จาก ‘นักเตะค่าตัวแพง’ อันดับ 4 ของโลก (ปัจจุบัน) ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมถึงประมาณ 145 ล้านปอนด์! หรือประมาณ 5,504 ล้านบาท แต่เพียง 2 ปีคล้อยหลัง ค่าตัวของ ‘อดีตมนุษย์ทองคำ’ ผู้นี้ ถูกประเมินลดลงเหลือเพียงประมาณ 56 ล้านปอนด์! หรือประมาณ 2,126 ล้านบาท แถมยังสามารถต่อรองได้อีก...อืม

มูลค่าหดหายไปเกือบ 100 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 3,796 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี และแม้จะถูกแปะป้ายลดราคา(ขายด่วน) เสียยิ่งกว่าสินค้าแบรนด์เนมในยุค COVID-19 ที่ยังไม่มี ‘วัคซีน’ รักษา

แต่ก็ยัง... "ไม่มี" สโมสรลูกหนังรายใด แบะท่าให้ความสนอกสนใจอย่างจริงจัง กับราคาค่าตัวที่ถูกแสนถูก (สำหรับทีมระดับ BIG NAME เช่นนี้)

ในเมื่อไม่มีใคร "ชายตาแล" ชายผู้นี้จึงถูกผูกโยงถึงความเป็นไปได้ในการกลับคืนสู่ "รักเก่าที่บ้านเกิด" อดีตชายคา ‘แอนฟิลด์’ อันสุดแสนอบอุ่น ท่ามกลางเสียงก่นด่าของ THE KOP ทั้งมวล ที่ยังไม่สิ้นไฟแห่งความโกรธกริ้วกับการกระทำที่ไม่ต่างจากหญิงสาวมากเสน่ห์ ซึ่งเดินหนีหนุ่มคนเก่าที่พยายามรั้งปลายขาเอาไว้แบบเว้าวอนเป็นครั้งสุดท้ายแบบ "ไม่แยแส" เพื่อมุ่งหน้าไปบ้านเศรษฐีของหนุ่มคนใหม่

...

ถูกต้อง ‘แฟนหงส์’ ย่อมมีสิทธิที่จะไม่ถูกใจสิ่งนี้!

‘คุณ’ รู้แล้วใช่ไหมว่า ‘บุคคล’ เจ้าของข้อความทั้งหมดในบรรทัดข้างบนนั้น คือใคร?

‘ฟิลิปเป คูตินโญ’ (PHILIPPE COUTINHO) PLAYMAKER สัญชาติบราซิล ผู้ประกาศในวันย้ายออกจากสนามแอนฟิลด์อันคับแคบ สู่ชามอ่างยักษ์ขนาดมหึมา ที่มีชื่อว่า ‘คัมป์ นู’ เมื่อเดือนมกราคม 2018 ว่า...

"ผมจะไม่ย้ายไปยังสโมสรอื่นใด แต่กับบาร์เซโลนามันมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไป มันคือความฝัน มันคือสถานที่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนตราสำหรับผม"

ถูกต้อง ความฝันอันบรรเจิดของ ‘พ่อมดสัญชาติบราซิล’ แต่กับสาวก THE KOP มันคือ การทรยศหักหลังที่แสนเจ็บปวด หนำซ้ำมันยังเป็นการแสดงออกถึงความ "ไม่ยี่หระ" ต่อคำเตือนของ ‘เยอร์เกน คลอปป์’ กุนซือที่ปรับแต่งให้เขากลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้นกว่าเดิม และได้หล่นวาทะชวนคิดอย่างลึกซึ้งเอาไว้ ณ ช่วงเวลานั้น ว่า...

"ที่นั่น (บาร์ซา) ‘คุณ’ จะเป็นเพียงแค่นักเตะอีกคนหนึ่ง แต่สำหรับที่แอนฟิลด์ ‘คุณ’ จะเป็นอะไรที่มากกว่านั้น และถ้า ‘คุณ’ อยู่ต่อ พวกเขา (ลิเวอร์พูล) จะปั้นอนุสาวรีย์แห่งเกียรติยศให้กับ ‘คุณ’ แน่นอน!"

