเราชีช้ำหนัก ก็เพราะเอกสารขอหย่านี้ดันมาถึงหลังจากคุณแม่ที่ชายหนุ่มผู้นี้รักมากสุดเพิ่งจากไปได้เพียง 2 วันเท่านั้น และที่ร้ายหนักไปกว่านั้นอีกก็คือ อดีตคนเคยรักยังดันมาเรียกร้องขอเงินค่าเลี้ยงดูจาก MEGASTAR ที่ว่ากันว่าน่าจะมีทรัพย์สินรวมกันถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย! (เรียกว่า ถ้าจะคิดทำกันถึงขนาดนี้ก็เอากันให้ตายไปข้างเลยไหมจ๊ะ)
ด้วยเหตุนี้ 'ป๋าเดปป์' จึงเลือดขึ้นหน้า ตอบโต้ 'คนเคยรัก' ทันทีว่า ทั้งหมดที่กำลังทำอยู่นี้ เพราะ SHE หวังหาเงินก้อนโตจากข้อกล่าวหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว
จนกระทั่งในวันที่ 16 สิงหาคม 2016 บทสรุปการแยกทางระหว่างทั้งคู่ก็ถึงจุดสิ้นสุด(สักที) เมื่อ 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' (ที่อยู่ภายใต้คำสัตย์สาบานต่อศาล) ยอมกลับลำถอนคำร้องที่กล่าวหาว่า 'ป๋าเดปป์' ทำร้ายร่างกาย รวมถึงขอรับเงินค่าเลี้ยงดูเดือนละ 50,000 เหรียญสหรัฐ ออกจากคดีฟ้องหย่า พร้อมกับมีการระบุในเอกสารไว้อย่างชัดเจนว่า
"ป๋าไม่เคยมีการลงไม้ลงมือทำร้ายเธอ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ"
...
อย่างไรก็ดี ในท้ายที่สุดเพื่อจบปัญหาเรื่องนี้(หรือเปล่า?) 'ป๋าเดปป์' ต้องยอมเซ็นเช็คมูลค่าถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่อดีตภรรยา(หมาดๆ) อยู่ดี
และแล้วทั้งคู่ได้หย่าขาดกัน(จริงๆ สักที) ในปี 2017 ทุกอย่างเหมือนจะจบแบบ HAPPY ENDING แบบตัดจบหนังไทยใช่ไหม? คุณๆ ทั้งหลาย...
แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย เพราะนี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของมหาสงครามระหว่างทั้งคู่ต่างหาก!
เหมือนจะจบแต่ยังไม่จบ เพราะต่อมาในธันวาคม ปี 2018 สงครามครั้งใหม่ระหว่างทั้งคู่ก็อุบัติขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้น่าจะ IMPACT กว่าสงครามใน THE END GAME เสียด้วย
นั่นเป็นเพราะจู่ๆ 'เมร่า' จาก 'จักรวาล DC' ดันไป GRAND OPENING กับสาธารณชน(อีก)ว่า...
"เดี๊ยนตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว" บนคอลัมน์ที่ตัวเองเป็นผู้เขียนใน 'หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์' แถมยังระบุถึงความรุนแรงที่ว่านี้ว่า ถึงขั้นทำให้เธอสติแตกไม่กล้าเหยียบย่างเข้าไปในฮอลลีวูด ตัวละครที่รับเล่นเอาไว้ถูกคนใหม่เสียบแทน และแบรนด์แฟชั่นระดับโลกเลิกจ้างเป็นเวลาถึง 2 ปี จากบาดแผลที่บริเวณใบหน้า ซึ่งเกิดจาก...
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร!
(ว่าแต่ในประเด็นนี้มีเสียงซุบซิบนินทามากมายว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง เหตุไฉน SHE จึงยังรักษาบท 'เมร่า' ในหนังระดับบล็อกบัสเตอร์อย่าง AQUAMAN อยู่ได้)
นอกจากนี้ 'ใครคนนั้น' ยังโทรมาขู่ฆ่าเธอ 3 เวลาหลังอาหาร ทำให้ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ทุกสัปดาห์ เพื่อจะไม่ต้องได้ยินเสียงสุดหวาดผวา(มาก)นั้นอีกด้วย...
