"มันมีทั้งสคริปต์ที่ยอดเยี่ยมและ STORY ที่โดนใจ ทั้งหมดนี้คือ ‘เหตุผลสำคัญ’ ที่ทำให้ ‘ผม’ พร้อมที่จะกลับไปร่วมงานกับ ‘เธอ’ อีกครั้ง"

คำพูดที่แฟนภาพยนตร์ทั่วโลก ‘ต้องการได้ยิน’ จากผู้กลับมาแจ้งเกิดในฮอลลีวูดได้อีกครั้ง จนถึงกับมีผู้ตั้งชื่อยุคสมัยแห่งการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่นี้ว่า ‘เคียนูเอสซองซ์’ (KEANUAISSANCE)

ภายหลังชายผู้นี้ ‘ยอมตกลง’ กลับไปรับบทใน FRANCHISE ภาพยนตร์ ที่ทำให้ทั้งโลกตื่นตะลึงกับอะไรที่เรียกว่า "BULLET-TIME" "SPEED RAMPING" และ "OVERUSE OF SLO-MO" ตั้งแต่โน่นเลย ปี 1999

FRANCHISE ภาพยนตร์ที่ทำให้ ‘คนที่พูด’ สามารถทำเงินได้มากมายมหาศาลถึง 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการเล่นหนังเพียง 3 เรื่อง หรือเฉลี่ยแล้วจะเท่ากับได้รับค่าเหนื่อยถึง 83.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อ 1 เรื่อง! (เทียบผลงานแรกปี 1986 มีค่าตัวเพียง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และแน่นอน มันทำให้ ‘เขา’ หลุดพ้นจากสถานะ ‘พระเอกหน้าใสขวัญใจวัยรุ่น’ สู่ ‘ซุป'ตาร์ระดับแม่เหล็ก’ ของ HOLLYWOOD ทันที

...

KEANU REEVES ในโลก HOLLYWOOD หรือ NEO ในโลก ZION หรือ MR.ANDERSON ในโลก MATRIX!

อ่อ... และอาจจะรวมถึง ‘จอห์น วิค’ (JOHN WICK) ในโลก THE CONTINENTAL

THE MATRIX, THE MATRIX RELOADED และ THE MATRIX REVOLUTIONS หนัง EPIC SCI-FI สุดล้ำยุค ที่ทำให้ ‘คุณ’ ได้เห็นภาพ ‘แปลกหูแปลกตา’ ก่อนมนุษย์เข้าสู่ยุคมิลเลเนียม อย่างเช่น คนกระโดดข้ามตึกระฟ้า ผู้หญิงลอยตัวกระโดดเตะกลางอากาศโดยมีกล้องหมุนวนรอบตัว รวมถึงซีนที่โลกภาพยนตร์ไม่มีวันลืม

"ผู้ชายหงายหลัง" ค่อยๆ สโลว์หลบกระสุนนับร้อยๆ นัด ที่ถูกระดมยิงเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง

ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้พลอตมนุษย์ต่อสู้กับเครื่องจักร โดยมีวันสิ้นโลกเป็นฉากหลัง... และ DIALOG ที่สุดแสนคลาสสิกแห่งโลกภาพยนตร์ ที่ว่า "นายเคยรู้สึกแบบนี้ไหม รู้สึกไม่แน่ใจว่า นายตื่นหรือกำลังฝันอยู่?"

และแม้ THE MATRIX ปฐมบทเปิดตัว FRANCHISE จะต้องออกฉายด้วยเรต R รวมถึงมีเนื้อหาที่อาจจะดูยุ่งยากสำหรับการรับชมไปสักนิด แต่เสียงร่ำลือถึงความดีงามในแบบปากต่อปากถึง ‘หนังไอ้หนุ่มแฮกเกอร์’ ที่เรียนรู้วิชากังฟู เพื่อเอาไปต่อสู้กับเครื่องจักร ก็ยังสามารถทำเงินถล่มทลายทั่วโลกได้ถึง 465 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้างราว 63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 1999

ส่วน THE MATRIX RELOADED และ THE MATRIX REVOLUTIONS ซึ่งมีเนื้อหาสลับซับซ้อนมากขึ้น (จนบางคนเดินออกมาจากโรงแบบงงๆ ก่อนที่จะเดินไปหาหนังสือที่เกี่ยวกับความเชื่อของหลายๆ ศาสนามาอ่าน เพื่อพยายามตีความสิ่งที่หนังพยายามสื่อ เพื่อให้เข้าใจมันอย่างถ่องแท้) ซึ่งเข้าโรงพร้อมกันในปี 2003 และแม้จะงงๆ แต่มันก็ยังสามารถทำเงินได้ทั่วโลกถึง 1,168 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 2 ภาครวมกัน 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

∙ คำถามที่พบบ่อย ก่อนเสียบปลั๊ก คืนสู่โลกแห่งการจองจำ

MATRIX PART 4 ตกลงจะเป็น REBOOT หรือ REMAKE?