และมันก็เป็นจริงตามนั้น... คล้อยหลังเพียง 2 ปีครึ่ง ความฝันอันบรรเจิดก็กลายเป็นฝันร้ายอันแสนขมขื่น เมื่อลีลาบรรเลงเพลงแข้งของเขา กลายเป็นสิ่งที่สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นคาตาลัน "ไม่ต้องการ" และพยายามทุกวิถีทางเพื่อกำจัด "ส่วนเกิน" นี้ออกไปให้จงได้

ทั้งๆ ที่ ‘คูตินโญ’ คือ นักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบาร์เซโลนา และแพงเป็นอันดับ 3 ของโลกฟุตบอล รวมถึงถูกหมายมั่นปั้นมือให้เข้ามาทำหน้าที่แทน ‘เนย์มาร์’ เพื่อขับเคลื่อนแนวรุก MSN ซึ่งแต่เดิมมี ‘เมสซี ซัวเรซ’ และ ‘เนย์มาร์’ ผนึกกำลังยิงคู่แข่งกระจุยกระจายรวมกันนับร้อยๆ ลูก

แต่สิ่งที่ ‘บาร์ซา’ ได้รับ คือ ‘เขา’ เร็วไม่พอ เมื่อถูกถ่างออกไปเล่นทางด้านกว้าง (ปีก) และยังจ่ายบอลได้ไม่เด็ดขาด หรือมีวินัยในการเล่นมากพอ เมื่อถูกวางตัวให้เล่นตรงกลาง (มิดฟิลด์ตัวรุก) ‘เขา’ ดูไม่คล้าย ‘พ่อมดเมอร์ลิน’ คนเดิม ที่เลี้ยงบอลจากด้านข้างและกระชากตัดเข้าด้านใน ก่อนจะสับไกยิงทำประตูได้อย่างสวยงาม ซึ่งเป็นดั่ง "ไม้ตาย" เครื่องหมายการค้าประจำตัวในยามที่สวมเครื่องแบบลิเวอร์พูล

...

แน่นอน! เมื่อเล่นได้ย่ำแย่แบบนี้ สโมสรแบบบาร์เซโลนาไม่เคยจำเป็นต้องอดทนรอใครหน้าไหนก็ตาม (อาจยกเว้นไว้สักคน หรือ ‘เมสซี’) ที่เล่นได้ไม่คุ้มค่าตัวแบบนี้ 18 เดือนต่อมา ‘คูตินโญ’ จึงถูกจัดใส่ห่อ ส่งมอบให้ ‘บาเยิร์น มิวนิก’ ยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี ยืมไปใช้งานชั่วคราว โดยการจ่ายเงินค่ายืมตัว 8.5 ล้านปอนด์ บวกเงินค่าจ้างอีก 13.5 ล้านปอนด์ และออปชันซื้อตัว (หากเกิดยืมไปแล้วถูกใจ) ในราคา 120 ล้านปอนด์

แต่ก็เช่นเดียวกับที่ ‘บาร์ซา’ คูตินโญต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเรื่องความไม่ชัดเจนและการทับซ้อนเรื่องตำแหน่งการเล่นอีกครั้ง

สิ่งที่ ‘พ่อมดบราซิล’ เผชิญหากจะลงเล่นเป็นปีก คือ สโมสรจากแคว้นบาวาเรีย มี ‘แซร์จ กนาบรี’ ‘คิงส์ลีย์ โกมาน’ และขาใหญ่อย่าง ‘โธมัส มุลเลอร์’ จับจองพื้นที่ไว้อย่างมั่นคงแล้ว หรือหากจะลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ ‘โจชัว คิมมิช’ ‘ติอาโก อัลคันตารา’ และ ‘เลออน โกเร็ตซ์กา’ ที่ผนึกกำลังกันเล่น รุก รับ และรักษาความสมดุลในแผงมิดฟิลด์เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบอยู่แล้วเช่นกัน

"บางครั้ง ‘เขา’ ก็สร้างความประทับใจ แต่บางครั้ง ‘เขา’ ก็ดูไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย"

‘คาร์ลไฮนซ์ รุมเมนิเก’ อดีตยอดนักเตะและผู้บริหารของ ‘บาเยิร์น’ ให้ข้อจำกัดความถึงการเล่นของ ‘คูตินโญ’ ในยูนิฟอร์มของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี

"บางครั้ง ‘เขา’ กดดันตัวเองมากจนเกินไป ‘เขา’ ดูราวกับพยายามสร้างตราประทับส่วนตัวในทุกนัดที่ได้ลงเล่น แต่ความเป็นจริง คือ การตัดสินใจทั้งหมดของ ‘เขา’ เวลาที่โลดแล่นอยู่ในสนามมันดูจะไม่ถูกต้องเอาซะเลย" ‘ฮันส์ ดีเทอร์ ฟลิค’ กุนซือบาเยิร์น มิวนิก สำทับถึงการเล่นที่ยังดูสับสนอลหม่านของ ‘คูตินโญ’ เช่นกัน

...