หากแต่เพียงแค่นี้ คนที่อ่านอาจจะยังเห็นภาพไม่พอ สาวสวยจากจักรวาล DC จึงระบายสีลงไปเพิ่มเติมอีกว่า ด้วยความกลัว เธอแทบจะไม่กล้าออกจากบ้านนานนับเดือน และหลังจากนั้น หากเมื่อใดที่มีธุระจำเป็นจะต้องออกจากบ้านจริงๆ ก็ใช้วิธีใช้กล้องจากโดรนหรือกล้องติดขา ไปติดตั้งอยู่ตามรถ หรือจักรยานยนต์ เพื่อเป็นการระแวดระวังภัยและแจ้งข่าวต่อสาธารณชน หากมีใครคอยติดตามเธอ(ขนาดนั้น)
เอาล่ะ...แม้จะไม่ได้มีการระบุชื่อ 'อดีตสามี' ลงไปสักคำเดียว แต่โลกทั้งโลกก็รู้อยู่ดีว่า SHE หมายถึงใคร?
ด้วยเหตุนี้ มีหรือ 'เจ้าพ่อล้านคาแรกเตอร์' จะยอมอยู่เฉย พี่แกเลยสั่งทนายยื่นฟ้องหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมกับเรียกค่าเสียหายก้อนโตถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐทันที!
เนื่องจากสิ่งที่ป๋าเรียกว่า "ที่สุดแห่งการเต้าเรื่องหลอกลวง" ซึ่งคนเคยรักเขียนถึงนั้น มันทำให้เขาสูญเสียชื่อเสียง จนกระทั่งส่งผลกระทบต่อการรับงานแสดงในอนาคตด้วย (โดยหนึ่งในนั้นคือ บทกัปตันแจ๊ค สแปร์โรว์ ใน PIRATES OF THE CARIBBEAN ภาคใหม่ ที่ว่ากันว่า ป๋าเดปป์อาจจะได้ค่าตัวมากถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หากมีการสร้างขึ้นมาจริงๆ และยังคงเขียนบทให้มีกัปตันจอมเพี้ยนอยู่อ่ะนะ)
โดยสื่อที่เล่นเรื่องนี้หนักที่สุดก็คือ สื่อจอมใส่สีตีไข่อย่าง THE SUN แท็บลอยด์ชื่อดังของอังกฤษ ที่ถึงขั้นพาดหัวอัด 'ป๋าเดปป์' ว่า "ไอ้มือตบเมีย"
ซึ่งข้อกล่าวหาใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงนี้ เล่นเอา 'ป๋าเดปป์' ถึงกับเสียชื่อเสียงอย่างหนัก ภาพลักษณ์ "ตลก ประหลาด แต่สุภาพ" ซึ่งอุตสาห์สั่งสมมายาวนานในฮอลลีวูดจึงเริ่มสั่นคลอนทันที
• 'เดปป์' กำลังกลายร่างจากพระเอกขวัญใจคนทั้งโลก ไปสู่ "ไอ้ขี้เมาเจ้าอารมณ์" ตบเมียตัวเอง
โดนเข้าไปแบบนี้ ป๋าเลยจัดหนัก นอกจากฟ้องอดีตเมียแล้ว ยังฟ้อง THE SUN และบรรณาธิการบริหารอย่าง 'แดน วอลตัน' (DAN WOOTTON) ฐานหมิ่นประมาททันที!
แต่แล้ว...หลังตกเป็นลูกไล่ให้อดีตเมียอยู่ยาวนาน จนถูกมหาชนรุมประณาม ทุกอย่างจึง...เกมพลิก!