แรกเริ่มเดิมทีหลังมีการประกาศว่าจะมีการเดินหน้าโปรเจกต์นี้ เหล่าสาวกและนักวิจารณ์ส่วนใหญ่มองว่า เนื้อเรื่องของภาค 4 น่าจะเป็นการ REBOOT (เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องและตัวละครเล็กน้อย) มากกว่าการ REMAKE (กลับไปทำตามเนื้อเรื่องเดิม)

อย่างไรก็ตาม หลัง ‘แซค เพนน์’ (ZAK PENN) นักเขียนบทมือทอง ผู้อยู่เบื้องหลังหนัง VIRTUAL REALITY สุดล้ำลึก สำหรับคนรักยุค 80 "READY PLAYER ONE" จักรวาล "TRANSFORMERS" และอีกกระบุงโกยในสารพัดโปรเจกต์ของ MARVEL ซึ่งเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำหน้าที่ THE ARCHITECT ในโลกที่มีแค่เลข 0 กับเลข 1 ครั้งใหม่นี้ ได้เคยทวีตข้อความยืนยันแล้วว่า เนื้อหาในภาคที่ 4 จะไม่เป็นทั้งการ REBOOT หรือ REMAKE ของ THE MATRIX SERIES แต่จะเป็นการเดินหน้า ‘เนื้อหา’ ต่อจากภาคล่าสุด คือ THE MATRIX RELOADED เมื่อ 17 ปีที่แล้วไปเลย!

...

อืม...ว่าแต่...มันจะต่อไปได้ยังไงหว่า? ...SPOILER ALERT! (เสียงเตือนดังลั่นโปรดเอามืออุดหูประกอบ)

อ่อ...ลืมไป ทั้งหมดที่ว่านั้นมีขึ้นท่ามกลางข่าวลือว่า ในภาคที่ 4 นี้ จะมีเนื้อเรื่องที่เชื่อมโยงถึงชีวิตในวัยหนุ่มของ ‘มอร์เฟียส’ (MORPHEUS) ตัวละครสำคัญ ผู้ชักนำ ‘พระเอกของเรา’ เข้าสู่วงการกังฟูฟัดกับเครื่องจักรด้วยนะ...รู้ยัง?

แล้วจะทำอย่างไรให้ THE NEW MATRIX เสียบปลั๊กเชื่อมโยงกับ THE ORIGINAL TRILOGY ได้?

เบื้องต้น มีเสียง(ร่ำลือ) ว่า ในภาคที่ 4 นี้ อาจจะเป็น PREQUEL (ภาคแยก) จาก THE ORIGINAL TRILOGY โดยจะเป็นการเล่าเรื่องในช่วงวัยหนุ่มของ ‘มอร์เฟียส’ (MORPHEUS) ตัวละครสำคัญผู้ชักนำ ‘พระเอกของเรา’ เข้าสู่วงการกังฟูฟัดกับเครื่องจักร โดยน่าจะเป็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาก่อนที่ ‘มอร์เฟียส’ จะปรากฏตัวในภาคแรกประมาณ 10 ปี

เมื่อกลับไปเสียบปลั๊กครั้งใหม่จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?

...

หลังการประกาศถึงการ COMEBACK อย่างเป็นทางการจากสตูดิโอวอร์เนอร์ บราเธอส์ (Warner Bros.) เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2019 สิ่งที่สามารถยืนยันได้จนถึง ณ วินาทีนี้ คือ ‘ลาน่า วาชอว์สกี’ (Lana Wachowski) หนึ่งในสองผู้ทำคลอด FRANCHISE ร่วมกับ (อดีตน้องชาย ‘แอนดี วาชอว์สกี’) ...? ยังคงทำหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับเช่นเดิม

อืม มาถึงบรรทัดนี้...เดี๋ยวสาวกรุ่นเก่าจะมึนงงกับ ‘ชื่อ’ ผู้กำกับและคำว่า ‘อดีตน้องชาย’ บนบรรทัดก่อน