และเมื่อได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า จนต้องพลาดการลงสนาม มาตั้งแต่ช่วงก่อนที่ศึกบุนเดสลีกาต้องหยุดลงเตะชั่วคราว จากปัญหาการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เรื่อยมาจนกระทั่งถึง RESTARTED ในเดือนพฤษภาคม ‘คูตินโญ’ จึงดูเหมือนกับจะ GAME OVER กับ ‘บาเยิร์น’ ลงในที่สุด

เมื่อกลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไป ก็ไปไม่ถึง?

สถานีต่อไปสำหรับ ‘นักเตะค่าตัวล้าน’ ผู้นี้ คือที่ใด?

"เขายังเป็นนักเตะของบาร์เซโลนา" ‘กีเก เซเตียน’ โค้ชผู้กุมชะตาสโมสรจากแคล้นคาตาลัน ยังคงยืนยันในประเด็นนี้

แต่มันคงทำให้ใครเชื่อได้ยากเต็มที นั่นเป็นเพราะทีมยักษ์ใหญ่แห่งสเปนทีมนี้ กำลังประสบปัญหาทางเงินอย่างหนักจากการใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะแบบบ้าเลือดมาหลายฤดูกาลติดต่อกัน จนกระทั่งสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ (FINANCIAL FAIR PLAY) อีกทั้งพิษภัยจาก COVID-19 ยังทำให้ ‘สโมสรเจ้าบุญทุ่ม’ แห่งนี้ รายรับหดหาย จนถึงขั้นมีปัญหาเรื่องการจ่ายค่าเหนื่อยแสนแพงระยับให้เหล่านักเตะซุปตาร์ทั้งหลาย

...

แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา อาจไม่เท่าความจริงแท้และแน่นอนที่ว่า ‘บาร์ซา’ กำลังจ้องมองไปที่ ‘นักเตะความหวังใหม่’ ชนิดตาเป็นมัน นั่นก็คือ ‘เลาตาโร มาร์ติเนซ’ กองหน้าฟอร์มกระฉูด สมบัติล้ำค่าของ ‘อินเตอร์ มิลาน’ รวมถึง ‘เนย์มาร์’ อดีตลูกรัก ที่กำลังร่ำร้องและดิ้นทุรนทุรายอยากกลับบ้านเก่าใจแทบขาด ซึ่งนั่นเท่ากับว่า ‘บาร์ซา’ จะต้องเตรียมเงินก้อนมหึมาขนาดน้องๆ ภูเขาทอง เพื่ออภิมหามหึมาโคตรดีลนี้อย่างแน่นอน

ฉะนั้น เหล่าสตาร์ที่ไม่เป็นที่ต้องการ (และค่าเหนื่อยสุดโหด) ไม่ว่าจะเป็น ‘อุสมาน เดมเบเล’ ‘อองตวน กริซมันน์’ และ ‘คูตินโญ’ ต่างอยู่ในข่ายที่จะต้องถูกกำจัดออกไปทั้งสิ้น เพื่อหาทุนรอนสำหรับความหวังใหม่ที่ว่านั่น...

แต่ในยามที่โลกฟุตบอลหาเงินได้แสนฝืดเคือง จาก COVID-19 เช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันจะมีสักกี่สโมสรที่นอกจากจะมีเงินมากพอแล้ว ยังต้องพร้อมยอมรับกับความเสี่ยงเรื่องฝีเท้าที่คุ้มดีคุ้มร้ายของ ‘คูตินโญ’ ในวันที่ความมั่นใจหดหายไปจนหมดเกลี้ยงแบบนี้

ทำให้อาจจะพูดได้เลยว่า ณ เวลานี้ นอกจากสโมสรในพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่ยังอู้ฟู่เรื่องความมั่งมีจากค่าลิขสิทธิ์ก้อนโตแล้ว คงยากที่จะมีสโมสรจากประเทศอื่นใดกล้าลงทุนกับ ‘ดีลคูตินโญ’

แล้วในบรรดาทีมบิ๊กๆ ทั้งหลายในพรีเมียร์ลีก มีทีมใดอยู่ในข่ายกันบ้างล่ะ?