มกราคม ปี 2020 จู่ๆ เว็บไซต์แท็บลอยด์ชื่อดังของอังกฤษอย่าง 'เดลีเมล์' ก็เผยแพร่คลิปเสียงบทสนทนาของหญิงสาวและชายหนุ่มคู่หนึ่ง...
"ฉันเสียใจที่ทำลงไปแบบนั้น แต่ฉันเพียงแค่ตบหน้าคุณ ไม่ได้ต่อยหน้าคุณ ที่รัก ฉันไม่ได้ต่อยคุณ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่า มือฉันมันไปตบหน้าคุณได้อย่างไร แต่คุณก็ไม่เป็นไรไม่ใช่หรือ คุณไม่ได้บาดเจ็บ (สักหน่อย) ฉันไม่ได้ต่อยคุณ ฉันเพียงแค่ตบคุณ"
(ฟังคลิปเสียง: dailymail.co.uk)
โดยเสียงที่ว่านี้ ไม่ว่าจะนั่งหรือนอนตะแคงฟังยังไงก็เป็นเสียงสนทนาระหว่าง 'ป๋าเดปป์' และ 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' (แน่นอน)
และหลังจากคลิปดังกล่าวปล่อยออกมาได้ไม่นาน อดีตแฟนสาวอย่าง 'วิโนนา ไรเดอร์' และ 'วาเนสซา พาราดีส์' ซึ่งไม่อาจทนนิ่งเฉยให้ใครมารังแกอดีตคนรักได้อีกต่อไป ยังได้พร้อมใจเขียนจดหมายเปิดผนึก เพื่อยืนยันให้โลกรู้ว่า ผู้ชายคนนี้เป็นคนดี(จริงๆ) นะจ๊ะ!
โดยจดหมายของ 'วิโนนา ไรเดอร์' ระบุว่า ความคิดที่ว่า 'เขา' (เดปป์) เป็นพวกใช้ความรุนแรงนั้น มันช่างห่างไกลจาก 'จอห์นนี' ที่ฉันเคยรู้จักและรัก ฉันทำใจให้เชื่อกับข้อกล่าวหา (ที่มีกับป๋าเดปป์) แบบนี้ไม่ได้จริงๆ
ด้าน 'วาเนสซา พาราดีส์' ที่อยู่ด้วยกันมาถึง 14 ปี ระบุว่า เรื่องที่กล่าวหา 'จอห์นนี' มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงได้ เพราะตั้งแต่อยู่กินมาหลายปี ฉันสามารถพูดได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับทั้งฉันและลูกๆ เลยสักครั้งเดียว!
เหล่าคน(อยากรู้)เรื่องคนดัง ที่เคยแห่แหนฝ่ายหญิงจากมหากาพย์ที่เกิดขึ้น จึงค่อยๆ หันมาสบตากันแล้วพูดขึ้นว่า จริงๆ เราไม่ควรรีบดราม่า แล้วมาฟังความให้รอบด้านก่อนก็น่าจะดีนะ!
กรกฎาคม ปี 2020
แต่ที่หฤหรรษ์ราวกับละครน้ำเน่าก็คือ การต่อสู้กันในศาลครั้งล่าสุดที่ดุเด็ดเผ็ดมันแซบยิ่งกว่าเคี้ยวพริก 150 เม็ด และยังเดือดยิ่งกว่าศึกคดีหย่าภาคแรกมากมายนัก ซึ่งทั้งคู่ต่างออกมาสาวไส้ให้กากินถึงพฤติกรรมสุดเหวี่ยงต่างๆ ชนิด ประชาชีถึงกับต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
• ประเด็นที่ 1 (ใครกันแน่?) ที่ใช้ความความรุนแรง
ประเด็นนี้ ฝ่ายหญิงถึงขนาดขนานนาม 'ป๋าเดปป์' ในระหว่างที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันว่าเป็น THE MONSTER จากการทุ่มเธอใส่โต๊ะปิงปอง และฉุดกระชากร่างผ่านพื้นที่เต็มไปด้วยเศษกระจก
นอกจากนี้ SHE ยังอ้างด้วยว่า ได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจากการถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกายตลอดระยะเวลา 3 วัน ขณะที่ตามไปถ่ายหนัง PIRATES OF THE CARIBBEAN ที่ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงเดือนมีนาคม 2015
อะไรมันจะดราม่ามาเต็มเบอร์นั้น...
