ช่วงโควิด-19 ระบาดทั่วโลก หลายๆ กิจกรรมถูกเบรก รวมไปถึงการแข่งขันกีฬาต่างๆ ไม่เว้น “ฟุตบอล”
หากพูดถึงนักกีฬาฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในนาทีนี้ แน่นอนทุกคนต้องนึกถึง “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” ผู้เล่นคนสำคัญของทีมช้างศึก และสโมสร “คอนซาโดเล ซัปโปโร” ซึ่งขณะนี้ต้องหยุดการแข่งขันชั่วคราว
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาส ได้วิดีโอคอลพูดคุย ซึ่ง “เจ” ก็ตอบรับทันที
แค่เริ่มต้นสนทนา เจก็ออกอาการ “คิดถึงบ้าน” อย่างชัดเจน เพราะอยู่ญี่ปุ่นมาสักพักใหญ่แล้ว ถึงแม้จะมีการซ้อมฟุตบอลอยู่บ้าน ซ้อมกับเพื่อนในสนามบ้าง แต่ไม่ได้แข่งก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเหงาๆ
เรื่องเก่า เล่าน้ำตาซึมๆ กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย
เมื่อเห็นว่า “เจ ชนาธิป” เหงาๆ คิดถึงบ้าน ทีมข่าวฯ จึงเริ่มคุยด้วยเรื่องเก่าๆ เรียกว่าจะมีวันนี้ต้องใช้ทั้งพรสวรรค์และพรแสวง
“เรียกว่าเป็นการสานฝันของพ่อผมก็ว่าได้ พ่ออยากให้ผมติดทีมชาติ เมื่อก่อนบ้านผมขายขนม ผมมาจากครอบครัวไม่ได้รวยอะไร เรามีพี่น้อง 3 คน พี่สาวและพี่ชาย พี่ชายเขาไม่ชอบเล่นฟุตบอล พ่อจึงมุ่งหวังมาที่ผม”
...
เจ เริ่มเล่าย้อนความหลัง ด้วยท่าทีคิดถึง น้ำตาซึม
ตอนเด็กๆ พี่สาวกับพี่ชาย ต้องอดหลับอดนอนมาช่วยพ่อแม่ห่อขนม ส่วนผมไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากซ้อมฟุตบอลอย่างเดียว ซึ่งกว่าจะถึงวันนี้ ต้องบอกว่าพวกพี่ๆ นั้นเสียสละเพื่อผมเยอะ
“การเล่นฟุตบอลนั้น ถึงแม้ผมจะมีพรสวรรค์ แต่ก็ต้องฝึกฝน มีพรแสวงด้วย พรสวรรค์เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้เราเก่งได้ ตอนเด็กนั้น เรียนก็ไม่ได้เรื่อง เล่นฟุตบอลก็ไม่รู้จะได้เรื่องไหม...” ตึงโป๊ะ กองกลางทีมชาติไทย เล่นมุก พร้อมอมยิ้ม..
นักเตะจอมพลิ้ว เล่าต่อว่า สมัยนั้นก็พยายามคัดตัวเข้าโรงเรียนดังๆ เพื่อไปเล่นฟุตบอล ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ มองว่าเราเป็นคนตัวเล็ก ซึ่งเด็กๆ นั้นผมตัวเล็กมาก (น้ำตาซึม) ยิ่งตอนเด็กๆ ตัวเล็กมาก แกร็น แห้ง เป็นคนกินยาก
“แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญทำให้เราเล่นฟุตบอลได้ถึงวันนี้ คือ การที่ลงฝึกซ้อม มีเบสิกทักษะที่ดีกว่าคนตัวใหญ่ ฟุตบอลไม่ได้ใช้แค่กำลังอย่างเดียว แต่มันต้องใช้สมอง ใช้การอ่านเกม มันต้องมีความพยายาม มีการฝึกฝน”
การพิสูจน์ตัวเองในต่างแดน เจ็บ คนดูถูกจากคนไทย แต่ต้องก้าวผ่าน
เมื่อถามถึง โอกาสได้ไปเล่นลีกอาชีพที่ญี่ปุ่น ต้องใช้ความสามารถในการพิสูจน์ตัวเองเยอะ.. เจ ถึงกับตอบสวนทันทีว่า ตัดเรื่องไปนานาชาติก่อน แค่จะไปคนไทยก็ดูถูกคนไทย ไป..เล่นไม่ได้หรอก! , ไป..ยังไงก็ไม่ได้ลง, ไปเพื่อการตลาด! นี่แหละคนไทย(บางคน) ซึ่งมักดูถูกกันเองก่อน แต่..เรื่องการออกความคิดเห็นนั้น ผมก็เข้าใจ ว่าสามารถแสดงออกกันได้
“แต่ผมก็ต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า ผมเล่นได้ ทำให้คนญี่ปุ่นยอมรับผมให้ได้ ซึ่งตรงนี้เองคือความภูมิใจของผม ถึงแม้เราจะตัวเล็ก แต่เรายังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้..”
นอกจากเรื่องราวในชีวิตของ เจ แล้ว ยังมีเรื่องราวดีๆ ออกจากปากของ ซุป’ตาร์ ตัวเล็กหัวใจใหญ่คนนี้ เช่น ทำอย่างไรให้นักเตะญี่ปุ่นยอมรับ ความตั้งใจใฝ่ฝันที่อยากจะพาทีมชาติไทยไปบอลโลก แม้ใครจะบอกว่า บ้า..เป็นไปไม่ได้ สามารถรับชมในคลิป
...
อ่านข่าวที่น่าสนใจ