เช่นนั้น เรามาลองคิดกันเล่นๆ ดู ทีมมหาเศรษฐี ‘แมนฯซิตี้’ น่าจะถูกตัดทิ้งได้ เพราะกำลังมีปัญหาเรื่องทำผิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ ในระยะเวลาอันใกล้นี้ คงไม่กล้าบุ่มบ่ามปิดดีลกับนักเตะราคาโหดๆ แน่นอน ‘ทอตแนม ฮอตสเปอร์’ ก็ไม่ต่างจากทีมมหาเศรษฐี เพิ่งใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะไปบานเบอะในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา ‘เชลซี’ เพิ่งใช้เงินก้อนโตซื้อ ‘ฮาคิม ซีเยค’ และ ‘ติโม แวร์เนอร์’ มาล่วงหน้าแล้ว และตำแหน่งการเล่นก็ทับกับ ‘คูตินโญ’ ด้วย

หรือ...หากอยากจะกลับไปร่วมงานกับนายเก่าอย่าง ‘เบรนแดน ร็อดเจอร์ส’ ที่ ‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ล่ะ ทีมก็น่าจะดูเล็กเกินไปสำหรับคนที่หิวกระหายแชมป์แบบเขา รวมถึงเงินทุนของ ‘เจ้าจิ้งจอกสยาม’ เองก็ยังมีเครื่องหมายคำถาม

เอาล่ะไป ‘แมนยูฯ’ ได้ไหม? เงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับทีมนี้ แต่ปัญหาคือ ‘แมนยูฯ’ จะซื้อ ‘คูตินโญ’ ไปทำไม ในเมื่อปิศาจแดงมีทั้ง ‘บรูโน แฟร์นานเดส’ ‘พอล ป็อกบา’ รวมถึง อืม...นักเตะนามอุโฆษ ‘เจสซี ลินการ์ด’ และ ‘อันเดรียส เปเรรา’ 2 แข้งระดับเทพที่ทำเอาหลายๆ ทีมในพรีเมียร์ลีกแอบมองด้วยความริษยา OOPS!

ฉะนั้นฉะนี้แล้ว ‘คูตินโญ’ จึงถูกผูกโยงชื่อเข้ากับท้องทุ่งแอนฟิลด์ไปอย่างช่วยไม่ได้ เหตุผลแรกเพราะเพิ่งถูก ‘เชลซี’ ฉก ‘ติโม แวร์เนอร์’ กองหน้าที่มีความเร็วเท่ากับเสือชีตาห์ไปต่อหน้าต่อตา เงินยังไม่ได้ใช้ และทีมควรมีการเสริมกำลัง "แนวรุก" บ้าง เพื่อไม่ให้สามสหาย ‘มาเน เฟอร์มิโน ซาลาห์’ ไร้แรงกดดัน และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ‘คูตินโญ’ คือ หนึ่งในนักเตะที่ ‘เยอร์เกน คลอปป์’ โปรดปราน

หากแต่...ล่าสุด ‘เคีย จูรับเชียน’ เอเย่นต์ของ ‘คูตินโญ’ เพิ่งออกมายอมรับกับสื่อแบบตรงไปตรงมาแล้วว่า ดีลที่จะไปจบที่ ‘ลิเวอร์พูล’ เจ้าของแชมป์ 19 สมัยของเกาะอังกฤษนั้น "เป็นเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นได้ยาก" หากคิดถึงสิ่งที่ ‘ลิเวอร์พูล’ กำลังก่อร่างสร้างทีม และ 11 นักเตะตัวจริงที่มี ถึงแม้ว่าหากนักเตะบราซิลรายนี้จะหวนกลับอังกฤษ ทีมที่อยากจะกลับไปคงมีเพียง ‘ลิเวอร์พูล’ เท่านั้นก็ตาม...

ทำให้ปัจจุบัน อนาคตของ ‘ฟิลิปเป คูตินโญ’ ยังคงอยู่ภายใต้เครื่องหมายคำถามว่า สโมสรใดที่พร้อมจะให้ ‘โอกาส’ กับนักเตะที่ปลายสตั๊ดสามารถร่ายมนตราแห่งความน่าตื่นตะลึงได้ทุกๆ วินาทีบนฟลอร์หญ้า ขอเพียงให้สิ่งที่เรียกว่า ความมั่นอกมั่นใจ "กลับคืนมา"

และเพื่อเป็นข้อมูลประกอบสำหรับการค้นหาทีมที่น่าจะลงตัวสำหรับ ‘คูตินโญ’ เราจะนำข้อมูลสถิติการลงเตะในทุกสโมสรยุโรปที่ ‘คูตินโญ’ เคยค้าแข้งมาประมวล เพื่อหา ‘คำตอบ’ ที่ว่านั้น และเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากที่สุดว่า ‘เขา’ เหมาะสำหรับทีมใด เราจะใช้เกณฑ์การลงเล่น 38 นัด ซึ่งจะเท่ากับการลงเตะในพรีเมียร์อังกฤษ มาเพื่อเป็นเกณฑ์ชี้วัดความสามารถของ ‘พ่อมด’ รายนี้

ซึ่งคำตอบที่เราได้ คือ...

END CREDIT :

อ้อ...เรามีอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องไม่ลืม สำหรับสโมสรพร้อมที่จะโอกาสนักมายากลผู้นี้ ก็คือ ปัจจุบันเขาอายุ 28 ปีแล้ว และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ ร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากการกรำศึกมาไม่ใช่น้อย...

และนี่คือ ข้อมูลอาการบาดเจ็บของ ‘คูตินโญ’ นับตั้งแต่ออกจาก ‘วาสโก ดา กามา’ ในประเทศบราซิล เพื่อออกมาขุดทองในยุโรป เผื่อจะมีสโมสรใดอยากจะลองเสี่ยงดึงนักเตะที่น่าจะเหลืออายุการใช้งานในช่วงพีคที่สุดของอาชีพอีกประมาณ 3-4 ปีเป็นอย่างน้อย...

ฟิลิปเป คูตินโญ
(PHILIPPE COUTINHO)
เกิด 12 มิถุนายน 1992
ปัจจุบัน อายุ 28 ปี
สูง 172 เซนติเมตร
น้ำหนัก 68 กิโลกรัม
สัญชาติบราซิล
เกิด ‘ริโอ เดอ จาเนโร’ ประเทศบราซิล
สังกัด ‘บาร์เซโลนา’

• ฤดูกาล 10-11 อินเตอร์มิลาน บาดเจ็บ เข่า พฤศจิกายน 2010 พัก 67 วัน

• ฤดูกาล 11-12 อินเตอร์มิลาน : บาดเจ็บ หมดสติ ตุลาคม 2011 พัก 28 วัน

• ฤดูกาล 11-12 อินเตอร์มิลาน : บาดเจ็บ บริเวณหลัง มกราคม 2012 พัก 7 วัน

• ฤดูกาล 12-13 อินเตอร์มิลาน : บาดเจ็บกระดูกหน้าแข้ง ตุลาคม 2012 พัก 25 วัน

• ฤดูกาล 12-13 อินเตอร์มิลาน : บาดเจ็บ หมดสติ ธันวาคม 2012 พัก 49 วัน

• ฤดูกาล 13-14 ลิเวอร์พูล : บาดเจ็บ ไหล่ กันยายน 2013 พัก 45 วัน

• ฤดูกาล 14-15 ลิเวอร์พูล : บาดเจ็บ ขาหนีบ กันยายน 2014 พัก 7 วัน

• ฤดูกาล 14-15 ลิเวอร์พูล : บาดเจ็บ เข่า มิถุนายน 2015 พัก 3 วัน

• ฤดูกาล 15-16 ลิเวอร์พูล : บาดเจ็บ กล้ามเนื้อต้นขา ธันวาคม 2015 พัก 17 วัน

• ฤดูกาล 15-16 ลิเวอร์พูล : บาดเจ็บ เอ็นร้อยหวาย มกราคม 2016 พัก 21 วัน

• ฤดูกาล 16-17 ลิเวอร์พูล : บาดเจ็บ ข้อเท้า พฤศจิกายน 2016 พัก 43 วัน

• ฤดูกาล 17-18 ลิเวอร์พูล : บาดเจ็บ หลัง สิงหาคม 2017 พัก 25 วัน

• ฤดูกาล 17-18 ลิเวอร์พูล : บาดเจ็บ หมดสติ ตุลาคม 2017 พัก 12 วัน

• ฤดูกาล 17-18 บาร์เซโลนา : บาดเจ็บ เอ็นร้อยหวาย ธันวาคม 2017 พัก 25 วัน

• ฤดูกาล 18-19 บาร์เซโลนา : บาดเจ็บ กล้ามเนื้อฉีกขาด พฤศจิกายน 2018 พัก 19 วัน

• ฤดูกาล 18-19 บาร์เซโลนา : บาดเจ็บ เอ็นร้อยหวาย พฤษภาคม 2019 พัก 10 วัน

• ฤดูกาล 19-20 บาร์เยิร์น มิวนิก : บาดเจ็บ ข้อเท้า เมษายน 2020 พัก 61 วัน

ข่าวอื่นๆ :