เป็นอีก 1 คดีดังที่อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ สำหรับ ตำนานขุมทรัพย์ญี่ปุ่น ที่อาจถูกซุกซ่อนใน “ถ้ำลิเจีย” 3 นาทีคดีดัง โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาทุกท่านย้อนกลับไปในปี 2538 ต่อเนื่องถึงปี 2544 กับปฏิบัติการไล่ล่าขุดทองคำที่มีถึง 3 ภาค เรื่องราวเหมือนหนัง แต่มันคือเหตุการณ์จริง

ย้อนกลับไป เมื่อปี 2538 เกิดปรากฏการณ์ “ตื่นทอง” คนทั้งประเทศตระหนกว่า “ถ้ำลิเจีย” อาจมีขุมทองนับพันตัน ธนบัตรจำนวนมหาศาล ซุกซ่อนอยู่..ว่ากันว่า พลตรีชิโมดา และ พลตรีกาชิ นำทหารและเชลยมาสร้างทางรถไฟสายมรณะ แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม ก็จำเป็นต้องถอนกำลังกลับ แต่..ไม่สามารถขนสมบัติกลับไปได้หมด จึงมีข่าวลือว่า ได้นำสมบัติมหาศาลซุกซ่อนตามป่าเขาในพื้นที่ อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ หรือ อ.สังขละบุรี และมีอีกหนึ่งตำนานที่เล่าสอดคล้องกัน ถ่ายทอดจากปากชายคนหนึ่ง

...

ชายชราคนนี้อ้างว่าทำธุรกิจส่งข้าวสารให้กับค่ายทหารของกองทัพญี่ปุ่น ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาอ้างว่า ได้รู้เห็นข้อมูลการขน “ทองคำ” แต่ ณ เวลานั้น เขาไม่กล้าที่จะปริปากพูด "ความลับนี้" ออกไป เพราะเกรงว่าภัยจะมาถึงตัว กระทั่งเข้าสู่วัยชรา เขาได้พูดความลับนี้กับผู้กว้างขวางรายหนึ่ง อยากให้ผู้กว้างขวางนี้ไปพิสูจน์ความจริง ประเทศชาติจะได้รับสมบัติมหาศาล เพื่อเอาทรัพย์สมบัติมาใช้หนี้ในช่วง “วิกฤติประเทศ”

คนที่เชื่ออย่างบ้าคลั่ง และยอมออกตัวคือ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ เจ้าของฉายา “โกโบริน” โดยเขาเขียนเรื่องราวทั้งหมดไว้ในหนังสือ "คนบ้าของแผ่นดิน"

“ผมเชื่อมั่นหมื่นเปอร์เซ็นต์ ต้องพบสมบัติเป็นทองคำแน่ๆ เพราะไม่มีใครบ้าขุดดินลึกถึง 6 เมตร แล้วเอาตู้รถไฟ 3 ตู้ใส่ก้อนหินลงไปฝังไว้”

ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ให้สัมภาษณ์ หลังพบรางรถไฟถูกฝังดินลึก 6 เมตร ใกล้โรงเรียนทองผาภูมิ นอกจากนี้ยังมีคนพบกำไลทองคำ

ขณะเดียวกัน ยังมีคนระดับนายพลให้ความสนใจกับเรื่องนี้ โดยล็อกเป้าหมายไปที่ “ถ้ำลิเจีย” ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี

ขุดสมบัติครั้งที่ 1 ก่อนขุด ได้ทำพิธีบวงสรวงก่อน จากนั้นได้ลงพื้นที่สำรวจ โดยมีทีมงานกว่า 100 คน ระหว่างนั้นก็มีแม่ชีคนหนึ่งอ้างว่าเป็นเมียนายทหารญี่ปุ่น ระบุว่า เคยเห็นรถไฟ 3 ตู้ จอดอยู่บริเวณนี้ เมื่อขุดอยู่ครึ่งวัน ก็ไม่พบอะไร ต่อมาได้มีวิศวกรชาวเยอรมัน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างเขื่อน ออกมาให้ความเห็นว่า จุดที่มีการตรวจสอบ อาจเป็นสถานีรถไฟ หรือหลุมหลบภัยทางอากาศของทหารญี่ปุ่นเท่านั้น ถึงแม้จะเจอความว่างเปล่า แต่ “พ่อโกโบริน” ก็ยังมั่นใจ แต่สุดท้ายก็ไม่เจออะไร และยอมถอยทัพไปในที่สุด

ขุดสมบัติ ครั้งที่ 2 ในปี 2541 ร.ต.ท.เชาวรินธร์ กลับมาอีกครั้ง คราวนี้ขอส่วนแบ่ง 1 ใน 3 หากขุดพบ “อภิมหาสมบัติ” ครั้งนี้ถึงกับใช้ระเบิดเปิดปากถ้ำ ซึ่งคนที่ลงมือคือทีม นายปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะอธิบดีกรมป่าไม้ ในขณะนั้น แต่..เมื่อส่งคนลงสำรวจ สุดท้ายก็ไม่เจออะไร อีกครั้ง

...

ขุดสมบัติ ครั้งที่ 3 เมษายน 2544 ในช่วงรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” โดยมีการขุดถ้ำลงไป 3 ชั้น และก็เป็นอีกครั้งที่มีข่าวลือว่าเห็น “หีบสมบัติ” และคำอ้างว่าเจอ ธนบัตร 100 ดอลลาร์ รวมมูลค่า 25,000 ดอลลาร์ แต่นายกฯทักษิณ ก็แบ่งรับแบ่งสู้ เพราะเห็นแค่ภาพถ่ายเท่านั้น แต่..ในที่สุด ก็กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะ ธนบัตรที่ว่า กลายเป็นแบงก์ปลอม “โกโบริน” ก็ยอมรับว่าถูกหลอก..อีกครั้ง

ในที่สุด ทุกอย่างก็จบลง เมื่อนายกฯทักษิณ สั่งให้ใช้ดาวเทียมตรวจสอบถ้ำลิเจีย พบว่า “ไม่มีอะไร...” “โกโบริน” กลายเป็นฉายาติดตัว ร.ต.ท.เชาวรินธร์ จนวันตาย เรื่องอภิมหาสมบัติกองทัพญี่ปุ่น กลายเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้. 

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

ชม 3 นาทีคดีดังที่น่าสนใจ 

...