คือ แบบนี้...อย่างที่เราท่องจำกันมาตั้งแต่สมัยอดีตว่า FRANCHISE THE MATRIX เกิดขึ้นได้เพราะฝีมือพี่น้องตระกูลวาชอว์สกี คือ ‘แลร์รี่และแอนดี วาชอว์สกี’ แต่สาเหตุที่จู่ๆ ไฉนมีชื่อ ‘ลาน่า วาชอว์สกี’ ขึ้นมานั้น นั่นก็เพราะ ‘ลาน่า วาชอว์สกี’ ก็คือ ‘แลร์รี่ วาชอว์สกี’ ที่ก้าวข้ามจากเพศชายสู่เพศหญิงแบบเต็มตัว เช่นเดียวกับ ‘แอนดี วาชอว์สกี’ ที่ปัจจุบัน คือ ‘ลิลี แอนดี วาชอว์สกี’ นั่นเอง

เข้าใจตรงกันแล้วนะ เราไปต่อกันเลย!

เราจะได้หวนวันชื่นคืนสุขกับนักแสดงคนไหนบ้าง?

"จอห์น วิค หมาผมอยู่ไหน?" เอ๊ย... ‘คีอานู รีฟส์’ จะกลับมารับบท ‘นีโอ’ (NEO) และ ‘แคร์รี แอนน์ มอสส์ ทรีนิตี้’ จะกลับมาเป็น ‘ทรีนิตี้’ (TRINITY) 2 คาแรกเตอร์หลักเช่นเดิม แต่อีกตัวละครสำคัญ คือ ‘มอร์เฟียส’ (MORPHEUS) ที่แต่เดิมรับบทโดย ‘ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น’ (LAURENCE FISHBURNE) นั้นจนถึง ณ วินาทีนี้ก็เป็นไปอย่างบรรทัดข้างต้น

ที่ว่า...มีความเป็นไปได้สูงว่า บทของผู้หยิบยื่น ‘ยา’ ให้ MR.ANDERSON สู่การ ‘ตื่นรู้’ น่าจะไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป โดยผู้รับบทนี้น่าจะเป็น ‘ไมเคิล บี จอร์แดน’ (MICHAEL B. JORDAN)

...

ส่วนอดีตนักแสดงจากภาคเก่าที่จะหวนกลับมาร่วมในโปรเจกต์นี้ ได้รับการยืนยันแล้ว 2 คน คือ JADA PINKETT SMITH ที่จะกลับไปรับบทกัปตันเรือ ไนโอบี (NIOBE) ในภาค THE MATRIX RELOADED และ THE MATRIX REVOLUTIONS เช่นเดียวกับ LAMBERT WILSON ที่จะกลับไปรับบทตัวแสบ THE MEROVINGIAN

ส่วนนักแสดงใหม่ที่ถูกดึงตัวมาเสียบปลั๊กเพิ่ม ตอนนี้ที่ได้รับการยืนยันแล้ว คือ NEIL PATRICK HARRIS ซึ่งถึงแม้จะยังไม่ได้รับการเปิดเผยว่าจะเข้ามารับบทเป็นตัวละครใด แต่เกือบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ‘เขา’ จะได้เป็นตัวละครคนสำคัญสำหรับภาคที่ 4 นี้แน่นอน

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าจะสร้างความผิดหวังให้กับบรรดาสาวกเป็นอย่างยิ่งก็คือ มีความเป็นไปได้สูงแล้วว่า เราจะไม่ได้เห็น AGENT SMITH เจ้าของเสียงหัวเราะอันแสนน่าหวาดหวั่น และผู้ทำให้โลก MATRIX ปั่นป่วน หลัง HUGO WEAVING หนึ่งในสตาร์ที่ร่วมวงกับ FRANCHISE นี้มาตั้งแต่ภาคแรก ยืนยันกับสื่อชัดเจนแล้วว่า "พวกเขาจะต้องเดินหน้าโปรเจกต์นี้ โดยไม่มีผม" เมื่อเดือนมกราคม ปี 2020 เช่นนี้แล้ว เราคงอดเห็นการระเบิดหัวเราะอันแสนน่าหวาดหวั่น ที่ปัจจุบันกลายเป็น MEME สุด POP ในโลกออนไลน์เสียแล้ว...

เมื่อไรจะได้ดู The Matrix 4?