ในขณะที่ ฝ่ายป๋าเดปป์ตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าวด้วยการโชว์ภาพถ่ายบาดแผลลึกจนถึงกระดูกที่บริเวณนิ้ว ซึ่งป๋าอ้างว่า ทั้งหมดนี้เกิดจากฝีมือของ 'คนเคยรัก' ที่ปาขวดวอดก้าใส่ ขณะอยู่ด้วยกันในห้องพักที่ประเทศออสเตรเลีย
นอกจากนี้ ประเด็นการกล่าวหาเรื่องทำร้ายร่างกายกันไปมานี้ ทางฝ่ายป๋าเดปป์แกได้ 'ฌอน เบต' (Sean Bett) หัวหน้าบอดี้การ์ด ขึ้นเป็นพยานยืนยันในศาลว่า เขาเห็นหลายต่อหลายครั้งว่า 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' เป็นฝ่ายทั้งทำร้ายร่างกายและจิตใจกับพระเอกคนดังหลายต่อหลายครั้ง ในช่วงระหว่างที่ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่ SHE แตะต้องของมึนเมา เขามักจะรีบนำตัวป๋าเดปป์ออกไปให้ไกลๆ จากคู่กรณีทันที ก่อนที่จะเกิดเรื่องเกิดราวอะไรไปใหญ่โตขึ้น
ในขณะที่ 'เคท เจมส์' (Kate James) อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' ยังได้แฉ SHE ในศาลอีกว่า สตาร์สาวสวยได้แอบนำประสบการณ์สุดขมขื่นของเธอ จากการถูกข่มขืนเมื่อ 26 ปีก่อน ซึ่งเธอเคยเล่าให้ SHE ฟัง มาสร้างสตอรี่ให้กับตัวเองเพื่อหวังจะชนะคดีนี้ด้วย
• ประเด็นที่ 2 พฤติกรรม (ซกมก) ทำร้ายชีวิตคู่
'ป๋าเดปป์' เปิดฉากแฉอดีตเมียอย่างไม่ไว้หน้าต่อศาลในประเด็นนี้เอาไว้ว่า เป็นพวก PARTY GIRL ขี้เมาหยำเปขึ้นขั้น...อืม...
'อึ' ลงบนเตียงนอนในเพนท์เฮาส์สุดหรูของเขาที่ LA!
อย่างไรก็ดีในประเด็นนี้ สาวหน้าหวานแก้ต่างว่า ไม่จริ๊ง ไม่จริง ก้อนอึที่เห็นคราบบนเตียงนั้น มาจากสุนัขสุดน่ารัก 2 ตัวพันธุ์ยอร์คเชียร์ที่เธอเลี้ยงไว้ต่างหาก
ทำให้ฝ่ายป๋าเดปป์โต้แย้งแบบหน้าดำหน้าแดงว่า เรื่องนี้สามารถยืนยันได้ด้วยแม่บ้านที่มาทำความสะอาด และก้อนอึ (ขนาดมโหฬาร) นี้ ไม่มีทางออกมาจากสุนัขที่มีน้ำหนักเพียง 3 หรือ 4 ปอนด์ได้แน่นอน ฉะนั้น มันจะต้องเป็นฝีมือของ SHE หรือไม่ก็เพื่อนของ SHE ที่มาร่วมงานปาร์ตี้ฉลองอายุครบ 30 ปีของ SHE ในวันนั้นแน่ๆ
หลังสิ้นสุดคำให้การนี้ 'ป๋าเดปป์' ยังได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า เรื่อง (ซกมก) ที่เกิดขึ้นนี้ มันทำให้ 'เขา' รู้ได้ทันทีว่า นี่คือเรื่องที่จะนำมาสู่จุดสิ้นสุดความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่
• ประเด็นที่ 3 คบชู้สู่ชาย
แต่ที่ร้ายที่สุดคือ การกล่าวหาว่า 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' เล่นชู้กับ 'เจมส์ ฟรังโก' (James Franco) และ 'อีลอน มัสก์' (Elon Musk)
โดยร่างแถลงที่ 'ป๋าเดปป์' ระบุถึงข้อกล่าวหานี้ ซึ่งได้ให้ทนายอ่านในศาล มีข้อความที่สุดแสบสันเอาไว้ว่า...
"ผมจะยอมยุติทุกสิ่ง หาก MOLLUSK (ชื่อ Musk ที่ป๋าแกตั้งให้ใหม่) ยอมจ่าย (ค่าเสียหาย) และผม โ_ตร จะยินดีที่เธอ (อดีตเมีย) ต้องการที่จะเดินหน้าสู้ในคดีนี้ต่อไป เพราะเธอได้มีหวังชนเข้ากับกำแพงอันแข็งแกร่งแน่นอน"
ในขณะที่ ทนายของนักแสดงหนุ่มคนดังยังได้มอบหลักฐานที่อ้างว่า สามารถพิสูจน์ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสม (เล่นชู้) ต่อศาลเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งสื่อหลายสำนักเชื่อว่า มันคือคลิปหลุดที่เป็นภาพความใกล้ชิดที่เกินพอดีระหว่างทั้ง 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' กับ 'เจมส์ ฟรังโก' และ 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' กับ 'อีลอน มัสก์' ในเพนท์เฮาส์สุดหรูของ 'ป๋าเดปป์' ใน LA ในช่วงปี 2016 ซึ่งถูกแชร์ในโชเชียลอย่างล้นหลามก่อนหน้านี้
ซึ่งแน่นอน SHE ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยทนายได้ตอบโต้ว่า คลิปดังกล่าวมาจากกล้อง CCTV ที่สามารถออนไลน์ได้เฉพาะบางเวลาเท่านั้น อีกทั้งข้อกล่าวหา เรื่องการเล่นชู้ไม่ควรนำมาเกี่ยวข้องในการพิจารณาคดีนี้
• ประเด็นที่ 4 ตกลง ใครคือไอ้ขี้เมากันแน่?
ทั้งคู่กล่าวหากันไปมาว่ามีพฤติกรรมดื่มหนัก รวมถึงมีการใช้สารเสพติดในระหว่างชีวิตคู่ ซึ่งแน่นอนทั้งคู่ปฏิเสธพัลวัน แต่ 'ป๋าเดปป์' น่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบในประเด็นนี้นิดๆ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า นักแสดงมากฝีมือผู้นี้มีพฤติกรรมทั้งดื่มและเสพหนักมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น.
ผู้เขียน: นายฮกหลง
กราฟิก: เทพอมร แสงธรรมาพิทักษ์
END CREDIT
ท่ามกลางคดีความที่สาดโคลนใส่กันจนเปรอะเปื้อนไปทั้งคู่นั้น แวบหนึ่งมันบังเกิดข่าวซุบซิบที่ทำเอาบรรดาชาวขาเผือกมือไม้สั่นอยากแตะคีย์บอร์ด
นั่นก็คือ จริงหรือไม่? ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา 'ป๋าเดปป์' แกใช้จ่ายราวกับสุลต่านบ่อน้ำมัน จนกระทั่งทรัพย์สินที่เคยมีมากมายจากการเล่นหนังทำเงินมาหลายเรื่องตลอดชีวิตนักแสดง ที่ว่ากันว่าน่าจะมีมากมายถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น ในปัจจุบัน (อาจจะ) ลดฮวบลงเหลือแค่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรืออาจจะเหลือน้อยกว่านั้น (ก็เป็นได้)
แล้ว 'ป๋าเดปป์' แกหมดเงินไปกับอะไรบ้างน่ะหรือ?
ทั้งหมดนี้คือ สิ่งที่บรรดาสื่อทั้งหลายต่างคุ้ยแคะมาให้สาธารณชนได้รับรู้
'กัปตันแจ๊ค สแปร์โรว์' หมดเงินที่ได้มาไปจากอะไรกันบ้าง? (ฟังหูไว้หูไว้สักนิดก็ดีนะ)
1. 30,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน สำหรับค่าไวน์ราคาแพง (มาก) ที่บินมาเสิร์ฟจากทั่วทุกมุมโลก
2. 200,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน สำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสุดหรู ที่มีไวน์เลิศรสรอเสิร์ฟบนเครื่อง (เช่นกัน)
3. เรือยอชต์สุดหรูหราขนาด 156 ฟุต มูลค่า 18 ล้านเหรียญสหรัฐ และค่าใช้จ่ายสำหรับเป็นเงินเดือนบรรดาสตาฟฟ์บนเรือ รวมถึงค่าบำรุงรักษาที่มีค่าใช้จ่าย 350,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน อย่างไรก็ดี หลังพ่อกัปตันมีปัญหาเรื่องเงิน จึงได้ตัดสินใจขายเรือเจ้าปัญหานี้ให้กับนักเขียนอภิมหาเศรษฐีของโลกอย่าง 'เจ.เค.โรว์ลิง' ไปแล้ว
4. หลายล้านเหรียญสหรัฐหมดไปกับกีตาร์ราคาแพงระยับที่สะสมเอาไว้มากมายถึง 70 ตัว!
5. และ…อีกหลายล้านเหรียญสหรัฐ หมดไปกับงานศิลปะของศิลปินชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Andy Warhol, Amedeo Modigliani และ Leonor Fini ที่ว่ากันว่า สะสมไว้มากมายถึง 200 ชิ้นเข้าให้แล้ว
6. ว่าจ้างสตาฟ์ที่มีจำนวนมากมายถึง 40 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบอดี้การ์ดเอาไว้ดูแลตัวเองและครอบครัวถึง 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
7. จ่ายเงิน 5.35 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการซื้อเกาะ 3 เกาะในบาฮามาส
8. 75 ล้านเหรียญสหรัฐ หมดไปกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อและรีโนเวทบ้านพัก 14 หลังในประเทศฝรั่งเศส และเพนท์เฮาส์สุดหรู 5 แห่ง ใน LA และบ้านพักในฟาร์มปศุสัตว์ในรัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา
9. อีกหลายล้านเหรียญสหรัฐ หมดไปกับการเก็บสะสมรถยนต์สุดหรูและแน่นอนสุดแพงด้วยเช่นกัน ที่ว่ากันว่าน่าจะมีมากมายถึง 45 คัน
10. แหวนแต่งงานมูลค่า 400,000 เหรียญสหรัฐ และอีก 7 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นค่าเลี้ยงดูให้กับ 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' และอีกไม่ต่ำกว่า 127 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับ ลูก 2 คน และ 'วาเนสซา พาราดีส์' เมียคนก่อนหน้า
11. ค่าใช้จ่ายก้อนมหาศาลให้กับ 'ทีมทนาย' ที่ป๋าเดปป์จ้างสู้คดีหย่าและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับ 'แอมเบอร์ เฮิร์ด' ที่ยังยืดเยื้อและอาจจะยาวนาน ซึ่งบางทีค่าเสียหายที่เรียกจากเมียจอมแสบที่ถึงแม้จะสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้จะชนะ ก็อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการเซ็นเช็คให้กับทีมทนายที่ว่านี้
12. สูญเสียรายได้ก้อนมหาศาลจากการพลาดได้รับค่าจ้างสุดงามในหนังฟอร์มยักษ์ จากภาพลักษณ์ที่มัวหมองที่เกิดขึ้นจากเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน