หลายเหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนน ครั้งนี้ก็ถือเป็นเหตุการณ์หนึ่ง สำหรับคดี "น้องโตมี่" หรือ ด.ช.โภคิน ดีผิว อายุ 12 ปี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนสายเอเชีย เมื่อคืนวันที่ 4 ธ.ค.53 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน
3 นาทีคดีดัง โดยทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอย้อนรอยเหตุการณ์อุกอาจครั้งนี้ จนนำไปสู่การทลายแก๊งยาเสพติดรายใหญ่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา
เหตุการณ์นี้ นายสุพัฒน์ ดีผิว พ่อค้าขายข้าวแกง พ่อน้องโตมี่ พูดด้วยเสียงสั่นเครือ โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร...
“ผมเสียใจมาก เพราะลูก หลาน รวมถึงพ่อแม่ จะมาเยี่ยมผมช่วงวันพ่อแห่งชาติ จู่ๆ ใครก็ไม่รู้ ไล่ยิงบนถนนสายหลัก อยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายเร็วที่สุด”
คดีนี้กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ผู้คนให้ความสนใจ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ที่ปรึกษา สบ.10) ในขณะนั้น จึงสั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ไล่ล่า
11 ธันวาคม น้องโตมี่ ที่อยู่ในอาการโคม่า ในที่สุดก็จากไปอย่างสงบ หลังต้องทนทรมานมา 1 สัปดาห์
ขณะเดียวกันทางตำรวจก็เริ่มรู้ตัวคนร้ายแล้ว ซึ่งคนคนนั้นคือ “ไอ้จิ๊บ ไผ่เขียว” หรือ นายนพพล ประสงค์ศิล โดยมีพื้นเพเป็นคนชุมชนไผ่เขียว จ.พระนครศรีอยุธยา
...
โดยที่ผ่านมา เคยมีคดียิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งตำรวจได้เก็บปลอกกระสุนไว้...
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับคดีน้องโตมี่ ปรากฏว่า ถูกใช้ยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน
จากการสอบสวนทราบว่า ไอ้จิ๊บ มีพี่น้อง 3 คน มีพี่ชายชื่อไอ้โจ๊ก ชาญชัย ทั้งคู่เป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในชุมชนไผ่เขียว ปลูกบ้านไว้ราคา 3 ล้าน แต่ไม่เคยเข้าอยู่ จึงได้เร่งออกไล่ล่าตัว แถมยังมีหมายจับติดตัว คดีพยายามฆ่าตำรวจ ยิงปืนใส่ด่าน
ช่วงกลางดึก 11 ธันวาคม ตำรวจบุกแมนชั่นแห่งหนึ่งในตำบลคานหาม ไอ้โจ๊ก ไอ้จิ๊บ เดินออกมาที่ลานจอดรถ และกำลังจะขึ้นรถ
“นี่ตำรวจ” เจ้าหน้าที่แสดงตัว
ไอ้โจ๊ก ไอ้จิ๊บ เปิดฉากควักปืนกล็อกยิงใส่ตำรวจ ทำเอาเจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหลบกระสุนพัลวัน ก่อนยิงตอบโต้
เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ไอ้โจ๊ก ไอ้จิ๊บ ยิงพลางหนีไปข้างแมนชั่น ซึ่งบริเวณนั้นเป็นคลอง โดยต่างฝ่ายต่างดวลปืนดังสนั่น ทำเอาชาวบ้านแถวนั้นหวาดผวาไปด้วย
10 นาทีผ่านไป จากเสียงปืนที่ดังเป็นระยะ เริ่มเงียบ แต่กลิ่นควันปืนยังไม่จาง
ปรากฏว่า “ไอ้โจ๊ก” ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต กระสุนเจาะอก ลำตัว รวมหลายนัด ตายอยู่ข้างคลองใกล้กับแมนชั่น ขณะที่ “ไอ้จิ๊บ” หลบหนีลอยนวลไปได้
หลังเคลียร์พื้นที่ ก็ได้เข้าตรวจสอบห้องพัก 3 ห้องของแก๊ง “ไผ่เขียว”
สิ่งที่เจ้าหน้าที่พบคือ ปืนนานาชนิด ปืนสั้น ปืนยาว และแม้แต่ปืนสงคราม รวม 19 กระบอก ยาบ้า ยาไอซ์ และเงินสดมัดรวมกันเกือบ 6 ล้าน!
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มือลั่นไกยิงน้องโตมี่ คือ “ไอ้โจ๊ก” คนที่ถูกตำรวจจับตาย ส่วนไอ้จิ๊บ คือ คนที่ขี่รถจักรยานยนต์ในวันเกิดเหตุ ดังนั้นขอให้มามอบตัวดีกว่า...
ต่อมา ตำรวจขยายผลสั่งอายัดเงินและทรัพย์สินอื่นๆ รวม 70 ล้าน
“คนร้ายกลุ่มนี้เป็นบุคคลอันตราย เป็นการกระทำที่เหี้ยมโหด เป็นภัยสังคม คดีนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าตำรวจจะไม่ละเว้นผู้กระทำผิดเด็ดขาด” พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น กล่าว
ตีสอง 14 ธันวาคม พล.ต.อ.อัศวิน นำกำลังชุดเฉพาะกิจ บุกเงียบไปที่แมนชั่นแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน
...
ชุดจู่โจมได้ย่องขึ้นชั้น 5 พร้อมอาวุธครบมือ โล่กันกระสุน ใช้กุญแจสำรองไขเข้าห้อง 505
เมื่อถีบประตูเข้าไป ไอ้จิ๊บ ยังนอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่ม ตำรวจถือโล่ประชิดเตียง ไฟส่อง ปากกระบอกปืนจ่อ..
“ว่าไงล่ะ ไอ้โจ๊ก” ตำรวจนายหนึ่งแกล้งทำทีเรียกชื่อผิด
“ไม่ใช่โจ๊กครับ ผมจิ๊บครับ ผมยอมแล้วครับ”
ไอ้จิ๊บ ยอมให้จับโดยดี
“หลังผมรู้ว่าเด็กเสียชีวิต ผมเสียใจมากครับ สาเหตุจริงมาจากแค่เรื่องเลี้ยวปาดหน้ากัน” ไอ้จิ๊บ ไผ่เขียว สารภาพในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ต่อมามีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการวิสามัญ ไอ้โจ๊ก ไผ่เขียว ว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้ออกมาตอบโต้อย่างดุเดือดว่า “ผมปฏิบัติหน้าที่ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ หากไม่คิดต่อสู้ ก็คงไม่วิสามัญ”
ในที่สุด ชีวิตของ “จิ๊บ ไผ่เขียว” ก็ถูกพิพากษาจำคุก 50 ปี แต่รับสารภาพจึงได้ลดโทษ ส่วนครอบครัว “ดีผิว” ได้รับเงินชดเชยจากกระทรวงยุติธรรม 1 แสนบาท
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
...