ปัจจุบัน สตูดิโอวอร์เนอร์ บราเธอส์ ประกาศกำหนดการฉายในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการเอาไว้ ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2021 แต่อย่างไรก็ดี หลังมีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้การถ่ายทำต้องหยุดชะงักลงตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2020 เป็นต้นมา ทำให้ล่าสุดมีการประกาศเลื่อนการฉายออกไปเป็นปี 2022 แล้ว

THE NEW MATRIX จะเป็นภาพยนตร์ RATE อะไร?

ทั้ง 3 ภาคของ FRANCHISE ถูกจัดเป็นภาพยนตร์เรต R ทั้งหมด เนื่องจากอุดมไปด้วยฉากแอ็กชั่นรุนแรง คำสบถหยาบคาย และคอสตูมชุดแนบเนื้อ ที่มันออกจะ...โป๊ไปสักนิด ทำให้ไม่สามารถทำเงินจากบรรดาเยาวชนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทางสตูดิโอมีแนวทางใหม่ๆ สำหรับการทำตลาดให้กับ FRANCHISE หมื่นล้าน ที่อุตส่าห์ดึงกลับมาจากอดีตเรื่องนี้หรือไม่?

เพราะหนัง BLOCKBUSTER ในยุคที่ MARVEL ครองโลก ซึ่งสุดจะ FRIENDLY กับ RATING นั้น สามารถทำเงินได้อภิมหาศาลขนาดไหน โดยเฉพาะหากความทะเยอทะยานในครั้งนี้มุ่งหวังไปที่การสร้างภาคต่อเพื่อหากินไปได้เรื่อยๆ ยาวๆ

∙ จากการ์ตูน 600 หน้า ก่อนจะมากลายเป็นภาพยนตร์ BLOCKBUSTER

ก่อนที่จะมากลายเป็นภาพยนตร์แอ็กชั่น ไอเดียของ THE MATRIX เริ่มต้นมาจากการถ่ายเทไอเดียลงไปในหนังสือการ์ตูน โดยเมื่อปี 1999 พี่น้องตระกูลวาชอว์สกี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์เอาไว้ว่า เขาได้ว่าจ้างเพื่อน 2 คน ที่เป็นนักวาดการ์ตูนและเคยมีประสบการณ์ในการวาดการ์ตูนสไปเดอร์แมนมาแล้ว ให้มาช่วยแปลงสคริปต์ THE MATRIX ให้กลายเป็นการ์ตูนหนา 600 หน้า และหากใครยังไม่ทราบงานคอสตูมหลายชิ้นที่ปรากฏในภาพยนตร์ในเวลาต่อมา ก็มีตัวต้นแบบมาจากการ์ตูนหนา 600 หน้านั้นเช่นกัน

คอสตูมสุดหรูดูแพง แท้จริงแล้วทำมาจากต้นทุนที่แสนจำกัด

KYM BARRETT คอสตูมดีไซเนอร์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์ THE MATRIX ยอมรับว่า ชุดโค้ทมันวับ หรือชุดหนังแนบเนื้อที่แสนจะดูแพงนั้น แท้ที่จริงแล้วมันถูกสร้างขึ้นมาจากงบประมาณที่แสนจำกัดจำเขี่ย

ไม่ว่าจะเป็น บอดี้สูทสุดหรูหราของ ‘ทรีนิตี้’ ที่ดูเผินๆ นึกว่าทำมาจากหนังราคาแพงนั้น แท้ที่จริงแล้วทำมาจากพลาสติกสังเคราะห์ราคาถูก หรือชุดทีเด็ดแห่งความทรงจำอย่าง ชุดโค้ทยาวสุดเท่ห์ของ ‘นีโอ’ พระเอกของเรา ซึ่งมองแวบแรกนึกว่าเป็นหนังสัตว์ราคาแพงเว่อร์วังนั้น แท้ที่จริงแล้วมันก็ทำมาจากผ้าใยสังเคราะห์ที่คล้ายหนังสัตว์ราคาถูกเช่นกัน

แว่นกันแดดที่ถูกออกแบบเพื่อนักแสดงโดยเฉพาะ

หากใครได้ชมภาพยนตร์ THE MATRIX แล้วเกิดสะดุดใจกับ ‘แว่นกันแดดสุดชิค’ ของบรรดาเหล่ามนุษย์ถูกเสียบปลั๊กทั้งหลาย แล้วอยากจะไปลองซื้อหามาใส่บ้าง ต้องขอบอกเลยว่า "เสียใจด้วย" เพราะทั้งหมดที่คุณเห็นนั้น มันถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับนักแสดงแต่ละคนเท่านั้น

โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดยหนังสือพิมพ์ชิคาโกทริบูน (CHICAGO TRIBUNE) ว่า แว่นกันแดดเหล่านั้นถูกออกแบบโดย RICHARD WALKER จากบริษัท BLINDE DESIGN ประเทศออสเตรเลีย และมันถูกออกแบบและมีเฉดสีเฉพาะสำหรับคาแรกเตอร์ในแผ่นฟิลม์เท่านั้น

OOPS!...คุณพลาดแล้ว ‘วิลล์ สมิธ’ (WILL SMITH)

พ่อหนุ่ม THE LEGEND ‘วิลล์ สมิธ’ ยอมรับใน CHANNEL YOUTUBE ของตัวเอง เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมาว่า ได้ปฏิเสธการรับบท NEO ก่อนที่มันจะปลิวไปเข้ามือของ ‘คีอานู รีฟส์’ และผลก็เป็นอย่างที่เราๆ ท่านๆ ทราบกันดี

โดยเหตุผลที่ต้องปฏิเสธบทหมื่นล้านนี้ไป เพราะตอนนั้นพ่อหนุ่มดันไปเลือกรับบทนำในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ WILD WILD WEST (ที่สุดท้ายหนังคว่ำไม่เป็นท่า) นอกจากนี้ พี่แกยังรู้สึกว่าบทของ NEO นั้นเหมาะสมกับ ‘คีอานู รีฟส์’ มากที่สุดอยู่แล้ว

และเมื่อ ‘วิลล์ สมิธ’ โบกมือลา จึงทำให้ JADA PINKETT SMITH ซึ่งถูกเลือกให้มารับบท ‘ทรีนีตี้’ ตั้งแต่แรก ก็ต้องถูกถอดออกจากบทนำของฝ่ายหญิงด้วยเช่นกัน เนื่องจากถูกมองว่า ‘เคมี’ น่าจะไม่เข้ากับพระเอกคนใหม่ แต่อย่างไรก็ดีในท้ายที่สุด ‘เธอ’ ก็ได้กลับมาแสดงใน FRANCHISE นี้อีกครั้ง ด้วยการสวมบทบาท ‘ไนโอบี’ ในอีก 2 ภาคต่อมา

∙ จากตารางการถ่ายทำ 90 วัน สู่ 118 วัน

แต่เดิม THE MATRIX มีกำหนดการถ่ายทำเพียง 90 วัน แต่ที่สุดแล้ว...กว่าที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดก็ปาเข้าไป 118 วัน โดยสาเหตุที่ทำให้การถ่ายทำล่าช้าออกไป เนื่องจาก NEO ของเรา ต้องเข้ารับการผ่าตัดคอ หลังได้รับบาดเจ็บในระหว่างการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ เพื่อให้เกิดความสมจริงสมจังในการถ่ายทำ

และนั่นคือเหตุผล ที่เพราะอะไรเราจึงไม่ค่อยเห็น MR.ANDERSON เตะใครในซีนต่อสู้ทั้งในโลกจริงและโลก MATRIX เลย เนื่องจาก ‘คีอานู รีฟส์’ ต้องพักฟื้นหลังการผ่าตัด และต้องสวมเฝือกที่คอ โดยเจ้าตัวยอมรับกับนิตยสารโรลลิ่ง สโตนส์ เมื่อปี 2000 ว่า ในช่วงที่ต้องพักฟื้นนั้น ทำให้ ‘เขา’ เตะได้อย่างยากลำบากในเวลาที่ต้องสวมบท NEO

∙ ปริศนาธรรม กลุ่มอักษรสีเขียว แท้จริงแล้วคือ?

และแน่นอน ปริศนาธรรมที่เหล่าสาวกพยายามตีความเสียเหลือเกินว่า ‘กลุ่มอักษรสีเขียว’ ที่ปรากฏอยู่ในซีนเปิดเรื่องที่ดูเหมือน COMPUTER CODE และกลายเป็น SYMBOLIC สำคัญของ FRANCHISE และถูกสาวกนำไปตีความต่างๆ นานามาหลายขวบปีนั้น ในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผยเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี้เอง เมื่อ ‘ไซมอน ไวสลีย์’ (SIMON WHITELEY) มือ VISUAL-EFFECTS ของ THE MATRIX ให้สัมภาษณ์กับ CNET สำนักข่าวออนไลน์ชื่อดังว่า "ไม่ต้องตีความกันให้มากมายครับ ที่คุณเห็นทั้งหมดนั้น มันก็แค่ตัวหนังสือและตัวเลขที่ผมสแกนมาจากหนังสือสอนทำอาหารของแม่บ้านญี่ปุ่นเท่านั้นเอง!"

อืมมมมม...จบเลยครับพี่

END CREDIT

สิ่งที่ MATRIX เปลี่ยนโลกภาพยนตร์ไปตลอดกาล Whoa!

การถือกำเนิดของ...อะไรที่เรียกว่า "BULLET TIME"

การใช้กล้องแพนรอบนักแสดงที่กำลังอยู่ในสภาพ ‘ซุปเปอร์สโลว์โมชั่น’ ขณะกำลังทำอะไรบางอย่าง กลายเป็นเทรนด์ฮิตของฮอลลีวูดและโลกภาพยนตร์ทันที หลัง ‘คีนู รีฟส์’ โชว์สกิลหงายหลังหลบห่ากระสุนบนดาดฟ้า จนทำให้ผู้ชมถึงกับอ้าปากค้างใน THE MATRIX เมื่อปี 1999 และจากนั้นเป็นต้นมา ซีน Special Effects ในลักษณะนี้ จึงถูกโลกภาพยนตร์ขนานนามว่า "BULLET TIME"

การเข้าพิธีสมรสระหว่าง ‘ฉากแอ็กชั่น’ และ ‘ปรัชญา’ ได้อย่างลงตัว

แม้ยุค 90 จะเต็มไปด้วยหนังแอ็กชั่นบ้าระห่ำ ระเบิดภูเขาเผากระท่อมมากมาย แต่สิ่งที่ THE MATRIX เดินตามรอยนั้น หาใช่เพียงมีฉากแอ็กชั่นสุดว้าวเป็นจุดขายเพียงอย่างเดียว แต่การนำเสนอประเด็น ‘จริง’ หรือ ‘ลวง’ ที่แฝงไปด้วยปรัชญาอย่างนุ่มลึกนั้น ถือว่าเป็นรอยทางที่หาใคร ‘ลอกเลียน’ ได้ยากเหลือเกิน

∙ HOLLYWOOD เวียนมาบรรจบ กับฉากแอ็กชั่นแบบเอเชีย

การส่งพายุหมัดและเท้าประเคนเข้าใส่คู่ต่อสู้อย่างสมจริงสมจัง สำหรับชาวเอเชียอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ เพราะเห็น ‘เฉินหลง’ หรือ ‘เจ็ทลี’ กระโดดเตะให้เห็นจนชินตาแล้ว แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี้ เมื่อ FRANCHISE THE MATRIX นำมาใช้กับฮอลลีวูด มันกลับทำให้เกิด "ปรากฏการณ์ฮิตถล่มทลาย" ขึ้นมา

โดยฉากศิลปะการต่อสู้ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ถูกออกแบบโดย ‘หยวน หวู ปิง’ (YUEN WO PING) ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดัง ที่ถูกว่าจ้างจากโปรดิวเซอร์ ‘โจเอล ซิลเวอร์’ (JOEL SILVER) เพื่อทำให้มนุษย์สามารถใช้หมัดต่อกรกับเครื่องจักรได้ และเพื่อให้คนดูรู้สึกอินกับซีนเหล่านั้น ทั้งนักแสดงและเหล่าสตั๊นต์แมนจึงต้องถูกนำตัวมาเข้าคอร์สติวเข้มจาก ‘หยวน หวู ปิง’ นานถึง 6 เดือนก่อนถ่ายทำ แต่ผลที่ปรากฏคือ มันได้เปลี่ยนฉากต่อสู้ ในหนังจาก HOLLYWOOD ไปตลอดกาล

และสุดท้าย...นอกเหนือไปจากในภาคที่ 4 จะมีหน้าตาและเนื้อเรื่องไปในทิศทางไหนแล้ว คำถามสำคัญของเหล่าสาวก คือ ‘ลาน่า วาชอว์สกี’ จะจัดการกับการเชื่อมต่อระหว่าง MATRIX และโลกจริง ณ ค.ศ.2020-2021 อย่างไร?

ยังจะใช้ ‘โทรศัพท์บ้าน’ หรือ ‘ตู้โทรศัพท์สาธารณะ’ อยู่หรือไม่? OOPS!

ข่าวอื่นๆ: